ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก "เบส-ณัฐวัตร" เด็ก 9 ขวบแฟนพันธุ์แท้พุทธทาสภิกขุ  (อ่าน 1671 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด


น้องเบสกับคุณแม่

       ท่ามกลางเด็ก ๆ วัย 9 ขวบทั่วประเทศ "ด.ช.ณัฐวัตร ครองชนม์" หรือ เบส คือหนึ่งในเด็กวัย 9 ขวบที่มีความรู้เรื่องหลักธรรมะมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
       
       เห็นได้จากการเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการแฟนพันธุ์แท้ ตอน ศิษยานุศิษย์..พุทธทาสภิกขุ ที่ไม่น่าเชื่อว่า เด็กเพียง 9 ขวบจะรอบรู้เรื่องพระพุทธศาสนาชนิดแตกฉานเกินวัยจนทำให้ผู้ชมคนดูทั้งในห้องส่ง และผู้ชมทางบ้านถึงกับทึ่งกับความรอบรู้ไปตาม ๆ กัน และถึงแม้ว่าจะได้แค่รองแชมป์ แต่ก็สร้างภาพจำที่น่าจดจำ และน่าชื่นชมได้ไม่รู้ลืม
       
       วันนี้นับเป็นโอกาสอันดีของ ทีมงาน Life & Family ที่ได้พูดคุยกับเด็กชายวัย 9 ขวบรายนี้ โดยเบส เล่าให้ฟังในงานมหกรรมลานโพธิ์ ตอน งานวัดลอยฟ้า เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เขาชื่นชอบพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะหลักคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุที่จำขึ้นใจได้เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังท่องคาถาชินบัญชรได้อย่างคล่องแคล่ว ปัจุบันเรียนอยู่ชั้นป.4 โรงเรียนบ้านซับตารี ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี
       
       "ผมชอบพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก เป็นสิ่งที่ผมสนใจเอง ไม่มีใครยัดเยียด เริ่มจากหนังสือธรรมะในบ้าน และค่อย ๆ สนใจเรื่อยมาจนมาเป็นหนังสือของท่านพุทธทาสภิกขุ เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้ นั่นก็คือ การไม่ยึดถือในตัวกูของกู ส่วนการศึกษาหลักธรรม และคำสอนต่าง ๆ สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ หรือน่าเบื่อเลยครับ กลับแต่จะมีเรื่องราวให้ค้นหา และน่าติดตามมากมาย" เด็ก 9 ขวบผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนารายนี้เล่าถึงที่มา และจุดเริ่มต้นในความชอบเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนต่าง ๆ
       
       ด้วยความที่สนใจหลักธรรม และคำสอนของท่านพุทธทาสภิกมาตั้งแต่เด็ก ทำให้น้องเบสมีวิธีคิด และสติในการใช้ชีวิตมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการเรียน การมีสติอยู่กับสิ่งที่คุณครูกำลังสอน เป็นสิ่งที่น้องเบสยึดถือมาโดยตลอด ส่งผลให้การเรียนอยู่ในระดับที่ดีจนก้าวขึ้นมาเป็นที่ 1 ของห้องได้อย่างไม่น่าแปลกใจเลย
       
       "ธรรมะสอนให้ผมมีสติ ไม่คิดฟุ้งซ่านว่า ฉันจะสอบไม่ได้ หรือสอบตกแน่ ๆ เลย แต่การอยู่กับปัจจุบัน มุ่งมั่นตั้งใจเรียนในสิ่งที่คุณครูกำลังสอน รวมไปถึงอ่านหนังสือและทบทวนตำราเรียนอย่างสม่ำเสมอ นั่นคือหนทางที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ขอให้มีสติ และเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้นพอ" เบสเผยเคล็ด (ไม่) ลับ
       
       อย่างไรก็ตาม การเป็นเด็กที่สนใจใฝ่ธรรมะ และใช้เวลาอยู่กับหนังสือมากกว่าการเล่นนั้น แน่นอนว่า ย่อมมีทั้งกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจ และไม่เข้าใจ โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่ไม่เข้าใจ เรื่องนี้ เบสจะใช้วิธีปล่อยวาง และพยายามไม่คิดมากกับคำพูดล้อเลียนเหล่านั้น เพราะยิ่งคิด ยิ่งทำให้เกิดทุกข์ แต่จะตัดปัญหาด้วยการเดินจากไปแทน


"น้องเบส" หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการแฟนพันธุ์แท้ ตอน ศิษยานุศิษย์..พุทธทาสภิกขุ

       สอดรับกับคมธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุที่น้องเบสยกมาสะท้อนให้เห็นว่า "ความทุกข์เกิดที่จิต เพราะเห็นผิดเมื่อผัสสะ ความทุกข์จะไม่โผล่ ถ้าไม่โง่ เมื่อผัสสะ ความทุกข์จะเกิดไม่ได้ ถ้าเข้าใจ เรื่องผัสสะ" ซึ่งเบสอธิบายความหมายว่า คนเราทุกคนต้องระวังจิต ตั้งสติ และมีปัญญารู้เท่าทันสิ่งต่าง ๆ เมื่อเห็นหน้า หรือได้ฟังเสียงที่ไม่พอใจก็คิดว่าเป็นเพียงรูป และเสียงเท่านั้น ไม่ควรไปยึดติด แต่ควรปล่อยวาง และให้อภัยเป็นดีที่สุด
       
