ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมหมอNGOจึงสนับสนุนพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ  (อ่าน 1899 ครั้ง)

khunpou

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 111
    • ดูรายละเอียด
ตอบคำถามได้ดังนี้
1.หมอNGO ไม่ได้ตรวจรักษาผู้ป่วยมาเกิน 10 ปีแล้ว จึงไม่เสี่ยงต่อการถูกตัดสินว่าทำ "ให้เกิดความเสียหาย"
2.หมอNGO ต้องการมีส่วนไปเป็นกรรมการผู้บริหารกองทุนตามพ.ร.บ.นี้
3.หมอNGO ต้องการหาเสียงกับประชาชนว่ากลุ่มตน "รักประชาชน" แต่กลุ่มที่มาคัดค้านเป็นคนใจดำ
4.หมอNGOต้องการหารายได้เพิ่มให้ตัวเองจากการได้รับเบี้ยประชุมเป็นกรรมการแ ละอนุกรรมการ ยิ่งประชุมมากก็ยิ่งได้เงินเข้ากระเป๋าตัวเองมาก (เหมือนกับการเป็นกรรมการในองค์กร ส.ต่างๆ)
5.หมอNGOเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเขียนพ.ร.บ.นี้และเขียนล็อกสเปคไว้แล้วในบ ทเฉพาะกาลว่าจะส่งพวกพ้องของตัวเองมาเป็นกรรมการร่างระเบียบและเลือกกรรมการ ชุดถาวรชุดแรก
6.หมอNGOอ้างว่าทำเพื่อประชาชน โดยใช้ประชาชนกลุ่มอ้างว่าเสียหายพูดเรื่องเดิมซ้ำๆซากๆ แต่ประชาชนอีก 63ล้านคนไม่รู้เรื่องเด้วย
7หมอNGO อ้างว่าจะลดการฟ้องร้องแต่ผลกลับตรงกันข้าม เพราะม.25 กำหนดให้ฟ้องได้ภายใน 10ปีนับแต่วันที่รู้ความเสียหาย และมาตรา 37 ให้ฟ้องต่อได้อีก 10 ปีนับแต่รู้ความเสียหายต่อเนื่อง และมาตรา 34 ให้ไปฟ้องศาลได้หลังจากไม่พอใจเงินที่คณะกรรมการตัดสินและกรรมการอุทธรณ์พิจ ารณาจ่ายค่าเสียหาย และถ้าศาลตัดสินไม่จ่ายเงินชดเชย ประชาชนบยังกลับมาขอเงินจากกองทุนได้อีก
8.หมอ NGO อ้างว่าจะเอากรณีร้องขอเงินชดเชยไปพัฒนาระบบการรักษา เป็นการโกหกหน้าด้านๆ เพราะถ้าไม่พิสูจน์ถูกผิดอย่างที่อ้างแล้ว จะรู้ว่าจะแก้ไขความผิดได้อย่างไร?
9.หมอNGOอ้างว่าไม่เพ่งโทษบุคลากรก็เป็นการโกหกอีก เพราะหมอต้องส่งเอกสารเวชระเบียนทุกอย่าง และต้องไปให้การด้วย ถ้าไม่ส่งหรือไม่ไป ก็มีทั้งโทษจำคุกและปรับ
10,หมอNGO อ้างว่าหมอที่ตรวจรักษาคนไจ้ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกฟ้อง จึงไม่เป็นความจริงดังกล่าวข้างต้น และถ้าหมอที่ตรวจรักษาประชาชนอยากจะขอความเป็นธรรมให้ตนเองบ้าง ไม่มีกำหนดไว้เลยว่าคณะกรรมการนี้จะช่วยเหลืออย่างไร หมอที่ตรวจรักษาผู้ป่วยต้องไปฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรมให้ตนเอง
 
สรุป จะเกิดการร้องเรียนและฟ้องร้องดังนี้
1.ร้องขอเงินช่วยเหลือ
2.ร้องขอเงินชดเชย
3.ร้องอุทธรณ์เมื่อไม่พอใจจำนวนเงิน
4.ฟ้องศาลแพ่งเมื่อไม่พอใจจำนวนเงิน
5.ถ้าศาลแพ่งไม่จ่ายเงินให้อีก ก็กลับมาร้องขอเงินจากคณะกรรมการได้อีก
6.ได้เงินแล้ว แต่เกิดนึกขึ้นได้ว่ายังมีความเสียหายอื่นอีกไปร้องขอเงินชดเชยต่อเนื่องได้ อีกใน 10 ปี (รวมเป็น 20 ปี)
7.ได้เงินแล้วยังไม่สะใจ ก็ไปฟ้องศาลอาญา เพื่อให้หมอติดคุกจะได้จำไว้ว่า "ทีหลังอย่าทำ"
8.หมอต้องไปร้องขอความเป็นธรรมได้จากศาลปกครองชั้นต้น 
9.หมอต้องไปร้องขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองสูงสูด