ผู้เขียน หัวข้อ: การวิเคราะห์จริตมนุษย์ 6 ประเภท : ราคะจริต  (อ่าน 1488 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ราคะจริต

คนที่มีลักษณะราคะจริตจะเป็นผู้ที่ชอบรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นคนจิตประณีตละเอียดอ่อน จิตจะเกาะอยู่ในสัมผัสทั้งห้าอยู่ตลอดเวลา

เป็นคนที่ชอบในเรื่องของรูปลักษณ์ จะเป็นคนแต่งตัวเก่งออกมาดูสวยงาม ดูเก๋และเท่ น่าชวนมองชวนดู เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส มีบุคลิกดี มีมาด เพราะมีสติค่อนข้างสูง จึงสามารถควบคุมอิริยาบถของร่างกายตัวเองได้ค่อนข้างถ้วน อย่างเช่น ถ้ายืนอยู่ ก็จะรู้ว่าจะต้องวางตำแหน่งเท้าเช่นไร ตำแหน่งมือจะสูงต่ำมากน้อยแค่ไหน หลังต้องเหยียดตรง จะยิ้มประมาณไหนถึงจะออกมาดูดี จะออกมาดูน่ารัก และดูมีมาดในทางกลับกัน ก็จะชอบคนที่มีบุคลิกดีเป็นสิ่งสำคัญ ชอบความสวยงามของสิ่งของ และสถานที่ จะชอบไปสถานที่ที่สวยงามและหรูหรา ส่วนจะมีสาระหรือประเทืองปัญญาหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ พยายามหลีกเลี่ยงความสกปรกความไม่สวยงามของรูปลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสถานที่

แต่คนกลุ่มนี้มักสติหลุดควบคุมจิตใจไม่ค่อยได้มากกว่าจริตอื่นๆ หากไปเจอเพศตรงข้ามที่มีรูปลักษณ์ดี จะมีอาการยิ้มหวาน ตาเยิ้ม หรือไม่ก็มีจริตจะก้านต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด

เวลาพูดก็จะสามารถควบคุมน้ำเสียงให้ออกมาไพเราะนุ่มนวล ที่สำคัญคือ คำพูดที่ออกมาจะเต็มไปด้วยมธุรสพจนา มีคำหวานหูเต็มไปไปหมด ระมัดระวังคำพูดมาก จะหลีกเลี่ยงคำพูดที่จะทำร้ายความรู้สึกคน สามารถพูดออกมาได้หวานแต่ใจอาจคิดอีกอย่างได้เป็นนิสัย ในขณะเดียวกันชอบคำพูดหวานหูเช่นเดียวกัน ชอบคำพูดเอาอกเอาใจ จะจริงใจหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขอให้ได้ยินคำหวานเอาไว้ก่อน สิ่งที่คนในจริตนี้ทนไม่ได้คือ คำพูดเสียงดัง ตะคอก หยาบ ซึ่งได้ยินแล้วหัวใจเสมือนจะแตกสลาย พร้อมจะสู้ตาย

เป็นคนชอบแสวงหาของอร่อยทาน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแสนไกลแค่ไหนก็จะต้องไปแสวงหามาทาน เนื่องจากจิตไปเกาะตรงรูปรส ซึ่งจะต้องได้รับการสนองตอบ รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่สวยงาม ไม่ว่าเสื้อผ้าหรือสิ่งประดับ ต้องไปซื้อไปหามาครอบครอง

เป็นคนชอบจินตนาการ ช่างฝัน อยากจะได้โน่นได้นี่ อยากจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ และมักชอบอ่านนวนิยาย ซึ่งช่วยจรรโลงความฝัน

โดยสรุป เป็นคนที่ติดอยุ่สัมผัสทั้งห้าและต้องกอบโกยแสวงหาสิ่งต่างๆ มาเพื่อสนองตอบรูปรสกลิ่นเสียง กล่าวสั้นๆ เป็นคนโลภ ติดวัตถุ ไม่สนใจเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากสัมผัสทั้งห้า ไม่คิดอะไรลึกซึ้ง ท่าทางดูดี คำพูดดูหรูหราพอหลอกตาคนได้ แต่แท้จริงแล้วภายในกลวงไม่มีสาระหรือแก่นสารอะไรลึกซึ้ง

จุดแข็งจุดอ่อนของราคะจริต

เป็นคนที่มีความประณีต จิตใจอ่อนไหว ละเอียดอ่อน จะสนใจเรื่องเล็กเรื่องน้อย อาจจะติดหยุมหยิม ดังนั้น จึงเหมาะกับทำงานประณีต ผลงานจะประณีต เรียบร้อย

แต่เป็นคนช่างสังเกต สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้หมด

มีความเมตราสูง เพราะราคะกับเมตราอยู่ในคลื่นค่อนข้างใกล้เคียงกัน

มีความสามารถในการติดต่อประสานงานได้ดี เพราะสามารถเข้ากับทุกคนได้ดี พูดจาดี มีบุคลิกดี น่าดูน่าชมเป็นที่ชอบของคนที่พบเห็น เหมาะนักการทูต ประชาสัมพันธ์

จุดอ่อนสำคัญของคนกลุ่มนี้คือ จิตเป็นสมาธิยาก ที่จริงแล้วเขาจะไม่สนใจการฝึกจิต ทำสมาธิ การขาดสมาธิทำให้ทำงานใหญ่ยาก

ไม่มีเป้าหมายสำคัญในชีวิต นอกจากจะมุ่งเน้นการแสวงหาสิ่งต่างๆ มาสนองต่อสัมผัสต่างๆ ทำให้เสียเวลากับเรื่องไร้สาระและไม่มีความสำคัญหรือจำเป็น

