สาธารณสุขภูเก็ตส่งทีมผู้เชี่ยวชาญล่าแมงมุมแม่ม่ายดำ ตามที่ญาติระบุว่าหนุ่มสกลฯ ถูกกัดเสียชีวิต หวั่นทำอันตรายชาวบ้านซ้ำ ขณะที่ล่าสุดส่งศพตรวจซ้ำที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ คาดรู้ผลภายใน 7 วัน…
กรณีนายวันชัย วงศรีกร อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 3 หมู่ 3 ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ปัจจุบันพักอยู่บ้านเลขที่ 190/14 หมู่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถูกแมง หรือแมลง หรือสัตว์บางชนิดกัด ขณะอาบน้ำอยู่ภายในบ้านพัก เมื่อค่ำวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา และเข้ารักษาตัวที่ รพ.ถลาง ในเวลาต่อมา จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 ม.ค. โดยแพทย์ลงความเห็นและวินิจฉัยในใบมรณบัตรถึงสาเหตุการตายโดยพิษเฉียบพลันจากสัตว์ไม่ทราบชนิดกัด เบื้องต้นญาติๆ ต่างติดใจเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาของแพทย์ที่ล่าช้า ส่งผลให้นายวันชัยเสียชีวิต ขณะที่ชาวบ้านบริเวณโดยรอบบ้านพักของนายวันชัยที่ทราบข่าว พากันตื่นตกใจเกี่ยวกับแมง หรือสัตว์ที่ทำให้นายวันชัยเสียชีวิต
ต่อมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต และคณะแพทย์ รพ.ถลางออกแถลงข่าวชี้แจงขั้นตอนการรักษาและสาเหตุการตาย ระบุว่า สัตว์ที่ทำให้นายวันชัยเสียชีวิตนั้น อาจไม่ใช่แมงมุมตามที่ทางญาติเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่กัดนายวันชัยก่อนเสียชีวิต หลังจากญาติได้รับฟังการชี้แจงจาก สสจ.ภูเก็ต และแพทย์ รพ.ถลาง แล้ว จึงไม่ติดใจเอาความเกี่ยวกับการรักษา พร้อมกับขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิดนั้น
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายวันชัย ที่ถูกสัตว์มีพิษกัดจนเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ รพ.ถลาง, สสจ., อสม.อ.ถลาง และหน่วยสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่บริเวณบ้านพักของผู้ตาย เพื่อให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับสัตว์มีพิษ รวมถึงเฝ้าระวังติดตามหาแมงมุมที่ทางญาติผู้ตายเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต เพื่อจะได้เกิดความชัดเจน
นอกจากนี้ ในส่วนของ สสจ.ภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นประธานประชุมร่วมกับแพทย์ รพ.ถลาง เพื่อติดตามหาสาเหตุของการเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดนั้น ก่อนที่ญาติจะรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิด ได้ให้ญาตินำศพเข้าไปยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์นิติเวชได้เก็บข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายใน 7 วัน ซึ่งเมื่อทราบแล้วจะต้องมีการประชุมสรุปสาเหตุที่ชัดเจน โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น สสจ.ไม่สามารถที่จะระบุได้เอง จึงต้องรอผลการพิสูจน์ยืนยันความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้ดูบาดแผล มีความเป็นไปได้ว่าถูกสัตว์มีพิษกัด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ดังนั้น จำเป็นจะต้องหาตัวแมงมุมที่ถูกระบุว่าเป็นต้นเหตุให้ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถทราบสาเหตุที่ชัดเจน และเมื่อพิจารณาอาการของผู้ตาย พบว่ามีอาการปวดเฉพาะจุด ซึ่งจะต่างจากการแพ้พิษของต่อหรือแมงหรือหมาบ้า เพราะหากแพ้อย่างรุนแรงจะมีอาการบวมแดง เหนื่อยหอบ และเสียชีวิตภายใน 2-3 ชั่วโมง จึงมีโอกาสน้อย แต่ก็เป็นไปได้ แม้อาการจะต่างจากอาการของนายวันชัย
นายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต กล่าวด้วยว่า เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พบตัวแมงมุมที่ถูกระบุถึง จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า สาเหตุการตายมาจากสัตว์ชนิดใด ส่วนกรณีที่เกรงว่าจะเป็นแมงมุมม่ายดำนั้น เท่าที่ทราบในเมืองไทยไม่เคยพบแมงมุมชนิดนี้มาก่อน หากมีการตรวจพบแสดงว่าจะต้องมีผู้นำเข้ามา จำเป็นที่จะต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ เพื่อจัดเตรียมในเรื่องยาต้านพิษ และต้องหาตัวให้พบ รวมทั้งจะต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อจะได้เพิ่มความระมัดระวัง รวมถึงในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา นักกีฏวิทยา หรือหน่วยงานอื่นๆ จะได้มีการศึกษาข้อมูลให้ละเอียด แต่ที่สำคัญคือ จะต้องหาตัวแมงมุมดังกล่าวให้พบ.
ไทยรัฐออนไลน์ 25 มค 2555