ผู้เขียน หัวข้อ: การวิเคราะห์จริตมนุษย์ 6 ประเภท : พุทธิจริต  (อ่าน 1510 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
พุทธิจริต

จะเรียนรู้เร็ว พูดอะไรเป็นเหตุเป็นผล ตัวกูของกูไม่สูงต่ำกว่าวิตก พร้อมจะรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นสูงขึ้น จึงยอมรับความคิดใหม่ซึ่งมีเหตุผล จิตปักอยู่ในเหตุผลจึงตรงประเด็น ไม่เอาเปรียบ มีความเมตราท่วมจิต เพราะคิดตามความเป็นจริง และไม่คิดในทางลบ ต้องการพัฒนาขัดเกลาจิตใจ ตลอดเวลา จึงเห็นปัญหาและทางแก้ เมื่อเห็นผู้อื่นจึงเกิดความเมตราไปด้วย ในคนพูดเต็มไปด้วยสติและปัญญา แตกต่างวิตกที่พูดแยะทำแยะแต่ผิดๆถูก เป็นคนที่เชื่อถือได้

หน้าตาผ่องใส แตกต่างกับวิตกเพราะฟุ้งซ่านจึงเหี่ยวย่นเหนื่อยอเน็จอนารถ พุทธิจึงหน้าไม่ทุกข์

มีสมาธิเข็มแข็ง มองโลกตามความเป็นจริง มีพลังซึ่งแตกต่างจากโมหะซึ่งไม่เบิกบาน เศร้า ถึงเวลาพูดก็ไม่พูด ไม่มีพลัง

ตา สว่างไสว รู้ โทสะ ตาแข็งโปน เป็นประกายแห่งความเหี้ยมดุ โมหะ ตาเยิ้มแต่เศร้า ราคะจะเปล่งปลั่ง วิตกตาจะหลอก แหลก

จะรู้จักสังเกตุสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นสีหน้า เพื่อที่จะปรับความคิด การพูด การกระทำของตัวเอง หาได้ลำบากในสังคม

เป็นกัลยาณมิตร ต้องการให้คนอื่นก้าวหน้า คบคนประเภทก็เป็นคนประเภทนั้น ควรคบคนที่สูงกว่าดีกว่าเรา ถ้าเลือกได้ แต่การให้ความช่วยเหลือต้องให้กับทุกคน การให้ความช่วยเหลือต้องทำโดยไม่ให้ตัวเองเดือนร้อน หากเรามีกำลังจิตไม่พอจะถูกครอบหงำโดยคนรอบข้าง

น้อยคนที่จะเป็นเพราะต้องมีเหตุผล ต้องมีพลังศรัทธาตามด้วย ความอยากที่จะรู้ จิตใจเป็นอย่างไร

ถ้านายเป็น

ควรทำงานด้วย เพราะชอบแนะนำชอบสอน ไม่ได้ตำหนิ เปิดให้ก้าวหน้าพัฒนา และพึ่งพาได้ และสามารถช่วยเหลือได้ เพราะเป็นคนมีธรรม และต้องการพัฒนา

ถ้ามีลูกน้องเป็นพุทธิจริต

สามารถพัฒนาได้ ให้เป็นมือขวา รู้สูงต่ำ อะไรควรไม่ควร

เลิกเอาตัวเราเป็นที่ตั้ง ควรดูคนที่เราคุยด้วยเป็นประเภทอะไร จะทำให้เราเข้าใจเขา เพราะวิธีในการพูดคุยกับคนประเภทหนึ่งย่อมแตกต่างจากคนอีกประเภทหนึ่ง

ข้อเสียของพุทธิจริต

มีความมั่นใจมาก จิตใจราบรื่น เป็นสุขดี ทำให้มีแรงเฉี่อย ทำให้ไม่ต้องการพัฒนาจิตใจด้านธรรม ไม่ต้องปรับปรุงเมื่อเจอพลังด้านลบ อาจเอาตัวไม่รอด หรืออาจจบลงด้วยความเครียด มึนงงว่าจะแก้ได้อย่างไร ไม่เข้าใจคนอยู่ในมุมมืดมุมอับ ต้องพึ่งธรรมว่าจะฝ่าฟันโลกไปได้