ผู้เขียน หัวข้อ: เกิดอะไรขึ้นที่ รพ.สงฆ์! 4 ผู้บริหารขอลาออกตำแหน่งพร้อมกัน อ้างผู้มีอำนาจส่อไม่  (อ่าน 18 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวในโรงพยาบาลสงฆ์ว่า ในช่วงปลายเดือน มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูง  4 ราย ของโรงพยาบาลสงฆ์ ประกอบด้วย นพ.สมเกียรติ เกษมธรรมคุณ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ดร.ดุษฎี ใหญ่เรืองศรี รองผู้อำนวยการด้านการพยาบาล นพ.อนุตพงษ์ ชูจันทร์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาระบบสุขภาพ และ นพ.ประวิทย์ ตันติวัฒนาศิริกุล หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม ในฐานะคณะกรรมการบริหารหน่วยงาน ได้ทำบันทึกถึงอธิบดีกรมการแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อขอลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกัน

โดยผู้บริหารระดับสูงทั้ง 4 ราย ระบุถึงเหตุผลการลาออกเหมือนกัน ว่า "เนื่องจากการบริหารงานของผู้มีอำนาจในโรงพยาบาลสงฆ์ ที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ ทำให้เกิดความไม่สบายใจและความไม่ปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจรวมถึงครอบครัว จึงขอลาออกจากตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 เป็นต้นไป"

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ภายหลังได้รับทราบเรื่องนี้ ได้ติดต่อไปยัง พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงถึงกรณีที่เกิดขึ้น

พญ.อัมพร ชี้แจงว่า เรื่องการลาออกจากตำแหน่งฝ่ายบริหารเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นเรื่องของกลไกการบริหารภายใน แต่ยังไม่ได้เห็นเอกสารลาออกฉบับจริง ได้รับการแจ้งผ่านการบอกเล่า

เมื่อถามว่า มีการระบุเหตุผลในหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเหมือนกันว่า การบริหารงานของผู้มีอำนาจในโรงพยาบาลสงฆ์ ที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ?

พญ.อัมพร กล่าวว่า "ไม่ทราบ ต้องถามเจ้าตัวเอง"



29 มีนาคม 2567
https://www.isranews.org/article/isranews-scoop/127436-isra-priest-hospital.html

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
กรมการแพทย์แจงผู้บริหาร รพ.สงฆ์ ขอลาออกพร้อมกัน 4 ฝ่าย ติดตามรับฟังข้อมมูลใกล้ชิดรอบด้าน ล่าสุดยกเลิกและถอนใบลาออกแล้ว ยันตั้งใจทำงานเพื่อ รพ.และประชาชนต่อไป ด้านอธิบดีกรมการแพทย์ตอบเองผ่านเพจ เป็นเรื่องปกติระบบราชการ สามารถแสดงเจตจำนงตามสิทธิ

จากกรณีข่าวผู้บริหาร รพ.สงฆ์ 4 ราย ยื่นใบลาออกพร้อมกัน พร้อมแสดงเหตุผลว่าการบริหารงานของผู้มีอำนาจใน รพ.สงฆ์ส่อไปในทางไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ ทำให้เกิดความไม่สบายใจและไม่ปลอดภัย โดยยื่นลาออกต่อ ผอ.รพ.สงฆ์ และอธิบดีกรมการแพทย์

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกแถลงชี้แจงกรณีผู้บริหาร รพ.สงฆ์ขอลาออก ว่า จากที่มีข่าวการขอลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารโรงพยาบาลสงฆ์ 4 คนพร้อมกัน เนื่องจากมีความกังวลใจในระบบการบริหารงานภายในโรงพยาบาลนั้น กรมการแพทย์ขอชี้แจงว่า ผู้บริหารระดับสูงของกรมการแพทย์ได้รับทราบและตั้งข้อสังเกตถึงสถานการณ์ที่ต้องติดตามในช่วงที่ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ยังได้มีการรับฟังข้อมูลจากบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงขวัญกำลังใจของบุคลากรภาพรวมขององค์กรเป็นที่ตั้ง ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ ทุกคนยังมีความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ถวายการดูแลสุขภาพแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณรอาพาธได้ตามปกติ อย่างเต็มกำลังความสามารถ

