“วิทยา แก้วภราดัย” อดีต รมว.สาธารณสุข เสนอกระทรวงสาธาณสุขสั่งตรวจสอบย้อนหลังการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน 5 ปี เตือนรัฐนำชื่อโครงการ "30 บาทรักษาทุกโรค" มาใช้อีกครั้ง ผิดกฎหมายแน่ แนะช่วยบรรจุแพทย์ พยาบาล ที่ยังเป็นลูกจ้างอยู่จะเหมาะกว่า ...
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2555 ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข และส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.กล่าวกับผู้สื่อข่าว ตนขอเรียกร้องไปยัง รมว.สาธารณสุข กรณียาซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นยาแก้หวัด ได้หายจากสต๊อกในโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลชายแดนจำนวนมากและปริมาณมาก ข้อเท็จจริงก็คือ ยาซูโดอีเฟดรีนนี้ เป็นยาที่ควบคุมมาโดยตลอด ร้านขายยาเอกชนทุกร้านจะถูกควบคุมปริมาณยอดจำหน่ายโดยสาธารณสุขจังหวัด และทุกร้านจะมียาไว้ในสต๊อกได้ไม่เกิน 30 หรือ 50 เม็ด และจะมีการตรวจสอบสต๊อกตลอด บริษัทที่จะนำเข้าซูโดอีเฟดรีนจากต่างประเทศ ไม่สามารถนำเข้าโดยอิสระได้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากเลขาธิการ อย.ทุกครั้งที่มีการนำเข้า เพราะฉะนั้น สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องดำเนินการเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กระทบกระเทือนกับเรื่องสำคัญ ก็คือยาดังกล่าวเป็นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติดซึ่งร้ายแรงมาก กระทรวงสาธารณสุขต้องตรวจสอบย้อนหลังไปอย่างน้อย 5 ปีว่า ได้มีบริษัทใดบ้างขออนุมัติการนำเข้ายาซูโดอีเฟดรีน ปริมาณปีละเท่าไหร่ ครั้งละเท่าไหร่ หาความผิดสังเกตของการนำเข้าทั้งหมด และต้องตรวจสอบไปว่าบริษัทดังกล่าวได้จำหน่ายยาดังกล่าวนั้นให้กับร้านขายยาเอกชนร้านไหนมากน้อยอย่างไร และที่สำคัญต้องให้ตรวจสอบไปว่ายาดังกล่าวโรงพยาบาลของรัฐที่สั่งไปปริมาณมากผิดปกติ ที่จริงเรื่องนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจะต้องเข้าไปดู เพราะการกระทำของคนบางคนจะทำให้กระทรวงสาธารณสุขเสียหาย ทำให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลต้องเดือดร้อนถ้ามีเจ้าหน้าที่ทุจริตนำยาดังกล่าวไปขายเป็นสารตั้งต้น ผมเข้าใจว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นการกระทำที่สะสมมานานพอสมควร เพราะฉะนั้น ควรที่จะดูยอดตัวเลขย้อนหลังในระยะเวลา 5 ปี
นายวิทยา กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่อยากให้ทางกระทรวงสาธารณสุข และนายกรัฐมนตรีทบทวนก็คือ กรณีที่ท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แถลงเรื่องการจะย้อนยุคกลับของการเก็บเงิน 30 บาท เพื่อนำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคของรัฐบาลไทยรักไทยแต่เดิมมาปัดฝุ่นใหม่ หวังเอาชื่อ 30 บาทกลับมา จะได้เป็นการหาเสียง ทั้งสองท่านต้องระมัดระวังถ้าท่านนำ 30 บาทกลับมาอีกครั้ง ท่านจะทำผิดรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐในการที่จะรักษาพยาบาลโดยไม่เก็บเงินกับผู้ยากไร้ แต่เริ่มเก็บ 30 บาท เมื่อไหร่รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ รัฐบาลทำผิดกฎหมาย ประชาชนเขาไปไกลแล้วครับ วันที่พรรค ปชป. เป็นรัฐบาล หรือวันที่ท่านออกรัฐบาลไป 2-3 ปี ให้หลัง เขาไม่ได้เก็บแม้แต่บาทเดียว และเข้าสู่กระบวนการไม่ต้องทำบัตรทอง ผมเป็นรัฐมนตรีที่ยกเลิกบัตรทองและใช้บัตรประชาชนแทน คนไทยมีบัตรประชาชนใบเดียวก็พอ ใบทองเลิกไปแล้วครับ เพราะฉะนั้น อย่าย้อนกลับเรื่องรัฐบาลทำผิดกฎหมาย สิ่งที่รัฐบาลควรกระทำให้กระทรวงสาธารณสุขคือ อยากให้มีแพทย์ทุกตำบล อยากเรียกร้องให้ช่วยบรรจุแพทย์ พยาบาล ซึ่งทำงานให้กับกระทรวงสาธารณสุขและยังเป็นลูกจ้างอยู่ บุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขยังเป็นลูกจ้างอยู่ประมาณ 3 หมื่นคน ช่วยบรรจุให้เขา เป็นข้าราชการให้หมดด้วย เพราะเขาเรียกร้องมานาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการจำกัดบุคลากรภาครัฐ.
ไทยรัฐออนไลน์ 25 มีนาคม 2555, 15:46 น.
