ผู้เขียน หัวข้อ: ปีกสองข้างของปัญหาการสาธารณสุขไทย‏-ตอนที่ 2-นพ.อุสาห์ พฤฒิจิระวงศ์  (อ่าน 1801 ครั้ง)

pradit

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 322
    • ดูรายละเอียด
ปีกสองข้างของปัญหาการสาธารณสุขไทย(ตอนที่๒)

ในมุมมองปกติทั่วไปเมื่อเกิดสิ่งไม่พึงประสงค์ขึ้น มักมองเห็นเพียงการเป็นปัญหาระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

การแก้ปัญหาก็มักเกิดขึ้นโดยมิติเดียว คือ แกน x กับ แกน y
ในระนาบเดียว คือ ตามที่สามัญสำนึกที่ตื้นๆจะนึกได้ แล้วปัญหาก็ยังคงเกิดขึ้นซ้ำซาก
ด้วยการแก้ปัญหาด้วยทฤษฎี ถ้า x เพิ่มแล้ว y ก็ต้องเพิ่ม ง่ายๆตื้นๆ ตามแบบประชานิยม

ถ้ามีปัญหาแปลว่าหมอหรือผู้ให้บริการ มีปัญหา ต้องลงโทษ
กฎหมายไล่เบี้ยที่เคยออกมาต่อต้านกัน ช่วงประกาศประชานิยมยุคแรก
ถ้ามีผู้ประสบปัญหาจากการใช้บริการ ต้องชดใช้ให้พึงพอใจ ตามมาตรา๔๑ พรบ.หลักประกันสุขภาพ.
แล้วปัญหามันจบหรือไม่?


คำตอบที่ ๑ และคำตอบสุดท้าย คือ ไม่จบ
แต่มีปัญหาร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น
ตอนที่ออกกฎหมายหลักประกันสุขภาพ คิดอะไรกัน? 
ผู้ที่ประสบปัญหาและผู้ที่แก้ปัญหา
มักคิดออกเพียง การลงโทษผู้ถูกกล่าวหา และชดใช้ผู้ที่กล่าวหา
มีเรื่องที่เคยรับทราบเรื่องหนึ่ง


ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเสียชีวิต
หลังจากรอหมอเป็นเวลา๒ชั่วโมง (พาดหัวข่าวให้ร้อนๆกัน)
ผู้บาดเจ็บ ถูกส่งตัวจากจุดเกิดเหตุไปโรงพยาบาลชุมชน แพทย์เห็นว่าอาการหนัก
ส่งต่อไปโรงพยาบาลจังหวัด
หลังจากรอหมอนานถึงสองชั่วโมงเศษ
หมอผ่าตัดก็ออกมาดูอาการ และแจ้งให้ญาติทราบว่า ช่วยเหลือไม่ได้
เนื่องจากผู้บาดเจ็บสมองตาย เหลือเพียงการเต้นของหัวใจเท่านั้น

บิดาของผู้ตายชี้หน้าหมอ พูดว่ากูรอมึงนานสองชั่วโมง กูจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุด
กูหวังมาพึ่งมึง มึงปล่อยให้ลูกกูนอนรอมึงจนตาย(ขออภัยที่ใช้ภาษาต้นฉบับ)

จบแกนx

การสอบสวนพบว่าสุดวิสัยที่หมอผ่าตัดจะออกมาช่วยเหลือ
เนื่องจากมีการผ่าตัดช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกรายหนึ่ง หมอไม่มีความผิด
ญาติได้รับการชดเชยตามมาตรา๔๑หรือไม่ ไม่ทราบ
เพราะไม่ได้ ข้อมูลว่าเรื่องนี้เกิดก่อนหรือหลังกฎหมายหลักประกัน

จบแกนy


แพทยสภาโดนด่า ถูกกล่าวหาเป็นจำเลยสังคมรายต่อมา ในข้อหาปกป้องพวกเดียวกัน
หมอผ่าตัดลาออกจากราชการ
เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นความเสียใจ อย่างใหญ่หลวงของชีวิต
ในวันนั้น หมอไม่ได้เห็นแสงแดดตั้งแต่ ๘ นาฬิกา เพราะมีอุบัติเหตุมาแต่เช้า
ผ่าตัดช่วยชีวิตหลายชีวิต อาหารก็กินแบบเร็วๆในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของห้องผ่าตัด
ออกจากห้องผ่าตัดมาก็หกทุ่ม ผู้ป่วยรายสุดท้าย วางมือไม่ได้ 

อุดมการณ์รับใช้บ้านเกิดต้องเก็บไว้ ไปทำงานในโรงพยาบาลเอกชน
ที่มีระบบรองรับการฟ้องร้อง การดูแลแก้ไขปัญหาความไม่พึงพอใจ
และปัญหาความล่าช้าของการตรวจรักษา ขณะที่โรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข
มีความเสี่ยงสูงต่อสวัสดิภาพของชีวิต และคุณภาพชีวิต รวมทั้งค่าตอบแทนต่ำกว่ากันมาก
จังหวัดที่เกิดปัญหานั้น ปัจจุบันไม่มีหมอผ่าตัดระบบประสาท และสมอง
ยังไม่มีผู้ใดไปอยู่ให้บริการประชาชน จนตราบเท่าทุกวันนี้

การแก้ปัญหาของผู้บริหารตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงไป ยังมองไม่เห็นวิธีการแก้ปัญหาด้วยวิธีใด
นอกจากคล้อยตามหลักการและเหตุผลที่ฟัง แล้วดูดี
คือ การมีกฎหมาย(อีกแล้ว)ที่ดูแล้วเชื่อ(โดยผู้เสนอ)ว่า
สามารถแก้ปัญหาการฟ้องร้องแพทย์ผู้ให้ บริการและช่วยเหลือผู้รับบริการที่เดือดร้อนได้
เรียกว่ายิงที่เดียวได้นกสองตัว
(แต่ไม่รู้ว่านกสองตัวนั้นมีเชื้อH1N1 อิอิ)

จบแกนz ระนาบ ที่เป็นปัญหา แต่ไร้ปัญญาไม่เห็น