ผู้เขียน หัวข้อ: เภสัชกรหนุ่ม จบชีวิตตัวเอง กดดันหนักเจอที่ทำงานเป็นพิษ ทิ้งจดหมายสุดหดหู่  (อ่าน 61 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 10044
    • ดูรายละเอียด
เภสัชกรหนุ่ม จบชีวิตตัวเอง กดดันหนักเจอที่ทำงานเป็นพิษ ถูกกดดันให้ลาออกอย่างไม่เป็นธรรม ทิ้งจดหมายสุดหดหู่

วันที่ 30 ต.ค. 2567 กลายเป็นข่าวเศร้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเพจใต้เตียงมข.ได้โพสต์เรื่องราวสุดเศร้าของวงการแพทย์ หลังจากที่ "เภสัชกรหนุ่ม" รายหนึ่งที่ต้อง เผชิญแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ กดดันหนักจนตัดสินใจลาโลก ด้วยการรมควันภายในรถยนต์ ทิ้งจดหมายฉบับสุดท้ายขอโหสิกรรมครอบครัวอ่านแล้วยิ่งสุดหดหู่ พร้อมภาพข้อความแชทที่พูดคุยกับหัวหน้างาน ในลักษณะที่ถูกกดดันให้ลาออกอย่างไม่เป็นธรรม   

โดยโพสต์ของทางเพจใต้ เตียงมข. มีใจความว่า ข่าวเศร้าจากวงการเภสัชกร เมื่อเภสัชกรหนุ่ม ศิษย์เก่า มข. และอดีตพี่เลี้ยงน้องใหม่ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง หลังต้องเผชิญกับความกดดันและความเป็นพิษในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาจนทนไม่ไหว ในข้อความสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ เขาได้กล่าวถึงความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ไม่ได้รับความเข้าใจและการสนับสนุนที่ดีจากหัวหน้างาน รวมถึงการถูกกดดันให้ลาออกอย่างไม่เป็นธรรม

เรื่องราวของเขาทำให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิตในที่ทำงาน และชี้ให้เห็นว่าการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษอาจส่งผลร้ายแรงต่อสภาพจิตใจของพนักงาน การจากไปของเขาเป็นเสียงเตือนให้ผู้ที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้างานต้องกลับมาทบทวนถึงการกระทำของตนเอง ว่าการปฏิบัติต่อลูกน้องในลักษณะที่กดดันหรือไม่ให้การสนับสนุนที่เพียงพอนั้น อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าเศร้าและไม่ควรเกิดขึ้น

เพื่อนและคนรู้จักของเขาต่างสะเทือนใจและเสียใจกับการจากไปครั้งนี้ หลายคนมองว่าเขาเป็นคนมีจิตใจดี สดใส และเป็นที่รักของเพื่อนๆ ซึ่งสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษได้ทำให้เขาต้องสูญเสียพลังใจในการดำเนินชีวิต

เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนให้สังคมให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงานในองค์กร และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เข้าใจและสนับสนุนจิตใจของคนในทีม เพื่อลดการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต


 นอกจากนี้ กรณีของเภสัชกรหนุ่มยังทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลายคนตั้งคำถามถึงบทบาทของหัวหน้างานในการดูแลจิตใจของพนักงาน และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการบริหารจัดการในองค์กร โดยเฉพาะการสนับสนุนทางจิตใจที่หัวหน้างานควรมอบให้แก่ลูกน้อง หลายความคิดเห็นแสดงความเห็นตรงกันว่า การพูดคุยอย่างสร้างสรรค์และการรับฟังเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอาจเป็นสิ่งเล็กๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญกับความเครียดและปัญหาต่างๆ ก้าวข้ามสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้