       "การใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหลักธรรม และหนังสือธรรมะ ผมไม่เห็นว่ามันจะเสียช่วงเวลาความเป็นเด็กตรงไหน คือผมก็ไม่รู้ว่า เราจะเล่นไปเพื่ออะไร ผมไม่ได้บอกว่ามันไร้สาระนะครับ แต่เล่นแล้วมันมีประโยชน์อะไร เอาเวลามาทำสิ่งที่มีประโยชน์อย่างการอ่านหนังสือไม่ดีกว่าเหรอครับ ซึ่งเพื่อนก็เคยชวนผมไปเล่นอยู่บ่อย ๆ แต่ผมก็บอกไปว่า ผมไม่ไปดีกว่า"
       
       นอกจากหน้าที่ "นักเรียน" ที่น้องเบสทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว ถ้าพอมีเวลาว่าง เขาจะหยิบหนังสือธรรมะของท่านพุทธทาสภิกขุขึ้นมาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรื่องปฏิจจสมุปบาท อานาปานสติ รวมไปถึงหนังสือจิตว่างที่คัดเลือกธรรมบรรยายบางส่วนจากหนังสือธรรมโฆษณ์ของพุทธทาสลำดับที่ 31 ธรรมปาฏิโมกข์ เล่ม 1 และหนังสือธรรมโฆษณ์ของพุทธทาสลำดับที่ 38 สุญญตาปริทรรศน์มารวมตีพิมพ์ไว้ในเล่มเดียวกัน

   

"เบส" อัจฉริยะเด็กไทยวัย 9 ขวบ
       ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมในวันว่างนอกจากการอ่านหนังสือแล้ว การนั่งสมาธิโดยการฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นสิ่งที่น้องเบสบอกว่า ช่วยทำให้จิตใจของเขาสงบ และเพิ่มความสามารถในเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น
       
       "ผมใช้เวลานั่งสมาธิประมาณ 5 นาที เวลาที่ผมนั่ง ผมจะคิดถึงหลักสังขารว่า มันไม่เที่ยงแท้ และไม่เป็นอมตะตลอดไป เมื่อคิดได้แบบนี้ เราก็จะรู้สึกปล่อยวาง ไม่เป็นทุกข์กับมัน" เบสเผย
       
       สำหรับอนาคตต่อจากนี้ เบสบอกว่า เขาจะยังคงศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนาต่อไป และหมั่นศึกษาเล่าเรียนเพื่อที่จะเติบโตเป็นผู้พิพากษาที่ดีของประเทศไทย
       
       "โตขึ้นผมอยากเป็นผู้พิพากษาครับ เพื่อจะได้ตัดสินว่า คนที่ทำถูกคือคนถูก ส่วนคนที่ทำผิดก็ต้องรับโทษตามสิ่งที่เขาทำผิด ผมจะไม่ยอมให้คนถูกที่ถูกใส่ร้ายกลายเป็นคนผิดที่ต้องรับโทษเด็ดขาด" เบสเผยด้วยความน้ำเสียงจริงจัง
       
       ส่วนเรื่องความคิดเรื่องการบวชนั้น เบสบอกว่า รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคิดในเรื่องดังกล่าว
       
       "ธรรมะกับเด็ก ผมว่าไปกันได้ดีทีเดียวครับ เพราะท่านพุทธทาสหวังว่า ศีลธรรมของยุวชนคือสันติภาพของโลกครับ ถ้าคนเราไม่มีธรรมะ หรือศีลธรรมอันดี โลกทั้งโลกก็จะไม่มีความดี และความสุขเกิดขึ้นได้เลย" น้องเบสให้ทัศนะ
       
       หันมาพูดคุยกับ คุณแม่อรุณพร ครองชนม์ คุณแม่ของน้องเบส เธอเผยถึงความภูมิใจในตัวลูกคนนี้ว่า น้องเบสเป็นเด็กน่ารัก และไม่เคยสร้างปัญหา ทุกวันนี้ชื่นใจที่ลูกเลื่อมใส และศรัทธาในพระพุทธศาสนา
       
       "คุณแม่เลี้ยงลูกเหมือนพ่อแม่ทั่ว ๆ ไปที่มอบความรัก และสอนลูกให้เติบโตเป็นคนดี แต่ถ้าดื้อก็มีการตีเหมือนกันนะ เราไม่ได้เลี้ยงลูกแบบตามใจ หรือถ้าอยากได้อะไรก็จะให้ตามความจำเป็น ส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยอยากได้อะไรมากหรอกค่ะ ของเล่นก็ไม่เคยขอให้เราซื้อให้ แต่เขาจะให้ความสนใจกับหนังสือธรรมะ และชวนเราไปทำบุญที่วัดมากกว่า" คุณแม่เล่าถึงลูกชายสุดที่รัก
       
       ท้ายนี้ น้องเบสยกคำกลอนของท่านพุทธทาสภิกขุขึ้นมาสะกิดใจสังคมไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า
       
       "ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา โลกาวินาศ มนุษยชาติจะเลวร้ายกว่าเดรัจฉาน มัวหลงเรื่องกิน กาม เกียรติ เกลียดนิพพาน ล้วนดื้อด้านไม่เหนี่ยวรั้งบังคับใจ อาชญากรรมเกิดกระหน่ำลงในโลก มีเลือดโชกแดงฉานแล้วซ่านไหล เพราะบ้ากิน บ้ากาม ทรามเกินไป บ้าเกียรติก็พอไม่ได้ให้เมาตน อยากครองเมือง ครองโลกโยกกันใหญ่ ไม่มีใครเมตตาใครให้สับสน ขอศีลธรรมได้กลับมาพาหมู่คน ให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ทันเวลา"
       
       นับเป็นอีกหนึ่งเยาวชนคนเก่ง และดีที่ควรได้รับการสนับสนุนด้วยการเจียระไนให้เป็นเพชรเม็ดงามทางด้านพระพุทธศาสนาต่อไป


http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000065501