ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้นำเก่ง แต่ลืมกล้า พาล่มจม  (อ่าน 1946 ครั้ง)

Meem

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2576
    • ดูรายละเอียด
ผู้นำเก่ง แต่ลืมกล้า พาล่มจม
« เมื่อ: 08 สิงหาคม 2010, 08:48:58 »
" ผู้นำเก่ง แต่ลืมกล้า พาล่มจม " (ตาโป๋เป่าปี่) 
 
 
 
 " ปรองดองกันทั้งชาติอำมาตร์ไพร่
 ปรองดองไทยเขมรครับขยับหมุด
 ปรองดองอันธพาลเผาบ้านทรุด
 ปรองดองขุดโค่นป่ามาทำทาง
 ปรองดองเอ็นจีวีที่เคยค้าน
 ปรองดองผลาญ งบฯจัด ไม่ขัดขวาง
 ปรองดองจับพันธมิตรติดตะราง
 ปรองดองอ้าง มาตรการ ฐานเดียวกัน
 นี่หรือ "ร้อยฝัน วันฟ้าใหม่"
 หลงเคลิ้มไป แท้ยกเมฆมาเสกสรรค์
 นิติรัฐนิติไทยอยู่ไหนกัน
 คอรัปชั่น ว่าจะปราบ งาบเสียเอง
 คนเก่งมีทั้งชาติขาดคนกล้า
 อย่าง "พงษ์พัฒน์" กลับมีหน้ามาข่มเหง
 พวกคนชั่วได้ใจไม่กลัวเกรง
 ผู้นำเก่ง แต่ลืมกล้า พาล่มจม "

 บทกลอนข้างต้นเป็นของผู้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Buppa Thirati ส่งเข้าไปในโทรศัพท์มือถือของ คุณประพันธ์ คูณมี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นบทกลอนที่บอกอะไรหลายอย่างของเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้

 ต้องบอกว่าแต่งได้เก่งมาก

 ร้อยเรียงด้วยถ้อยคำที่กระทัดรัดในความหมายของเนื้อหาและสัมผัสของกลอนตามความเป็นจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยเฉพาะประโยคปิดท้ายของกลอนบทนี้ที่ว่า "ผู้นำเก่ง แต่ลืมกล้า พาล่มจม"

 สอนให้ผู้นำต้องรู้จักความกล้าด้วย ไม่ใช่เก่งแต่เพียงอย่างเดียว เพราะถ้าผู้นำไม่กล้า ผู้นำนั้นพาชาติบ้านเมืองล่มจมได้ง่าย

 บ้านเมืองยามนี้ต้องการผู้นำที่มีทั้งความเก่งและความกล้าเป็นคุณสมบัติ ความเก่งที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ที่ต้องเล่าเรียนมาสูงๆเพียงอย่างเดียว ต้องมีความเก่งที่จะรู้ว่าปัญหาที่จะต้องแก้ไขในฐานะเป็นผู้นำนั้นมีอะไรบ้าง ปัญหาใดที่ควรแก้ไขก่อนตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วยการปฏิบัติจริง ไม่ใช่เก่งแต่ปากเท่านั้น

 ส่วนความกล้านั้นเป็นความกล้าที่จะตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาที่ต้องแก้บนพื้นฐานของความถูกต้องด้วยอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ไม่ผลักปัญหาไปให้คนอื่นทำคนอื่นคิดด้วยวิธีตั้งคณะกรรมการที่ไม่จำเป็นอะไรเพราะกลัวโน่นกลัวนี่

 ต้องรู้ว่าความกลัวทำให้เสื่อม

 ความกลัวฉุดรั้งความกล้ามิให้แสดงออก ซึ่งมีที่มาจากเรื่องใหญ่ 2 เรื่อง นั้นก็คือ กลัวสิ่งที่มีอยู่จะหมดไป และ กลัวไม่ได้สิ่งที่ต้องการ

 กลัวจะไม่ได้เป็นรัฐบาล และกลัวจะไม่ได้เป็นรัฐบาลจนครบวาระ เป็นความกลัวที่ทำให้เกิดสิ่งต่างๆตามที่กลอนข้างต้นสาธยายไว้

 ปีเศษที่ผ่านไปของการบริหารจัดการบ้านเมืองของผู้นำขณะนี้ เราจึงไม่ค่อยจะได้เห็นความกล้าในการทำงาน หรือความกล้าในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองจากผู้นำ ไม่กล้าแม้กระทั่งจะยับยั้งขัดขวางการกระทำที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมของพวกเดียวกัน โดยเฉพาะรัฐมนตรีร่วมคณะที่กำลังล้วงลักควักเงินแผ่นดินไปเป็นผลประโยชน์ของตนเองจากโครงการต่างๆที่เสนอกันเข้าไปแบ่งปันกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีในการประชุมแต่ละครั้ง

 ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศที่ไม่ชอบหน้า "ทักษิณ" ก็เพราะ "ทักษิณ" เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก พูดอย่างทำอย่าง บริหารบ้านเมืองด้วยการสมรู้ร่วมคิดให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น ไม่มีความกล้าที่จะจัดการกับความไม่ถูกต้องชอบธรรม ปล่อยให้หากินกันอย่างไม่เกรงใจประชาชน มีประโยชน์ทับซ้อนทั้งตนเองและหมู่พวก ไม่ใช่คนที่เสียสละเข้ามาทำงานเพื่อส่วนรวม คุณสมบัติของผู้นำอย่างนี้จึงอยู่ไม่ได้

 ประชาชนต้องการผู้นำที่ไม่มีคุณสมบัติอย่าง "ทักษิณ" มาเป็นผู้บริหารประเทศ แต่ก็ดูเหมือนว่าขณะนี้ประชาชนกำลังประสบกับสิ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง

 ในท่ามกลางความวิกฤติต่างๆที่ยังรุนแรงส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในขณะนี้ ประชาชนจึงต้องการจะเห็นผู้นำที่ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมและมีความกล้าที่จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้องทั้งหลายในบ้านเมือง และมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจบริหารจัดการบ้านเมืองด้วยความเสียสละเพื่อส่วนรวม

 เก่งอย่างเดียวแต่ไม่กล้าจึงเป็นคุณสมบัติที่ยังไม่สมบูรณ์ของคนเป็นผู้นำในยามนี้ จะเป็นอย่างที่กลอนข้างต้นว่าไว้ในบรรทัดสุดท้ายนั่นเองคือ "ผู้นำเก่ง แต่ลืมกล้า พาล่มจม"