ผู้เขียน หัวข้อ: สั่งสอบแม่ฉีดวัคซีนหวัดลูกตายในครรภ์ที่สตูล-คมชัดลึก -วันพฤหัสบดีที่28 มกราคม 25  (อ่าน 3723 ครั้ง)

pradit

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 322
    • ดูรายละเอียด
คมชัดลึก :สธ.สั่ง ตรวจสอบมูลเหตุเด็กในครรภ์เสียชีวิตหลังแม่ฉีดวัคซีนหวัด 2009 ที่สตูล แต่มั่นใจวัคซีนหวัดไม่ใช่มูลเหตุ ส่วนอีกรายล้มต้องผ่าตัดสมอง เพราะหกล้มไม่เกี่ยวฉีดวัคซีน ลั่นเดินหน้าฉีดใน 5 กลุ่มเสี่ยงต่อไป ด้านหญิงมีครรภ์ผู้โชคร้าย เผยคลอดลูกมา 3 ครั้งไร้ปัญหา แต่หลังจากฉีดวัคซีนกับแท้งลูก จี้ผ่าศพลูกพิสูจน์ เพื่อความเป็นธรรม

สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 กลายเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลังจากที่มีรายงานข่าวระบุว่า หญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่ จ.สตูล 2 ราย ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลทุ่งหว้า เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา เกิดอาการผิดปกติทางร่างกายเกี่ยวกับอาการข้างเคียง ทำให้ชักเกร็ง ขณะที่อีกรายเกิดอาการลูกในท้องไม่ดิ้น เมื่อตรวจสอบพบว่าลูกในท้องเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ

แจงหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนทำลูกตาย
 ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายสำรวม ด่านประชันกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เด็กเสียชีวิตเพียง 1 รายเท่านั้น ส่วนอีก 1 รายได้ส่งตัวไปผ่าตัดทำคลอดที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ คือในรายของนางดวงพร แสงสุวรรณ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/1 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล อาชีพทำสวน โดยนางดวงพรตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน เป็นท้องที่ 3 และรับวัคซีนในวันที่ 25 มกราคม ต่อมาวันที่ 26 มกราคม นางดวงพรมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดศีรษะ  แพทย์ให้การรักษา จากนั้นในวันที่ 27 มกราคม นางดวงพรมาที่โรงพยาบาลทุ่งหว้า ด้วยอาการชักเกร็ง ความดันโลหิตสูง จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ แพทย์ผ่าตัดนำเด็กในครรภ์ออกมามีน้ำหนัก 1,800 กรัม เป็นเพศชาย อยู่ในห้องผู้ป่วยโรงพยาบาลหาดใหญ่ เด็กตัวเล็ก อาการไม่ค่อยดีต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนแม่ต้องผ่าตัดสมอง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ

 ส่วนอีกรายคือนางวันทนา ละเมาะ อายุ 33 ปี อาชีพทำประมงและรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 45/15 หมู่ 2 ต.ทุ่งหว้า ผู้ป่วยตั้งครรภ์ 29 สัปดาห์ และตั้งครรภ์มาแล้ว 4 ครั้ง โดยมารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อวันที่ 25 มกราคม จากนั้นวันที่ 26 มกราคม ผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทุ่งหว้า พร้อมบอกอาการว่า เด็กในท้องไม่ดิ้นมา 1 วันแล้ว เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเด็กในครรภ์ไม่ดิ้น จึงนำส่งต่อที่โรงพยาบาลสตูล โดยมี นพ.พิภพ เอี้ยวสกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช ประจำโรงพยาบาลสตูล เป็นผู้ตรวจพบว่าเด็กเสียชีวิตก่อนจะมาถึงโรงพยาบาลสตูล

แม่เด็กขอความเป็นธรรม
 ขณะนี้นางวันทนาพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องนารีเวชย์ ชั้น 2 รพ.สตูล โดยแพทย์ใช้ยาเร่ง (ยาเหน็บ)สอดในช่องคลอด เพื่อให้เด็กที่เสียชีวิตในช่องคลอดหลุดออกมาเอง ส่วนแม่ปลอดภัยดี ไม่มีอาการแทรกซ้อน" นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูลกล่าว