เป็นคนชอบอิจฉาริษยา ใจน้อย และช่างปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราว ได้ยินคำพูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็นำมาปรุงแต่งเสียเป็นเรื่องใหญ่โต บางครั้งปรุงแต่งมากเสียจนไม่รู้ว่าอันไหนเป็นเรื่องจริงอันไหนเป็นเรื่องที่ตัวเองได้ปรุงแต่งขึ้นมา และที่เป็นปัญหาก็เพราะว่าคนในจริตนี้มักจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองปรุงแต่งว่าเป็นจริง ทำให้สามารถอยู่ในชีวิตแห่งความฝัน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ท่ามกลางความเสียใจปวดร้าวใจ ความเครียดได้

เป็นคนขี้เกรงใจจนเป็นคนขาดหลักการ ทำให้ไม่มีความเป็นผู้นำ แต่ชอบทำตัวเป็นผู้นำ แต่ด้วยความไม่มีหลักการ จึงมักสร้างปัญหาในองค์กร

เป็นคนชอบพูดหวาน ทำให้ค่อนข้างพูดไม่ตรงกับความจริงค่อนข้างเก่ง และแนบเนียน จึงกลายเป็นคนมีเหลี่ยมจัดไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม คำพูดฟังดูดีดูเพราะ แต่ยอกย้อน ไม่ตรงไปตรงมา

เมื่อเบรกแตก ไม่ได้ดังใจ ความนุ่มนวลจะเปลี่ยนเป็นอารมณ์รุนแรง ทำได้ทุกอย่างตามอารมณ์ เพราะไม่มีหลักการหรืออะไรอยู่ในตัวแน่นอน สิ่งที่เป็นกรอบอยู่คือการรักษาภาพลักษณ์ หากไม่สนใจภาพลักษณ์ตัวเองเหมือนไร ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ในแง่นี้จึงต่างจากโทสะจริตที่เป็นคนที่มีหลักเกณฑ์ หลักการเต็มไปหมด แม้จะโกรธง่ายแต่จะหลักเกณฑ์ต่างๆ ค่อยยั้งยั้งพฤติกรรมไว้ตลอด

ถ้าท่านเป็นราคะจริต

พิจารณาให้เห็นโทษของการที่จิตขาดสมาธิ ทำให้เกิดผลเสียต่อตัวท่านอย่างไร และกระทบต่อภาพลักษณ์ของท่านอย่างไร

กำหนดเป้าหมายที่สำคัญและแน่นอน มิฉะนั้นแล้ว จะเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ เช่นขับรถไปไกลเพื่อทานของอร่อย เสียเวลาทะเลาะกับแฟน

หมั่นสวดมนต์ พวกนี้ไม่ชอบสวดมนต์ ไม่ชอบสมาธิ ถ้าทำก็ทำแบบฉาบฉวย เหมือนแมวกลัวน้ำ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีสมาธิเพราะมีแต่สติ ไม่เชื่อในศาสนา เพราะยึดในรูปรสกลิ่นเสียง

ควรพิจารณามรณานุสติ พิจารณาสิ่งสกปรก

ถ้ามีหัวหน้าเป็นราคะจริต

เนื่องจากเป็นคนไม่ตรง มองไม่ตรง ทำให้ปกครองด้วยความไม่ยุติธรรม เพราะมักชอบคนสวยหล่อ ทำให้จิตใจเอนเอียงไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ดังนั้น หากเจอหัวหน้ามีจริตนี้ ต้องพยายามแต่งตัวให้ดี ทำงานให้ออกมาดูประณีต สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย

พูดจาไพเราะหวานหู และให้ความเคารพเพราะถ้าไม่เคารพจะทำให้เขาไม่พอใจ อย่าไปวิจารณ์หัวหน้าในที่สาธารณะ หรือทำให้เสียหน้า จะโกรธอย่างไม่ให้อภัย

ถ้ามีลูกน้องเป็นราคะจริต

ไว้วางใจได้ เพราะเป็นคนละเอียดรอบคอบ ตั้งอกตั้งใจทำงานละเอียดอ่อน ต้องการเอาใจ สอนมากไม่ได้พูดมากไม่ได้ แต่ถ้าชมแล้วจะเป็นปลื้มและจะสู้ตาย

มอบหมายให้ทำงานที่ประณีตได้ ผลงานจะออกมาเรียบร้อย โดยเฉพาะหากมีระบบต่างๆ วางไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

ชอบงานที่ได้หน้า เช่นประชาสัมพันธ์ ที่ต้องโชว์รูปโชว์หน้า หรืองานตกแต่ง งานที่ติดต่อออกไปข้างนอก แต่เกลียดงานที่ต้องคิดอะไรลึกซึ้ง อย่าไปบังคับให้คิดเพราะเหมือนไปรีดเลือดจากปู

ชอบเป็นผู้นำ แต่บ่อยครั้งจะคอยปกป้องลูกน้องในส่วนในฝ่ายตัวเอง จนบางครั้งกระทบผลประโยชน์ขององค์กร

เนื่องจากเป็นคนที่ชอบพูดคำหวาน หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่เพราะหู ทำให้หัวหน้าอาจจะได้รับฟังได้ยินแต่เรื่องที่สวยงาม และอาจมีการปกปิดสิ่งที่ไม่น่าฟังเอาไว้ค่อนข้างเก่ง

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มิถุนายน 2012, 22:54:17 โดย ABBA »