ผู้เขียน หัวข้อ: งานเข้าวิลล่าหรูภูเก็ต จนท. สั่งรื้อบันไดทิ้ง เหตุรุกที่สาธารณะ หลังหมอโดนทำร้าย  (อ่าน 93 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
งานเข้าวิลล่าหรูภูเก็ต จนท.ตรวจสอบ สั่งรื้อบันไดทิ้ง เหตุรุกที่สาธารณะ หลังหมอโดนทำร้าย ถูกกล่าวหาบุกรุก ไปนั่งในจุดบันไดลงชายหาดวิลล่าหรู

จากกรณี พญ.น้อง อายุ 32 ปี เป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ประจำคลินิก รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าถูกชายชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย และกล่าวหาว่าบุกรุก ไปนั่งในจุดบันไดลงชายหาดวิลล่าหรู

โดยคุณหมอเผยต้องการขอความเป็นธรรม เนื่องจากภรรยาชาวต่างชาติที่เป็นคนไทย อ้างว่ามีลูกชายเป็นตำรวจและรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ของ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้แจ้งความไว้กับพ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.พ.67 นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต อำเภอถลาง และนายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าคลอก นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดิน บริเวณวิลล่าที่เกิดเหตุ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง

จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของวิลล่าเคยนำชี้ขอออกโฉนด ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็น นส.3 ก. โดยแนวที่นำชี้คือ ขั้นบันไดที่ 1 ดังนั้นขั้นบันไดลงมา 2-4 เป็นการรุกล้ำที่ดินสาธารณะบริเวณแนวชายหาดทรายสาธารณะ จึงมอบหมายนายกเทศบาลตำบลป่าคลอก เข้าแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกตามกฎหมาย และดำเนินการรื้อถอน

ด้านพ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามข้อกล่าวหาก็จะออกหมายเรียก เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ไม่กังวลอะไร เพราะในวันนี้ทางคุณหมอนำรายงานการตรวจจากแพทย์โรงพยาบาลมาประกอบสำนวนแล้ว เพราะความหนักเบาของข้อหาอยู่ที่ลักษณะของบาดแผล และการรักษาที่แพทย์ลงความเห็นมา

ตอนนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งคณะตรวจสอบความประพฤติของต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต ผ่านคณะกรรมการ โดยมีตรวจคนเข้าเมืองเป็นเลขา เพราะในช่วงที่ผ่านมาจะมีชาวต่างชาติบางคน ประพฤติตนไม่เหมาะสม ก็จะมาเข้าคณะกรรมการชุดนี้ ถ้าเข้าข่ายในการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ก็จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด

29 ก.พ. 2567
ข่าวสด

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
ชายต่างชาติ ยัน ไม่ได้ทำร้าย แพทย์หญิง ชี้ เป็นอุบัติเหตุ สะดุดบันไดจนเท้าไปโดนหลัง

จากกรณีแพทย์หญิงรายหนึ่งร้องขอความเป็นธรรม หลังจากไปนั่งชมตรงบันไดที่ปลูกลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจากวิลล่า เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยที่เท้ายังจุ่มอยู่บนพื้นทราย กลับถูกชายชาวต่างชาติทำร้าย แถมเมียของชายคนดังกล่าวยังข่มขู่ว่า ยิงตายก็ไม่ผิด เพราะมีลูกเป็นตำรวจ และรู้จักนายตำรวจยศใหญ่นั้น

ชายต่างชาติ ระบุว่า เสียใจ ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้เตะหมอ แต่สะดุดบันไดล้ม เพราะเกิดอุบัติเหตุ จนทำให้เท้าไปโดนหลังของอีกฝ่าย

ทั้งนี้ ขอโทษหากฝ่ายนั้นได้รับบาดเจ็บ

ชายต่างชาติระบุเพิ่มเติมว่า ตนมีหลักฐานชัดเจน หากตำรวจจะดำเนินคดี ก็พร้อมที่จะนำหลักฐานมาโชว์ โดยเป็นคลิปขณะเกิดเหตุ ว่ามีการสะดุดหรือกระทืบหรือไม่

ส่วนที่เดินเข้าไปหาหมอ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคล กลัวว่าจะเป็นเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน จึงเดินเข้าไปหาคุณหมอ ขอให้ออกจากพื้นที่ แล้วเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ยืนยันไม่มีเจตนาทำร้ายหรือข่มขู่ใดๆ