สำหรับคณะผู้บริหารโรงพยาบาลที่ปรากฏในข่าวว่า ขอลาออกจากตำแหน่งบริหารก็ขอยกเลิกการลาออกแล้ว โดย นพ.สมเกียรติ เกษมธรรมคุณ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ดร.ดุษฎี ใหญ่เรืองศรี รองผู้อำนวยการด้านการพยาบาล ได้แถลงว่าตนและคณะผู้บริหารโรงพยาบาลสงฆ์อีกสองท่าน คือ นพ.อนุตพงษ์ ชูจันทร์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาระบบสุขภาพ และนพ.ประวิทย์ ตันติวัฒนาศิริกุล หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม ในฐานะคณะกรรมการบริหารหน่วยงานมีโอกาสได้ปรึกษาคณะผู้บริหารในระดับกรมอย่างใกล้ชิด ทำให้รับทราบถึงความใส่ใจและความห่วงใยของผู้บังคับบัญชาระดับสูง คณะผู้บริหารทั้ง 4 รายดังกล่าว รู้สึกขอบพระคุณในความเข้าใจและกำลังใจนี้ จึงขอถอนใบลาออก และขอยืนยันความตั้งใจดีที่จะเดินหน้าทำงานเพื่อโรงพยาบาลสงฆ์และประชาชนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศ/รพ.ทั่วไป” โพสต์เรื่องดังกล่าว โดย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้เข้ามาตอบในคอมเมนต์โดยส่งแถลงการณ์ของกรมการแพทย์ พร้อมทั้งได้ตอบกลับผู้ที่แสดงความคิดเห็น เพื่ออธิบายเรื่องดังกล่าว อาทิ

ความคิดเห็นที่ว่า : เรื่องปกติของการบริหารภายใน แปลว่า....

พญ.อัมพร : แปลว่าเมื่อผู้บริหารไม่สบายใจ ก็มีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นได้ รวมถึงสามารถแสดงเจตจำนงในการขอปรับบทบาทในงานบริหารได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น : แต่คงหนักไม่งั้นไม่ลาออกพร้อมกันถึง 4 ฝ่าย

พญ.อัมพร : ในระบบบริหารราชการ การแจ้งความจำนงตามสิทธิของตน เป็นเรื่องปกติ แต่การมีผู้แสดงความเห็นเช่นนี้ อาจสะท้อนถึงปัญหาบางอย่าง ซึ่งกรณีนี้ผู้บริหารระดับกรมให้ความสนใจใกล้ชิดค่ะ


30 มี.ค. 2567  ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
ผอ.รพ.สงฆ์ ยันไม่มีเรื่องส่อทุจริต เผยเป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อนในรายละเอียดเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง ปม 4 ผู้บริหารขอลาออกพร้อมกัน เตรียมเปิดโต๊ะกลมคุยสัปดาห์หน้า หลังกลับจากภารกิจที่ต่างประเทศ

จากกรณี สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวในโรงพยาบาลสงฆ์ว่า ในช่วงปลายเดือน มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูง 4 ราย ของโรงพยาบาลสงฆ์ ประกอบด้วย นพ.สมเกียรติ เกษมธรรมคุณ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ดร.ดุษฎี ใหญ่เรืองศรี รองผู้อำนวยการด้านการพยาบาล นพ.อนุตพงษ์ ชูจันทร์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาระบบสุขภาพ และ นพ.ประวิทย์ ตันติวัฒนาศิริกุล หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม ในฐานะคณะกรรมการบริหารหน่วยงาน ได้ทำบันทึกถึงอธิบดีกรมการแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อขอลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกัน

โดยผู้บริหารระดับสูงทั้ง 4 ราย ระบุถึงเหตุผลการลาออกเหมือนกัน ว่า "เนื่องจากการบริหารงานของผู้มีอำนาจในโรงพยาบาลสงฆ์ ที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ ทำให้เกิดความไม่สบายใจและความไม่ปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจรวมถึงครอบครัว จึงขอลาออกจากตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 เป็นต้นไป"

