หลังปิดรับสมัครบุคคลที่จะชิงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คนใหม่ แทนคนเก่าที่จะหมดวาระในวันที่ 1 เมษายนนี้ ในที่สุด...เราก็ได้หน้าตาของ 9 ผู้สมัคร ซึ่งประกอบด้วย
1.น.ส.เรือนทิพย์ เข็มเพ็ชร อายุ 29 ปี พนักงานบริษัทเอกชน
2.น.ส.สุธิมา ไม้เท้าทิพย์ อายุ 40 ปี พนักงานบริษัทเอกชน
3.นพ.ธงชัย ซึงถาวร อายุ 59 ปี 11 เดือน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข
4.ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล อายุ 52 ปี ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ (มศว.) 5.นพ.สุรจิต สุนทรธรรม อายุ 51 ปี ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สปสช.
6.นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ อายุ 52 ปี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข
7.นพ.นพพร ชื่นกลิ่น อายุ 53 ปี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค
8.นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. และ
9.นพ.ษัษฐบุตร พฤทธิพันธุ์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุ่งตะโก จ.ชุมพร
เมื่อไล่เรียงผู้สมัครทั้งหมด นพ.ธงชัย ซึงถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข อีกไม่กี่เดือนจะเกษียณอายุราชการ แว่วมาว่า นพ.ธงชัย เป็นเพื่อนกับพี่ชายของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (ชินวัตร) ขณะที่ นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มศว. เป็นอีกคนที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็น 1 ในกรรมการแพทยสภา ซึ่งมีผลงานจากการติดตามเรื่องแพทย์อินเตอร์ หรือการปรับหลักสูตรแพทย์สมัยใหม่ให้เป็นระดับนานาชาติ จนกลายเป็นข่าวโด่งดังช่วงหนึ่ง จึงได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มแพทยสภา และสภาวิชาชีพต่างๆ
ส่วน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข แม้จะเป็น 1 ในรายชื่อที่น่าจับตามอง แต่งานนี้อาจไม่ง่าย เนื่องก่อนหน้านี้เคยถูกกลุ่มแพทย์ชนบทตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลเมื่อครั้งเป็น 1 ในกรรมการร่างทีโออาร์ การจัดซื้อคอมพิวเตอร์ให้สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ราว 900 ล้านบาท และเป็นข่าวฉาวที่มีปัญหาระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกระบุว่าออกคำสั่งโดยไม่ชอบ อีกฝ่ายหนึ่งคือ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในขณะนั้น ประกอบกับช่วงนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เข้ามาปัดกวาดคดีทุจริตคอร์รัปชั่น แต่เมื่อ คตส.สิ้นสภาพก็มีการโยนลูกต่อให้ ป.ป.ช. ต่อมามีข่าวคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธาน ได้ชี้มูลความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คือ คุณหญิงสุดารัตน์และข้าราชการประจำอื่นๆ จนนำไปสู่การยื่นถอดถอนนายภักดีออกจาก ป.ป.ช. ด้วยเหตุผลไม่เป็นธรรม แต่ล่าสุด วุฒิสมาชิกลงมติให้นายภักดีอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพราะไม่มีมูลความผิด เรื่องนี้จึงต้องเดินหน้าตรวจสอบอีก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายของ นพ.ชาญวิทย์ เรียกว่าอ่อนแรงพอควร
ส่วน นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นม้ามืดที่คนใน สปสช.แปลกใจ แต่เชื่อว่าน่าจะได้รับคำขอร้องจากฝ่ายการเมือง ไม่ว่าใครจะมาวิน แต่ที่แน่ๆ ช่วงนี้มีข่าวว่า คณะกรรมการสรรหาเตรียมส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความในเรื่องคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สปสช. เรื่องข้อกำหนดว่าภายใน 1 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ต้องไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ สปสช.
มาถึงตรงนี้ ผู้เข้าข่ายถูกตีความคือ นพ.วินัย เพราะปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สปสช. ทำหน้าที่บริหาร แต่ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 กำหนดชัดว่าสามารถดำรงตำแหน่งได้ 2 วาระ จึงตกไป ส่วน นพ.ธงชัย นพ.ชาญวิทย์ นพ.นพพร ยังก้ำกึ่ง เพราะเป็นข้าราชการด้านการบริหาร เหลือเพียง นพ.สมเกียรติ แม้อดีตเคยเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มศว. แต่ผ่านพ้นไปแล้วกว่า 1 ปี จึงรอด
งานนี้จึงเหลือตัวเก็ง 2 คน แต่กว่าจะรอตีความกว่าจะเลือกเลขาธิการ สปสช.ต้องใช้เวลาร่วม 2-3 เดือน
ถึงวันนั้นตัวเลขาธิการ สปสช. ที่วางไว้ อาจเปลี่ยนไป...
มติชนออนไลน์ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555