 
และยังได้คอมเมนต์ภาพข้อความแชทที่ผู้เสียชีวิตพูดคุยกับหัวหน้างาน ไว้ด้วย

30 ต.ค. 2567
https://www.tnews.co.th/social/social-news/616800

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 10044
    • ดูรายละเอียด
โซเชียลวิจารณ์สนั่น ภาพแชตไลน์หัวหน้า ปมปัญหาในที่ทำงาน คาดเป็นเหตุทำให้ลูกน้องทนไม่ไหว

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล เมื่อเฟซบุ๊กเพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้เผยแชตของชายคนหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็น เภสัชกรขณะคุยกับหัวหน้างาน

โดยในแชตบางช่วงบางตอน ทางหัวหน้างานได้แนะนำให้ลูกน้องคนนี้ไปพัก หรือลาออก หากรู้สึกว่าเริ่มไม่มีความสุขกับการทำงาน และมีประโยคที่ถามว่า "จะย้ายไปทำงานแผนกอื่นไหม จะได้ไปถามให้ เพราะจะได้ไม่มีหัวหน้าอย่างตนมากดดัน" รวมถึงบทสนทนาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน โดยหัวหน้าทิ้งท้ายว่า "หากทำงานร่วมกันไม่ได้ก็ลาออกไป ประวัติจะได้ไม่เสีย"

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ พี่ของเจ้าของแชตนี้ ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวว่า น้องตัวเองจากไปแล้ว โดยทิ้งข้อความเอาไว้ถึงคนที่อยู่รอบตัว ทั้งขอบคุณความทรงจำดีๆ และคนที่คอยช่วยเหลือ รวมถึงขอโทษหากติดค้างใครไว้

นอกจากนี้ ยังมีบางท่อน ที่ระบุถึงปัญหาในที่ทำงานว่า ต้องไปเจอหน้าคนที่ไม่เคยเห็นค่า ไลน์ที่ทำงานก็ Toxic จนเกิดปัญหาหลายอย่างกับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม หากมีการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หรือมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไป.

30 ต.ค. 2567
ไทยรัฐ

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 10044
    • ดูรายละเอียด
โรงพยาบาลพระรามเก้า ออกแถลงการณ์เสียใจเหตุบุคลากรเสียชีวิต ยันตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิดเป็นไปอย่างยุติธรรมในทุกขั้นตอน พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้วยความเข้าอกเข้าใจ

วันที่ 31 ต.ค. 67 จากรณีโซเชียลวิจารณ์สนั่น ภาพแชตไลน์หัวหน้า ปมปัญหาในที่ทำงาน คาดเป็นเหตุทำให้ลูกน้องทนไม่ไหว ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : วิจารณ์สนั่น แชตไลน์หัวหน้า คาดทำให้ลูกน้องทนไม่ไหว)

ล่าสุด มีรายงานว่า แฟนเพจ Praram 9 hospital เผยแพร่แถลงการณ์จากโรงพยาบาลพระรามเก้า เรื่อง ขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของบุคลากรในโรงพยาบาลพระรามเก้า

โดยระบุว่า โรงพยาบาลพระรามเก้าขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าในองค์กรและขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

ทันทีที่โรงพยาบาลฯ ทราบถึงเหตุการณ์ คณะผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และได้ติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ โดยยืนยันถึงความรับผิดชอบและความมุ่งมั่นในการดำเนินการให้เป็นไปอย่างยุติธรรมในทุกขั้นตอน

การออกแถลงการณ์ครั้งนี้ล่าช้า เนื่องจากทางองค์กรจำเป็นต้องทำการรวบรวมข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive) อย่างรอบคอบ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงจิตใจของครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต เพื่อให้แน่ใจว่าแถลงการณ์นี้จะสะท้อนถึงความห่วงใยและการเคารพต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง

โรงพยาบาลฯ มีความยินดีที่จะดูแลและสนับสนุนครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ รวมถึงการดูแลและให้กำลังใจบุคลากรทุกคนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและใจให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้วยความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) เพื่อให้การดูแลซึ่งกันและกันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน)

Thairath Online
31 ต.ค. 67