ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อซูโด850ล้านเม็ดปั๊มยา DSIลุยเกาหลีหาข้อมูล  (อ่าน 1076 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
“เหลิม” แฉอีกแล้ว 2 บริษัทไทยสั่งซูโดปั๊มยาบ้า850ล้านเม็ด ลั่นยึดถือการค้นคุกนครศรีธรรมราช เป็นโมเดลกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดคุก ขู่ยึดทรัพย์จนท.มีเอี่ยวร่วมขบวนการ ดีเอสไอเตรียมลุยเกาหลีสืบค้นข้อมูลสั่งซื้อ-นำเข้าซูโดอีเฟดรีน 40 ตัน สธ.พบเส้นทางกระจายยาของ รพ.เอกชนที่เชียงใหม่ - ลำพูน คาดมาจากตัวแทนขายยาที่ รพ.สยามราษฎ์
       
       ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และตำรวจคอมมานโด บุกตรวจค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พร้อมยึดยาบ้า อุปกรณ์การเสพ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือในการติดต่อซื้อขายได้จำนวนมาก ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่รู้เห็นเป็นใจจะเอาโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำได้เป็นร้อยเครื่องอย่างไร ใครที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ร่ำรวยผิดปกติจะต้องยึดทรัพย์ให้เด็ดขาด ตนจะใช้รูปแบบในการตรวจต้นที่เรือนจำนครศรีธรรมราช เป็นรูปแบบในการตรวจค้นเรือนจำอื่นๆด้วย
       
       ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า องค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศเกาหลี แจ้งมาว่า มีบริษัทในประเทศไทย 2 บริษัทสั่งซื้อสารซูโดอีเฟดรีน จำนวน 40 ตัน ที่นำมาผลิตยาบ้าได้ 850 ล้านเม็ด ทางไทยได้แจ้งกลับไปว่าสารซูโดอีเฟดรีน เป็นสารต้องห้ามในการนำเข้าประเทศไทย แต่ปรากฏว่ามีหลักฐานการส่งเข้าประเทศไทยโดยสำแดงเท็จว่าเป็นสินค้าอื่น จึงสั่งการให้ดีเอสไอกวาดล้างให้สิ้นซาก เบื้องต้นพบว่าสองบริษัทที่สั่งซื้อ เป็นบริษัทผลิตเครื่องไฟฟ้า และอีกบริษัทเป็นบ้านพักอาศัย ที่แจ้งว่าทำธุรกิจรถยนต์แต่กลับสั่งสารเหล่านี้
       
       **DSI ลุยเกาหลีสืบค้นข้อมูล
       
       นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงการสอบสวนคดีลักลอบนำเข้าซูโดอีเฟดรีนจากประเทศเกาหลีด้วยการสำแดงเท็จว่า ในชั้นการสืบสวนเบื้องต้นบริษัทที่ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ระบุว่าเป็นผู้สั่งซื้อและนำเข้าซูโดอีเฟดรีน 40 ตัน ได้ให้การปฏิเสธว่าถูกแอบอ้างนำชื่อบริษัทไปใช้สั่งซื้อยาจากเกาหลี โดยชี้แจงว่าบริษัทประกอบอาชีพนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์และนำเข้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ดังนั้นดีเอสไอจะส่งพนักงานสอบสวนไปขอข้อมูลจากประเทศเกาหลีเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าบุคคลใดเป็นผู้สั่งและลักลอบนำเข้าผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินโดยสำแดงเท็จ
       
       **ส.ว.กระทู้สดนายกฯ เรื่องซูโดฯ
       
       ที่รัฐสภา นางพรทิพย์ โล่ห์วีระ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม โดยมีน.พ.เจต ศิรธนานนท์ ส.ว.สรรหา ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องปัญหายาบ้า ว่า จากกรณีสารตั้งต้นซูโดอีเฟดรีนสามารถนำมาผลิตเป็นยาบ้าได้สร้างความเสียหายให้ระบบสาธารณะสุขโดยมาก และจากการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมายหลายส่วน จึงต้องการทราบว่ารายละเอียดการสอบสวนในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
       
       อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนมีที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขท่านหนึ่งลงพื้นที่และติดตามโรงพยาบาลต่างๆ ปัญหาคือท่านเป็นนักการเมืองอาจจะมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ทั้งยังหาข้อสรุปไม่ได้ก็ออกไปแถลงข่าวซึ่งเป็นเพียงการคาดเดาเหตุการณ์ตรงนี้อาจกระทบต่อขวัญกำลังใจของข้าราชการ
       
       น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการศึกษาตั้งแต่ปี 2550-2553 มีการจับยาบ้าได้ 48 ล้านเม็ด โดย 8 ล้านเม็ดมาจากยาในวงการสาธารณสุข คิดเป็นร้อยละ 16 ส่วนอีก 40 ล้านเม็ดมาจากการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ หรือประมาณร้อยละ 80 ทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขยกระดับควบคุมการใช้ซูโดอีเฟดรีน โดยในวันที่ 19 ธ.ค. 54 ก็ได้ประกาศให้ซูโดฯ สูตรผสมเป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ตามพรบ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มีการควบคุมการใช้ซึ่งแม้จะให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เข้มงวดในการใช้ยาในโรงพยาบาลแต่ก็ยังพบว่าหลายแห่งมีการใช้อย่างผิดปกติ
       