29กพ2567
มติชน

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
แพทย์สาวร้อง ถูกเจ้าของศูนย์อนุรักษ์สัตว์ชื่อดังทำร้าย ขู่รู้จักตำรวจยศใหญ่ บอกยิงตายก็ไม่ผิด

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaiyachot Uttamang โพสต์ข้อความและภาพว่า ลูกสาวที่เป็นหมออยู่ใน จ.ภูเก็ต ถูกชาวสวิสทำร้าย โดยมีข้อความว่า

“#เรื่องเล่า_จากแพทย์หญิงไทยถูกชายต่างชาติชาวสวิสทำร้ายบนผืนดินไทย
ลูกสาวของผมผู้เป็นหมออยู่ที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นคนสุภาพและถ่อมตนเป็นปกติ เขียนข้อความออกมาจากร่างกายและจิตใจของเธอที่ถูกทำร้ายว่า…

สวัสดีค่ะ ขออนุญาตขอความช่วยเหลือเพื่อกระจายข่าวเพื่อความยุติธรรมด้วยค่ะ
เราถูกชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างทำร้ายร่างกายค่ะ
โดยมีลำดับเหตุการณ์ ดังนี้

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 19.30 น. เราไปกินข้าวกับเพื่อนผู้หญิงที่เป็นหมอด้วยกัน ที่ร้าน Taste Yamu หลังกินเสร็จก็ชวนกันไปเที่ยวหาดสาธารณะแถวใกล้บ้านบริเวณ Cape Yamu คือ ปกติไปเดินเที่ยวบ่อยเนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด และค่อนข้างปลอดภัย

ตอนเราเดินไปที่หาดกับเพื่อนเจอพี่ยามคนนึง แกก็ถามว่าเรามาดูดวงจันทร์ใช่มั้ย เพราะมันเป็นวันมาฆบูชา (ฟูลมูน) เลยตอบไปว่า ใช่ค่ะ พี่ยามก็บอกว่า ครับ เอนจอย ครับ แล้วเดินจากเราไป เรากับเพื่อนเดินดูดวงจันทร์บนชายหาดกันสักพัก รู้สึกเมื่อยและอยากนั่งพัก จึงเดินไปนั่งตรงบันไดที่ปลูกลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจาก วิลล่า หมายเลข 23 เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยที่เท้ายังจุ่มอยู่บนพื้นทราย

ในขณะที่เรานั่งอยู่รู้สึกเหมือนมีใครเดินมาข้างหลัง จึงหันไปพูดกับเพื่อนว่า รู้สึกเหมือนมีคนเดินมา จากนั้น พลันก็รู้สึกสะเทือนหนักหน่วงไปทั้งร่าง เมื่อได้สติก็ทำให้รู้ว่า เกิดจากหน้าแข้งที่กระหน่ำเตะลงมาที่กลางหลัง จากชายชาวต่างชาติตัวใหญ่น้ำหนักราว 100 กิโลกรัม ในสภาพหน้าแดง เหงื่อท่วม กำลังถือโทรศัพท์เพื่ออัดวิดีโอ และสบถด่าคำหยาบออกมาสารพัด เรากับเพื่อนเลยเดินไปหาพี่ยาม บนป้อมยามบนเนินข้างบน แล้วบอกว่า “พี่คะ หนูถูกทำร้ายร่างกาย” พี่ยามก็ตกใจและพาเราไปยังหน้าวิลล่า 23 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ

ฝรั่งคนนั้นแสดงอาการโกรธสบถคำด่าออกมาสารพัด จากนั้นภรรยาชาวไทยพร้อมแผงสร้อยเพชรเม็ดโตก็เดินออกมา ตอนนั้นเรากับเพื่อนแอบดีใจเพราะคิดว่าจะเคลียร์กันได้ แต่ ประโยคแรกที่ภรรยาชาวไทยพูดถึงกับทำให้เรากับเพื่อนสตันท์ไป เพราะเธอบอกว่า “นี่อีดอ* สองตัวนี้มานั่งอยู่หน้าบ้านกุ พวกมึ* รู้มั้ยต่อให้พวกกุ ยิงพวกมึ*ตาย กุก็ไม่ผิด เพราะลูกกุเป็นตำรวจและรู้จักนายตำรวจใหญ่ของภูเก็ต กุจะเอาพวกมุ*เข้าคุกให้ได้ กุจะโทรหาท่านรองเดี๋ยวนี้” จากนั้นเธอก็โทรหาตำรวจยศใหญ่ของเธอว่าให้ส่งตำรวจมา

