ผู้เขียน หัวข้อ: มะเร็งปากมดลูกครองแชมป์เหตุหญิงไทยไม่กล้าหาหมอ  (อ่าน 952 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด

ถึงแม้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ทราบถึงความร้ายแรงของโรคเหล่านี้ แต่ผู้หญิงบางคนก็อายที่จะพบแพทย์และตรวจภายใน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ผู้หญิงทุกคนหันมาใส่ใจตนเองเพื่อที่จะปกป้องตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ ซึ่งโชคดีที่ยุควิทยาการล้ำหน้านี้ทำให้มีวัคซีนป้องกันไวรัส HPV การฉีดวัคซีนป้องกันจะมีประสิทธิภาพสูงสูดคือช่วงก่อนมีเพศสัมพันธ์ ฉีดให้กับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 9 ปีขึ้นไป แต่ก็มิได้หมายความว่าผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วจะรับวัคซีนป้องกัน HPV ไม่ได้ เพราะวัคซีนยังคงมีประโยชน์อยู่ เนื่องจากวัคซีนจะสามารถป้องกันไวรัส HPV ในสายพันธุ์ที่ไม่เคยติดมาก่อน และเป็นเรื่องที่น่ายินดีคือวัคซีนนี้ก็สามารถฉีดให้ผู้ชายได้ด้วยเพื่อป้องกันโรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งทวารหนักและโรคหูดหงอนไก่ สำคัญมากที่ต้องฉีดให้ครบ 3 เข็ม ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเชื้อ HPV รวมไปถึงมะเร็งปากมดลูกบางประการ เช่น ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกชนิด ก็น่าจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดเพราะความจริงแล้วการแพร่หรือติดเชื้อ HPV นั้น เกิดขึ้นได้โดยเพียงการสัมผัส ฉะนั้นหนึ่งในวิธีการป้องกันเชื้อ HPV รวมไปถึงมะเร็งปากมดลูกที่นอกเหนือการรับวัคซีน คือ การรักเดียวใจเดียว ไม่เปลี่ยนหรือมีคู่นอนบ่อยๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้


ข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน
ปัจจุบันวัคซีนมีการเก็บผลการศึกษาประสิทธิภาพในระยะยาวมากกว่า 7 ปี ในประเทศแถบแสกนดิเนเวียน พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปานามา และมาเลเซีย ได้บรรจุการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส เป็นวัคซีนพื้นฐานและฉีดฟรีให้เด็กหญิงอายุ 12-13 ปีทุกคน พบว่าทำให้อัตราระบาดลดลง นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำแนะนำให้พิจารณาการให้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเป็น national immunization

Thairath