       ที่ผ่านมามีการตรวจสอบว่าโรงพยาบาลสาธารณสุข 900 แห่ง มีความผิดปกติเพียง 9 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 1 และมีการแจ้งเข้ามาว่ามีการใช้มากและจากการตรวจสอบมีความผิดปกติเพียงแค่ 2 แห่ง คือที่จังหวัดอุดรธานีและอุตรดิตถ์ ขณะที่แห่งอื่นเป็นการใช้ปริมาณที่มากแต่ไม่มีความผิดปกติ
       
       น.พ.สุรวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า 4 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ยังมีการยกระดับการควบคุม โดยอนุญาตให้ใช้ผลิตและจำหน่ายได้แต่ต้องได้รับอนุญาตจากอย.ก่อนเท่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีที่ระบุว่าที่ปรึกษารมว.สธ.ได้ลงไปตรวจสอบในลักษณะที่อาจเป็นการก้าวก่ายนั้น เป็นเพียงความต้องการทำงานดูแลผลการตรวจสอบและควบคุมให้เกิดคุณภาพแต่ไม่ได้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
       
       จากนั้น พลตำรวจโท สมยศ ดีมาก ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การอนุญาตให้โรงพยาบาลของรัฐยังสามารถใช้ยาที่มีส่วนผสมของซูโดฯถือว่ายังมีจุดอ่อนเพราะยังสามารถหลุดรอดออกมาได้ จึงอยากให้อย.ยกเลิกการนำเข้าซูโดฯไปเลย
       
       นายสุรวิทย์ ชี้แจงว่า เหตุที่การประกาศควบคุมหรือยกระดับของซูโดฯ มีความล่าช้าเพราะติดขัดขั้นตอนของราชการซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ก่อนประกาศทางอย.จะต้องปรึกษาหารือกับคณะกรรมการกฤษฏีกา เมื่อได้ผลออกมาจึงได้สั่งระงับการนำเข้า ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าการนำเข้ายาที่มีส่วนผสมของซูโดฯมาจากประเทศเกาหลีถึง 75% รวมทั้งประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
       
       **สธ.พบเส้นทางกระจาย
       
       นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ โฆษกคณะทำงานป้องกันและปราบปราบ ฟื้นฟู และเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ทางคณะทำงานฯได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เข้าตรวจสอบรพ.เซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล จ.เชียงใหม่ . รพ.แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่ และรพ.ศิริเวชลำพูน จ.ลำพูน พบว่า ในส่วนของรพ.เซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล พบว่ามีการสั่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยว 280,000 เม็ด สูตรผสม 40,000 เม็ด รพ.แมคคอร์มิค สั่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม 233,290 เม็ด รพ.ศิริเวชลำพูน สั่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยว 670,000 เม็ด สูตรผสม 394,000 เม็ดซึ่งทั้งสามโรงพยาบาลเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก แต่กลับมีการสั่งซื้อยาดังกล่าวในจำนวนมาก ที่สำคัญยังพบเส้นทางของการกระจายยาที่ไปยังทั้ง รพ.ทั้ง 3 แห่งว่า มาจากตัวแทนขายยากลุ่มเดียวกับรพ.สยามราษฎร์เชียงใหม่ ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ด้วย
       
       ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับองค์การอาหารและยาเกาหลี ระบุว่า มีบริษัทไทยต้องการยาหวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจากเกาหลี และยังพบข้อมูล การนำเข้ามายังไทยแล้ว 9 ครั้ง แต่มีการสำแดงรายการไม่ตรงตามความจริงนั้นว่า ข้อมูลที่ส่งให้ทางดีเอสไอ เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงปี 2553 โดยจากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ทั้งอย. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ตรวจสอบพบยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม 48 ล้านเม็ด เป็นภายในประเทศ 8 ล้านเม็ด ที่เหลือลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยพบว่ากว่า 30 ล้านเม็ดมาจากเกาหลี อย.จึงได้ประสานไปยังองค์การอาหารและยาเกาหลีเกี่ยวกับเรื่องนี้
       
       **ประสาน INCB ระวังเป็นพิเศษ
       
       จากนี้ไปในส่วนของการปราบปรามนั้นจะเป็นหน้าที่ของหน่วยปรามปรามติดตาม ส่วน อย.ไม่ได้หยุดนิ่ง ยังคงเฝ้าระวังติดตามต่อไป พร้อมทั้งยังได้ประสานไปยังสถานทูตเกาหลีเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นพิเศษแล้ว รวมถึงยังประสานกับคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ หรือ INCB ( The International Narcotics Control Board ) ในการเพิ่มความระมัดระวังหากประเทศใดจะสั่งซื้อ หรือส่งยาที่มีสารตั้งต้นดังกล่าว หากจะมีการส่งมายังประเทศไทยขอให้ประเทศนั้นๆ แจ้งมายังไทยด้วย

ASTVผู้จัดการรายวัน    24 เมษายน 2555