ต่อมาวันที่ 30 มี.ค.2567 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงข่าวการถอนใบลาออก ของคณะผู้บริหารทั้ง 4 รายดังกล่าว โดยคณะกรรมการบริหารหน่วยงานมีโอกาสได้ปรึกษาคณะผู้บริหารในระดับกรมอย่างใกล้ชิด ทำให้รับทราบถึงความใส่ใจและความห่วงใยของผู้บังคับบัญชาระดับสูง คณะผู้บริหารทั้ง 4 รายดังกล่าว รู้สึกขอบพระคุณในความเข้าใจและกำลังใจนี้ จึงขอถอนใบลาออก และขอยืนยันความตั้งใจดีที่จะเดินหน้าทำงานเพื่อโรงพยาบาลสงฆ์และประชาชนต่อไป

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้พูดคุยกับ นพ.อภิชัย สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการ รพ.สงฆ์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตอนนี้เรื่องราวสงบลงแล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยไปแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจกัน และประจวบกับตนต้องเดินทางมาทำภารกิจที่ต่างประเทศ จึงเกิดปัญหาขึ้นในช่วงที่ตนไม่อยู่

"จริงๆ ควรเป็นการพูดคุยแบบเปิดอก แต่อาจจะเป็นเพราะว่าการหาช่องทางการพูดคุยที่ผ่านมา ทั้งๆที่ได้เปิดโอกาสในที่ประชุมใหญ่ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้มีการนำเสนอในประเด็นนี้ แต่พอมีการยกประเด็นขึ้นมา ในช่วงที่ ผอ.ไม่อยู่ รอกลับไป โดยสัปดาห์น่าจะมีการเปิดโต๊ะกลมคุยกัน" นพ.อภิชัย กล่าว

ส่วนสาเหตุการระบุว่า การบริหารงานของผู้มีอำนาจในโรงพยาบาลสงฆ์ ที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ นพ.อภิชัย กล่าวว่า เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนบางอย่างที่เกี่ยวกับการตรวจสอบรายละเอียดการดำเเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมา ทำให้เกิดความไม่สบายใจ จากการมองคนละมุมมองระหว่างฝ่ายกลุ่มอำนวยการ ที่มีภารกิจมุ่งจะพัฒนาโรงพยาบาลให้เกิดความเจริญ ให้พระหรือผู้ที่เข้ามารับบริการรู้สึกถึงความทันสมัย เพราะเวลาที่ผ่านมา รพ.ทรุดโทรมเสื่อมโทรมลงไปมาก ฝ่ายที่พัฒนาก็มีความตั้งใจที่จะทำอย่างดีและรวดเร็ว ส่วนฝ่ายทางการแพทย์ การพยาบาลที่มีภารกิจเกี่ยวกับด้านการดูแลผู้ป่วย ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการพัฒนา เลยอาจจะไม่เข้าใจอีกฝ่ายหนึ่ง จึงทำให้มองว่าภารกิจหน้าที่บางอย่างมันซ้ำซ้อนกัน

"ยืนยันไม่มีประเด็นเรื่องส่อทุจริต แต่มีประเด็นบางอย่าง เช่น รายละเอียดไม่ครบ อาจจะต้องมองด้วยว่า เราควรที่จะใส่ใจในบางเรื่อง แต่กลับไปใส่ใจในบางเรื่องแทน" นพ.อภิชัยระบุ

นพ.อภิชัย กล่าวด้วยว่า ตลอดระเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา รพ.ได้พัฒนาค่อนข้างเยอะ ชี้วัดได้จากผู้ที่มาใช้บริการ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าไม่มีเรื่องทุจริต เนื่องจากรายได้ของ รพ.มาจากการบริจาค ไม่ใช่การเก็บค่ารักษาพยาบาล เกรงว่าจะกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริจาคในอนาคต


31 มีนาคม 2567
https://www.isranews.org/article/isranews-news/127464-isra-106.html