ผม นายธรรมกร รัตนสุภาพรศักกิ์ ปัจจุบันอายุ 44 เมื่อเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ผมเป็นโรคอะไรไม่ทราบ มีอาการบวมและปวดที่ฝ่าาเท้า ไปหาหมอที่คลินิก หมอให้ตรวจเลือดเพื่อดูยุริค ผลสรุป ผมเป็นเกาต์ ผมก็รักษาตามวิธีของหมอ ด้วยการกินยาลดยูริค ลดปวดบวม ถ้าช่วงไหนอาการหนักเดินไม่ได้ก็ไปฉีดยา สักประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ผมเริ่มมีอาการของเพียวรีนที่จับตัวเป็นแคลเซี่ยมมาเกาะตามข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก จนปูดออกมาเห็นได้ชัด กินยามากไปก็ทำให้ท้องเสีย และระยะหลังไตก็คงเริ่มไม่ค่อยดี ผมเริ่มปัสสาวะเป็นฟองมากขึ้นเรื่อยๆ พอดีที่บ้านผมรับน.ส.พ คม ชัด ลึก อยู่ ผมก็ได้อ่านคอลัมของคุณหมอไพรเวชทุกวันศุกร์และทางเลือกการแพทย์แบบแผนจีนทุกวันพุทธ ผมตัดสินใจลองรักษาแบบแผนจีนดู
ครั้งแรกที่ผมไปพบหมอ ได้รับการฝังเข็มแล้วก็รับยาจีนแบบลูกกลอนมาทาน และยังมีสมุนไพรอีก 1 กระปุกมาทาน ในสัปดาห์แรก ผมรู้สึกได้เลยว่า อาการปวดตามข้อต่างๆ เริ่มทุเลาลง อาการชาที่ปลายนิ้วมือก็น้อยลง ปัสสาวะก็ยังเป็นฟองน้อยลงอีกด้วย ผมไปหาหมออีกในสัปดาห์ที่ 2 ฝังเข็มอีก แต่คราวนี้ฝังเยอะกว่าทีแรกอีกครับ พอกลับมาคราวนี้ผมรู้สึกได้เลยว่า อาการแคลเซี่ยมมาจับเป็นก้อนเริ่มค่อยๆ ยุบลง จนเห็นได้ชัด ผมคิดว่า ผมรักษาถูกวิธีแล้วล่ะครับ ผมจึงอยากจะเล่าสู่ให้คนอื่นได้รับรู้บ้าง เผื่อจะได้เป็นทางเลือก และถ้าหากใครได้ลองรักษาดูแล้วได้ผลดี ผมจะได้รับอนิสงค์ในการช่วยให้ผู้อื่นพ้นจากอาการเจ็บป่วยด้วยครับ ผมคิดว่า การรักษาในทางเลือกแผนจีนนี้ ไม่ใช่การรักษาปลายเหตุอย่างเดียว แต่เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ เป็นการรักษาความสมดุลย์ของอวัยวะต่างๆในร่างกายให้ทำงานได้เป็นปรกติ เมื่อภายในทำงานได้ปรกติ โรคภัยก็จะค่อยๆทุเลาลงเองนะครับ การมีสุขภาพดีไม่มีโรค นับว่าเป็นโชคลาภอันประสริฐที่สุดแล้วครับ
ขอบคุณคุณหมอมากครับ
ธรรมกร รัตนสุภาพรศักดิ์
ตอบ คุณธรรมกร
ดีใจมากที่มีส่วนช่วยลดเบาความทรมานจากโรคเกาต์ของคุณธรรมกร ขอบคุณที่มีจดหมายมาขอบคุณ ด้วยจุดประสงค์ที่ เมื่อตัวเองรักษาได้ผลก็อยากให้ผู้ที่มีชะตากรรมเดียวกันได้มีทางออก ลดเบาความทรมานลงบ้าง ในเคสของคุณธรรมกรนี้ เป็นเพียงแค่ทุเลาลง ยังต้องติดตามผลต่อไป เพราะยูริคตกตะกอนในข้อมือข้อเท้าค่อนข้างมาก จนบวมตุ่ยเห็นได้ชัด ข้อเริ่มเปลี่ยนรูปบ้างแล้ว หนักนิ่งกว่านั้นก็คือ เริ่มส่งผลต่อการทำงานของไตแล้ว หากปล่อยไว้ไม่รักษา หรือรักษาไม่ตรงเป้า โรคจะเดินหน้าไปถึงไตวายได้อย่างแน่นอน
ผู้เขียนได้ผสมผสานการให้ยาจีนที่ทลวงเส้นลมปราณ ยาจีนที่ช่วยบำรุงเลือด บวกกับการฝังเข็มที่แก้ปัญหาตามหลัก ไม่คล่องจึงปวด แม้ผู้ป่วยจะบอกว่าการรักษาได้ผลบ้างแล้ว แต่ยังอยากติดตามผลว่า หากกินยาเก๊าท์นานกว่านี้ จะสามารถช่วยละลายแคลเซี่ยมที่เกาะในข้อลงได้หมดหรือเปล่า สามารถกู้สมรรถภาพของไตกลับคืนมาได้หรือเปล่า
ที่ผ่านมาใช้ยานี้รักษาหาย ในรายที่เพิ่งเป็นได้ไม่กี่ปี มีอาการบวมที่ข้อนิ้วแม้โป้งเท้า ข้อเท้า เดินลำบากเหยียบเท้าแตะพื้นไม่ได้เลย ยังมีผู้ป่วยหนักกว่านี้เป็นเกาต์ที่ข้อเท้า บวมจนเดินไม่ได้ ร่วมกับค่าของไตสูง ปัสสาวะเป็นฟอง โปรตีนรั่วถึง 3 บวก หน้าบวมตาบวมตัวบวม หมอเรียกให้ฟอกไต แต่ครอบครัวยังไม่อยากฟอก จึงลองมารักษาด้วยแพทย์จีนดู ผ่านการฝังเข็มและกินยาเกาต์ กินยาไต คลีตินินที่เคยสูง 4.6 ลดลง เหลือ 3.8 และ 2.6 ตามลำดับ ขณะนี้ยังต้องพยายามว่า ทำอย่างไรให้คลีตินินลดลงจนเป็นปกติ ให้โปรตีนที่รั่วออกมาค่อยๆ ลดลง แต่กระบวนการกินยาใช่ว่าจะราบรื่นนัก เพราะการตรวจเลือดหลังกินยาไปแล้ว 10 กว่าห่อ ค่าทางไตดีหมด แต่ค่าของตับสูง เพราะตัวผู้ป่วยเองเคยมีค่าขงอตับสูงมาก่อน จึงปรับยาบางตัว ผลเลือดครั้งล่าสุด ค่าของไตเป็นปกติขึ้นทำให้หวนคิดถึง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่ง ที่มีค่าไตสูง พอกินยาจีนแล้วค่าไตลดลง แต่ค่าตับกลับเพิ่มขึ้น หากได้ปรับยาอย่างที่เล่ามาน่าจะดีขึ้นก็ได้ ท่านผู้อ่านอ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณดูก็แล้วกัน
คมชัดลึก
