นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ไอเดียแจ๋ว นำกฎระเบียบวินัยของลูกเสือนำมาประยุกต์ใช้กับ อสม. เพื่อสร้างระเบียบวินัยรู้จักการทำงานเป็นทีม พร้อมสร้างจิตสำนึกรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เมื่อเร็วๆนี้ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อเยี่ยมชมการทำงานของ
อสม.(อาสาสาธารณสุขหมู่บ้าน) ราชบุรี โดยใช้กระบวนการลูกเสือเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนางานของ อสม.
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมี อสม.กระจายทุกหมู่บ้านรวม 1 ล้านคน ในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นการสร้างแรงจูงใจและพัฒนาขีดความสามารถของ อสม. โดยอบรมให้เป็น อสม.เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 10 สาขา จำนวน 200,000 คน ได้แก่
1.การเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ เช่น ไข้เลือดออก
2.การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน 3.การส่งเสริมสุขภาพจิตชุมชน
4.การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน
5.การบริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนที่มีกว่า 70,000 แห่ง และการสร้างหลักประกันสุขภาพ
6.การคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ
7.การส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ
8.การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในชุมชน
9.การจัดการสุขภาพชุมชน และ
10.การจัดการอนามัยแม่และเด็ก
และพัฒนา อสม.ในเรื่องการจัดการในภาวะวิกฤติ จำนวน 74,944 คนด้วย โดยจะสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์จำเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติงานให้แก่อสม.ที่ผ่านการอบรมทั้งหมด
น.พ.บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า จำนวน อสม.ในพื้นที่เขตความรับผิดชอบของจังหวัดราชบุรีมีด้วยกัน 10 อำเภอ มีจำนวน 11,640 คน จากเดิมความรับผิดชอบของ อสม. 1 คน จะดูแล 10 หลังคาเรือน ทำให้การทำจะเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ไม่เหมือนกัน ซึ่งตรงข้ามกับการดูแลลูกบ้าน ซึ่งในบ้านหลังหนึ่งประกอบด้วยคนหลายวัย ที่มีทั้งเด็ก สตรี คนชรา ผู้ป่วย คนพิการ เป็นต้น
น.พ.บุญเรียง กล่าวว่า จากการทำงานของ อสม.ที่ผ่านมา เหมือนเป็นการทำงานแบบตัวใครตัวมัน การอบรมเพิ่มเติมความรู้จะมีอยู่แต่ในห้องประชุม มีแต่เรื่องของวิชาการที่บางครั้งคนฟังยังหลับ ซึ่งบางครั้งการอบรมก็ไม่สัมฤทธิผล เพราะไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ตนจึงได้เปลี่ยนแนวคิดการอบรมแบบใหม่ โดยใช้หลักการฝึกอบรมด้วยกระบวนการลูกเสือ หรือเรียกว่า ลูกเสือ อสม.
การอบรมแบบลูกเสือ อสม.จะใช้รูปแบบกิจกรรมบันเทิงเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง อสม.ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน จากนั้นรูปแบบการอบรมต่อมาคือ การอบรมแบบปฏิบัติจริง โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ต่างๆ อสม.ที่เข้าอบรมสามารถโต้ตอบกับวิทยากรได้แบบตัวต่อตัว นอกจากนี้ กระบวนการลูกเสือยังช่วยในเรื่องของการต่อยอดเรื่องความรักสามัคคี และเทิดทูนทั้ง 3 สถาบัน คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 นี้ ทางจังหวัดราชบุรีมีเป้าหมายที่จะให้ลูกเสือ อสม.เข้าไปดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน ในเรื่องของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ทุกจังหวัดจัดกิจกรรมรณรงค์คัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ในช่วงเดือนแห่งการรณรงค์วัน อสม.แห่งชาติที่ผ่านมา
"ภายหลังการอบรมลูกเสือ อสม.แล้ว พบว่า อสม.มีความรัก สามัคคี รู้จักการทำงานเป็นทีม มีความเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวมมากขึ้นและงานดูแลชุมชนก็มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น"
"ลูกเสือ อสม." เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการประยุกต์ใช้วิชาลูกเสือมาใช้ในการอบรม อสม. และพัฒนาการทำงานของ อสม.ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
บ้านเมือง -- อาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม 2555