ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อร้อง รพ.ดังไม่มีหมอ พาลูกชายไปรักษา รอแพทย์มาตรวจจนคนป่วยตาย  (อ่าน 35 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
อดีตนายก ทต.ห้วยกระเจา โวย รพ.เอกชนชื่อดัง จ.สุพรรณบุรี ลูกชายแน่นหน้าอกกลางดึก รีบนำตัวไปรักษา ได้แต่กินยากรดไหลย้อน ปั๊มหัวใจนับชั่วโมงเพื่อรอหมอ สุดท้ายลูกชายตายคามือ เผยสุดเสียใจมารู้ทีหลังว่า รพ.ไม่มีหมอ

วันที่ 8 มี.ค. 67 นายสิริพงศ์ สืบเนียม หรือนายกพันธ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 6 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเช้ามืดของวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายศาสตรา สืบเนียม หรือฮาร์ท อายุ 42 ปี ลูกชายของตนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้าน อยู่ๆ ก็เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จากนั้นภรรยาของลูกชายจึงรีบนำตัวส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยตนได้เดินทางไปดูอาการของลูกชายด้วยตนเอง

เมื่อลูกชายไปถึงโรงพยาบาลสภาพร่างกายยังคงแข็งแรง สามารถเดินขึ้นเปลเองได้ แต่ระหว่างที่นอนรอหมออยู่บนเปล อาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกได้รุนแรงขึ้นถึงต้องดิ้นทุรนทุราย แต่ก็ยังไม่มีหมอมาดูอาการ มีเพียงพยาบาลเท่านั้นที่คอยดูและและนำยาแก้กรดไหลย้อนให้ลูกชายกิน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น มีแต่จะทรุดลง ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันปั๊มหัวใจอยู่ตลอดเวลานานนับชั่วโมงจนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. ลูกชายของตนได้เสียชีวิตลง

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตลงนั้น ตนได้พยายามพูดคุยกับทางโรงพยาบาลเอกชนแห่งนั้น เพื่อขอให้นำรถของโรงพยาบาลส่งตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามจันทร์ ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลสนามจันทร์แล้ว แต่ทางโรงพยาบาลเอกชนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ได้แต่บอกว่าให้รอทำเอกสารส่งตัวก่อน ซึ่งขณะนั้นได้พูดคุยกับลูกสะใภ้และลูกชายคนโตว่าจะเอารถส่วนตัวนำลูกชายไปส่งโรงพยาบาลสนามจันทร์ด้วยตัวเอง แต่ก็กลัวว่าลูกชายจะเป็นอะไรระหว่างเดินทาง หากได้รถโรงพยาบาลไปส่งก็น่าจะปลอดภัยกว่าเพราะมีทั้งพยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมกว่าที่ตนจะเอารถไปส่งลูกชายเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลูกชายเสียชีวิตลง ครั้งแรกตนไม่ได้คิดอะไรมาก โดยแพทย์ได้เขียนในใบมรณะระบุว่า สาเหตุที่ลูกชายเสียชีวิต เป็นเพราะเกิดจาก “กล้ามเนื้อหัวใจตาย” จึงนำศพลูกชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ซึ่งก็มีครอบครัวรวมทั้งญาติและผู้ที่รู้จักมักคุ้นไปมาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก และเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีเพื่อนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เดินทางมาร่วมงานศพของลูกชาย มีการพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งตนก็เล่าให้ฟัง เมื่อเพื่อนคนนั้นฟังว่าตนนำลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เพื่อนถึงกับตกใจพร้อมกับเล่าว่าโรงพยาบาลที่นำลูกชายไปรักษานั้นเป็นโรงพยาบาลที่แทบจะไม่มีหมอ หรือมีก็น้อยมาก คนในพื้นที่ต่างก็รู้ดี หากไม่จำเป็นก็ไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้แต่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นแทน เพราะมีหมอที่พร้อมกว่า

หลังจากทราบข้อมูลดังกล่าวจากเพื่อน ตนกับครอบครัวต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะหากทางโรงพยาบาลเล่าความจริงให้ทราบตั้งแต่แรกลูกชายก็คงจะไม่เสียชีวิตลงเช่นนี้ สิ่งที่ทางครอบครัวติดใจ คือทำไมโรงพยาบาลจึงไม่ยอมบอกให้เราทราบความจริงว่าโรงพยาบาลไม่มีหมอในการรักษา เท่านั้นเอง หลังจากนี้จะปรึกษากับครอบครัวและญาติ รวมทั้งจะร้องเรียนไปยังนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับโรงพยาบาลแห่งนี้

8 มี.ค.2567
ไทยรัฐ