ผ่านไปประมาณ 15 นาที มีตำรวจ 2 คนเดินมา คนหนึ่งแต่งตัวนอกเครื่องแบบ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นตำรวจในเครื่องแบบ ตำรวจหนุ่มทั้งสองพยายามมาเจรจาเคลียร์เรื่อง หลังจากที่ตำรวจมาคุยกับเรา เราก็บอกกับตำรวจว่า เราถูกทำร้ายร่างกาย ชายชาวต่างชาติก็มาพูดกับเราว่า “อ่อเป็นชนพื้นเมือง เป็นคนไทยเหรอ รู้มั้ยชั้นไม่ได้จ่ายค่าเช่าวิลล่าเดือนละล้านบาท มาให้พวกมุ*นั่งหน้าบ้านกุ”

เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร หลังจากนั้นตำรวจก็เดินมาพูดกับเราว่า ตอนนี้มันผิดกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายเราเป็นคนบุกรุกมีโทษหนักกว่าต้องติดคุก 4 ปี ฝ่ายเขาแค่ทำร้ายร่างกายจ่ายเงินก็จบ เราเลยช็อกไป ตำรวจนายหนึ่งบอกว่าต้องเคลียร์ให้ยอมความกันให้ได้ จะได้ไม่ต้องถึงโรงพัก

เราจึงเสนอให้ 3 ทางเลือก คือ 1. ต่างคนต่างขอโทษแล้วจบ 2. ต่างคนต่างไม่ขอโทษแล้วจบ 3. ไปคุยกันที่โรงพัก ฝั่งนู้นเค้าบอกว่า “#เราขอโทษฝรั่งได้_แต่ฝรั่งจะไม่ขอโทษเรา #และเราจะต้องติดคุก”

หลังจากนั้นเราจึงไปแจ้งความที่ สภ.ถลาง หลังจากแจ้งความ เราได้ทราบชื่อของชาวต่างชาติคนนี้ซึ่งทำให้เราช็อคมาก เพราะชายคนนี้เป็นชาวสวิส ที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์สัตว์ดัง ที่เคลมว่าเค้าจะปกป้องดูแลช้างและไม่ทำร้ายช้าง แต่เค้าทำร้ายผู้หญิงค่ะ!

รบกวนขอความยุติธรรมกับเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพราะอีกฝั่งเป็นชาวต่างชาติที่มีอิทธิพลในภูเก็ต มีข้อสังเกตว่ามีตำรวจยศใหญ่คอยช่วยเหลือดูแลอยู่เบื้องหลัง และเราคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น #ไม่สมควรมีคนไทยคนไหนโดนชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย #คนไทยผู้เป็นสุจริตชน #ผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยค่ะ
จาก #ผู้หญิงไทยคนหนึ่งผู้ถูกชายชาวต่างชาติคนหนึ่งทำร้าย
(28 กุมภาพันธ์ 2024)

ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้โทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายเป็นลูกสาวของตนเองประกอบอาชีพเป็นแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล ที่จังหวัดภูเก็ต ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดูแล ครอบครัวให้ได้รับความเป็นธรรม มีกำหนดการเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ต ถึงในค่ำวันนี้เนื่องจากในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวน มีกำหนดการเรียกไปพบ เพื่อต้องการที่จะเอาเอกสารใบรับรองของแพทย์ที่ตรวจร่างกายไปให้ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเท่าที่ทราบ พนักงานสอบสวนยังไม่ลงหมายเลขคดีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ลูกสาวต้องการขอความเป็นธรรม ในคดีให้อายัดตัวนักธุรกิจรายนี้ อย่างไรก็ดีทราบว่า มีนายตำรวจ ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีกำหนดการว่าจะมาร่วมพบปะลูกสาว ที่ สภ.ถลางในวันพรุ่งนี้ด้วย (ภรรยาชาวสวิสอ้างว่า มีลูกชายเป็นตำรวจและรู้จักตำรวจระดับรองฯ) อย่างไรก็ดีเท่าที่ได้พูดคุยกับลูกสาว ลูกสาวยืนยันว่า จะต่อสู้ในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์หญิงรายดังกล่าว ยังได้นำใบลงบันทึกประจำวัน โพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วย


28 กุมภาพันธ์ 2567
มติชน

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
เพื่อนบ้านแฉซ้ำ ฝรั่งเตะพญ. เจ้าของปางช้างดังภูเก็ต อารมณ์ร้อนโชว์ปืน มีลูกติดเป็นตำรวจ

