ผู้เขียน หัวข้อ: “ศิริราช” เปิดตัวเมดิคัลฮับแห่งแรกของไทยเริ่มให้บริการ 26 เม.ย.นี้  (อ่าน 1223 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
 คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดตัว “โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” เริ่มให้บริการ 28 เม.ย.นี้ ทุ่ม 7 พันล้าน ผุด “เมดิคอลฮับ” แห่งแรกของไทย เจาะกลุ่มผู้มีกำลังจ่าย สะดวก สบาย รวดเร็วทัดเทียม รพ.เอกชน เผย จุดต่างดูแลคนป่วยเหมือนญาติ ไม่คิดค่าบริการเวอร์ มุ่งเลี้ยงตัวได้ แถมนำรายได้กลับคืนพัฒนาการแพทย์และวิจัย รพ.ศิริราช
       
       วันนี้ (7 ก.พ.) รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) เปิดเผยว่า คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดตัวโรงพยาบาลแห่งใหม่ “รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ในสังกัดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หนึ่งในโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ซึ่งจะเน้นให้บริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานสากล ให้ผู้ป่วยได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว เช่นเดียวกับบริการของ รพ.เอกชน ในมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลศิริราช และให้บริการค่ารักษาพยาบาลในอัตราที่สมเหตุสมผล บนฐานกำไรไม่เกินร้อยละ 10-12 ซึ่งต่ำกว่า รพ.เอกชน โดยในปีนี้จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เม.ย.นี้

       “ความจำเป็นในการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ขึ้น เนื่องมาจากแนวคิดของรัฐบาลในการออกนอกระบบ ตั้งแต่ปี 2546 ส่งผลให้เริ่มได้รับงบประมาณที่ลดลงทุกปี ขณะที่ รพ.ศิริราช จะขาดทุนในการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว โดยในค่ารักษา 100 บาท รพ.ศิริราช จะขาดทุนประมาณ 10 บาทต่อราย ดังนั้น โรงพยาบาลต้องหารายได้เพิ่มขึ้น โดยยึดหลักต้องเป็นโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากล สามารถรักษาบุคลากรทางการแพทย์ไม่ให้ไหลออกไป รพ.เอกชนอื่น และสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยจะนำรายได้ทั้งหมด กลับคืนสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลในการพัฒนาทั้งทางด้านการแพทย์และการวิจัย” รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าว
       
       รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ใช้งบลงทุนจำนวน 7,000 ล้าน แบ่งเป็น อุปกรณ์ทางการแพทย์ 2,000 ล้านบาท ถือเป็นเมดิคัลฮับแห่งแรกของประเทศไทย เป็นศูนย์รักษาโรคครบวงจร เช่น ศูนย์อายุรกรรม ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์รังสีรักษา ศูนย์รังสีวินิจฉัย ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์ไตเทียม ฯลฯ เน้นให้บริการผู้ป่วยโรคซับซ้อนที่รักษายาก มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เอ็มอาร์ไอ) เครื่องฉายรังสีรักษาผู้ป่วยมะเร็ง และใช้ระบบสารสนเทศสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งระบบการจัดการโรงพยาบาล อาทิ ระบบข้อมูลผู้ป่วย ระบบการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วย ระบบเชื่อมโยงด้านการบริการต่างๆ และระบบการจัดซื้อ บัญชี การเงิน เป็นต้น เพื่อรองรับการแพทย์ในอนาคตอีก 10 ปี ข้างหน้า

       รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การให้บริการของ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ จะไม่กระทบกับให้บริการของ รพ.ศิริราช โดยกลุ่มเป้าหมายของโรงพยาบาล เน้นคนไทยที่กมีำลังสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ แต่ก็ไม่ปิดกั้นคนต่างชาติที่จะมารักษา ซึ่งในอนาคตคณะกรรมการบริหาร รพ. ซึ่งเป็นคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช อาจมีการแบ่งสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามารักษาชัดเจนขึ้น เช่น ต่างชาติร้อยละ 20 คนไทยร้อยละ 80
       
       “ส่วนอัตราค่าบริการที่บอกว่าสมเหตุสมผลนั้น เนื่องจากโรงพยาบาลไม่ได้มุ่งหวังกำไร หากเปรียบเทียบกับอัตราค่าบริการของรพ.รัฐจะต้องแพงกว่าแน่นอน แต่ถ้าเป็นรพ.เอกชน อาจจะถูกกว่า เช่น ค่าบริการรพ.เอกชน 100 บาท แต่ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ คิด 70-80 บาท แต่ไม่ได้หมายความว่า บริการทุกอย่างจะถูกกว่าเอกชน อาจเท่ากันหรือแพงกว่าก็เป็นได้ แต่ที่แตกต่าง คือ เรามีบริการบางอย่างที่ รพ.เอกชนไม่มี”ผอ. รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าว

       รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ สามารถเลี้ยงต้นเองได้ในปีที่ 3 เบื้องต้นจะเปิดเฟสแรกแค่ร้อยละ 30 และเปิดเฟสที่ 2 เพิ่มเป็นร้อยละ 50 และเป็นเหมือนดีพาร์ทเมนท์สโตร์ของการบริการทางการแพทย์ พร้อมทั้งได้รับความศรัทธาจากประชาชน
       
       ทั้งนี้ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีประมาณ 300 เตียง อาคารมีความสูง 14 ชั้น ภายในอาคารมีห้องบริการผู้ป่วยนอก 177 ห้อง ห้องผ่าตัด 17 ห้อง ห้องพักผู้ป่วย 284 ห้อง หอผู้ป่วยวิกฤติ 61 ห้อง มีพื้นที่จอดรถมากว่า 1,000 คัน ส่วนบุคลากรนั้น คาดว่า จะใช้พยาบาล 256 คน ส่วนแพทย์ จะเป็นแพทย์ประจำในเฟสแรก 14 คน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคณะแพทยศาสตร์ รพ.ศิริราช ในลักษณะการทำงานนอกเวลา

ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 กุมภาพันธ์ 2555