ผู้เขียน หัวข้อ: สั่งเด้งเภสัชกร รพ.ดอยหล่อ เข้ากรุสธ.อีกราย  (อ่าน 2016 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
วิทยา” แฉเภสัชกรลักลอบยาซูโดฯ แต่ละแห่ง เรียนรุ่นเดียวกัน ด้านปลัดสธ.สั่งเด้งเภสัชกร รพ.ดอยหล่อ เข้าสธ.อีกราย รับโรงพยาบาลชุมชนมีเภสัชกรดูแลสต๊อกยาเพียงคนเดียว ทำให้มีช่องโหว่ในการทำความผิด

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการต่อผู้กระทำผิดในการเบิกจ่ายยาแก้หวัด สูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปแล้ว ใครผิดก็ต้องถูกลงโทษ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ในกลุ่มเภสัชกรแต่ละแห่งที่ถูกสอบสวนไปนั้น เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะรู้จักกัน และมีพฤติกรรมคล้ายกัน

ขณะที่ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาระบุว่า มีสถานพยาบาล คลินิก ร้านขายยา 22 แห่ง ต้องสงสัยเนื่องจากมียาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนหายไปว่า ในจำนวนที่ทางดีเอสไอออกมาระบุนั้น มีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 10 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยได้มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของแต่ละจังหวัดแล้ว เพื่อให้มีความชัดเจนว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นมีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจริงหรือไม่ เนื่องจากเบื้องต้นมีข้อมูลเพียงว่ามีรายงานการสั่งซื้อของโรงพยาบาล และการส่งยาจากบริษัทยาต่างกันมากกว่า 1 แสนเม็ด จึงเร่งให้ตรวจสอบให้แล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ ขณะที่สถานพยาบาลต้องสงสัยในส่วนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เข้าไปตรวจสอบ เพราะเป็นคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีการลักลอบนำยาดังกล่าวออกจากโรงพยาบาลฮอด จ.เชียงใหม่ นั้น คาดว่าผลการตรวจสอบจะส่งมาที่กระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 23 มี.ค. ขณะเดียวกันวันนี้ (22 มี.ค.) กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้เภสัชกร โรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เข้ามาช่วยราชการที่กระทรวงสาธารณสุขแล้ว เพื่อรอผลการสอบสวนวินัยจากทางจังหวัด หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเภสัชกรคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการสั่งยานี้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสต๊อกยาของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ พบว่าแต่ละแห่งมียาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม เหลืออยู่ในหลักหมื่นเม็ด ซึ่งถือว่าไม่เยอะ พร้อมทั้งมีการสั่งให้ระงับการใช้ยาดังกล่าวไปแล้ว

เมื่อถามว่าทำไมปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดในโรงพยาบาลชุมชนมากกว่าโรงพยาบาลทั่วไป นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า เนื่องจากในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป จะมีคณะกรรมการบริหารงานและเวชภัณฑ์ ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้ยาให้มีความสมเหตุสมผล และทำรายงานการใช้ยาทุกเดือน ขณะที่โรงพยาบาลชุมชนโดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง จะมีเภสัชกรเพียง 1 คน ทำหน้าที่ทั้งดูแลสต๊อกยา และสั่งเบิกยา จึงไม่มีการตรวจสอบ ซึ่งอาจจะเป็นช่องโหว่ในการทำความผิดได้ โดยในวันที่ 23 มี.ค. ตนจะประชุมวิดีโอทางไกลกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศโดยจะขอให้สร้างความเข้มแข็งในการดูแลระบบยาของโรงพยาบาลชุมชนใหม่ และจะต้องมีอย่างน้อย 2 คน ในการคุมสต๊อกยาและสั่งจ่ายยา และต้องรายงานการใช้ยาทุกเดือน

เมื่อถามว่าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่ามีการลักลอบนำยาชนิดนี้ออกจากโรงพยาบาลมานานแล้ว นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า น่าจะมาจากการที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีการเข้มงวดกับทางร้านขายยาห้ามขายยาดังกล่าว ทำให้ช่องทางในการนำยาดังกล่าวออกไปเป็นสารตั้งต้นในการทำสารเสพติดเปลี่ยนไปที่โรงพยาบาล เพราะในขณะนี้ยาดังกล่าวจะมีอยู่ตามโรงพยาบาลเท่านั้น.

ไทยรัฐออนไลน์  23 มีค 2555