 ด้านนางวันทนากล่าวว่า คลอดลูกมาแล้ว 3 คน ที่ผ่านมาอาการปกติหมด กระทั่งท้องนี้เป็นท้องที่ 4 โดยก่อนหน้านี้ได้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 จากนั้นต่อมาลูกก็เสียชีวิตในครรภ์ อย่างไรก็ตามจะนำศพลูกไปตรวจพิสูจน์ เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย

สธ.แจงหญิงมีครรภ์ฉีดวัคซีนหวัด
  เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ศิริวัฒน์   ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา ร่วมกันแถลงว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รายที่ 1 เป็นหญิงอายุ 39 ปี ครรภ์ที่ 4 อายุครรภ์ 29 สัปดาห์ หลังจากฉีดวัคซีน 1 วัน แม่รู้สึกว่าเด็กดิ้นน้อยลง มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทุ่งหว้า และส่งต่อมายังโรงพยาบาลสตูล ตรวจสอบพบว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ยากระตุ้นเพื่อเร่งคลอด โดยครั้งที่ 1 ให้ยาเหน็บกระตุ้นการคลอดเมื่อวันที่ 27 มกราคม วันนี้ (28 ม.ค.) ได้ให้ยาซ้ำอีก ขณะนี้ผู้ป่วยยังไม่มีอาการเจ็บครรภ์ ปากมดลูกยังไม่เปิด เย็นวันนี้วางแผนจะให้ยาเหน็บกระตุ้นครั้งที่ 3 หากยังไม่เจ็บครรภ์ ปากมดลูกยังไม่เปิดก็จะผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ขณะนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด        
 
 ส่วนรายที่ 2 เป็นหญิงอายุ 32 ปี ตั้งครรภ์ 33 สัปดาห์ ได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 25 มกราคม หลังจากนั้น 1 วัน หกล้ม บาดเจ็บที่ศีรษะ ญาตินำส่งโรงพยาบาลทุ่งหว้า และส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 27 มกราคม มีประวัติครรภ์เป็นพิษและมีอาการชัก แพทย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบมีเลือดออกในสมอง จึงผ่าตัดสมองเพื่อช่วยชีวิตแม่ และผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้องเพื่อช่วยชีวิตเด็ก ขณะนี้ทั้งแม่และเด็กอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเด็กเป็นเพศชาย น้ำหนัก 1,800 กรัม ใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่วนแม่ใส่เครื่องช่วยหายใจเช่นกัน สมองยังบวม ศัลยแพทย์ระบุว่าเหตุที่เลือดออกในสมองเกิดจากอุบัติเหตุหกล้ม ไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด  

สั่งตรวจสอบหาสาเหตุ
 นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งตรวจสอบว่าหญิงมีครรภ์ที่มีความผิดปกติทั้ง 2 รายดังกล่าวข้างต้น ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการรับวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขยังคงให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 แก่กลุ่มเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ต่อไปตามแผนและแนวทางปฏิบัติที่กำหนด เพื่อประโยชน์ในการป้องกันการป่วยและการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง และเน้นในเรื่องความปลอดภัยของผู้รับวัคซีน เช่น การฉีดวัคซีนและเฝ้าระวังอาการ 30 นาที ในโรงพยาบาล หากมีอาการหลังฉีดวัคซีนก็จะสามารถดูแลได้โดยเร็ว ในขณะเดียวกันได้จัดระบบการเฝ้าระวังหลังฉีดวัคซีนอย่างใกล้ชิดด้วย  

  ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวต่อว่า จากการตรวจข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่า ในขณะนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังฉีดวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในประเทศของตน โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เช่นเดียวกับในประเทศไทย อย่างไรก็ตามจากข้อมูลในระบบเฝ้าระวังพบว่า เกิดความผิดปกติในหญิงมีครรภ์ เช่น การแท้ง และทารกตายในครรภ์ ภายหลังการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับเดียวกันกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป เมื่อไม่มีการฉีดวัคซีน ยันฉีดวัคซีนในหญิงมีครรภ์ต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 มกราคม 2010, 13:51:48 โดย somnuk »