จากกรณี ชาวต่างชาวสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างดังที่ จ.ภูเก็ต เตะแพทย์หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเข้าไปนั่งเล่นบันไดที่ปลูกลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจาก วิลล่า หมายเลข 23 เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยแพทย์หญิงได้รับบาดเจ็บ และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมขอความเป็นธรรมจากสังคมที่โดนทำร้าย ทั้งนี้ ชาวต่างชาติคนดังกล่าวอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจเตะแพทย์หญิง แต่สะดุดบันไดล้มลงนั้น

ผู้สื่อข่าว มติชนออนไลน์ ได้สอบถาม กับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ปางช้างใกล้ๆกับปางช้างดังกล่าว ได้ความว่า นายซารา(นามสมมุติ) เป็นเจ้าของปางช้างที่มีนิสัยชอบโวยวาย อารมณ์ร้อน มักจะมีปากเสียงกับเจ้าของปางช้างอื่นๆเสมอ โดยนายซารามีภรรยาเป็นคนไทย ที่มีลูกติดทำงานเป็นตำรวจ ยศ สิบตำรวจ แต่ภรรยาชอบบอกกับคนอื่นๆว่า มีพรรคพวกเป็นคนใหญ่คนโต มีเส้นสาย และชอบร้องเรียนปางช้างคู่แข่ง ในขณะเดียวกัน จะไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้พื้นที่ของตัวเอง โดยจะเข้าต่อว่าอย่างหนัก

ซึ่งที่ผ่านมานายซารา ก็มักจะมีปากเสียงกับคนอื่นๆในเรื่องนี้บ่อยๆ ซึ่งคนที่อยู่แถวนี้จะรู็กันดีว่านายซาราเป็นคนขี้โมโห ซึ่งวันดีคืนดี นายซารา เปิดหลังรถหยิบปืนออกมาโชว์แล้วเดินไปเดินมาอยู่แถวปางสร้างความหวาดกลัวแก่เพื่อนบ้านข้างๆมาก ทั้งนี้นายซาราได้สั่งลูกน้อง หรือควาญช้างในปางของตัวเอง ห้ามนำเพื่อน หรือญาติพี่น้องเข้าไปในปางอย่างเด็ดขาด จึงไม่ค่อยมีใครเห็นลักษณะในปางช้างของนายซารานั้นเป็นอย่างไร สำหรับลูกค้าของนายซาราทั้งหมดนั้น เป็นลูกค้าชาวต่างชาติที่จองตั๋วผ่านทางออนไลน์ ไม่มีคนไทย

อย่างไรก็ตาม มีเพื่อนควาญช้างมาเล่าให้ฟังเสมอว่า ช้างในปางของนายซารานั้นเป็นช้างที่เช่ามาจาก จ.สุรินทร์ โดยทราบมาว่า นายซารา มีมูลนิธิคอยรับบริจาคเพื่อช่วยดูแลช้างไทยจากต่างประเทศ ซึ่งมักจะมีการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงมีมีปัญหาเรื่องโควิดนั้น ขณะที่ปางช้างอื่นๆมีปัญหาการเงินซบเซากันอย่างหนัก แต่ปางของนายซารายังอู้ฟู่ หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า นอกจากปางช้างแล้ว นายซาราทำงานอย่างอื่นด้วยหรือไม่

เมื่อถามว่า ในเรื่องการดูแลช้างในปางนั้น เพื่อควาญเคยเล่าให้ฟังหรือไม่ว่า นายซาราดูแลดีหรือไม่ อย่างไร เจ้าหน้าที่คนเดิม กล่าวว่า เพื่อเล่าว่า นายซาราจะให้ควาญฝึกช้างหนักมาก เพราะเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงต้องการให้ช้างนิ่ง มักจะใช้ตะขอสับคอช้างแบบแรงๆเพื่อให้ช้างเชื่อฟัง ซึ่งปกติแล้ว ไม่จำเป็นต้องสับแรงขนาดนั้นก็ได้ แค่ทำให้ช้างจดจำ ซึ่งหากสับแรง หรือใช้ความรุนแรงเกินไปนอกจากไม่จำแล้ว ช้างจะดื้อและแค้นด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพฤติกรรมของหนุ่มชาวสวิตเซอร์แลนด์นั้น ในช่วงที่ผ่านมาที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนั้น จากการลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ และได้สอบถามตัวแทนประชาชนในหมู่บ้านยามู หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคลอกอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ทราบข้อมูลว่าหนุ่มสวิตเซอร์แลนด์รายนี้ ขับขี่รถยนต์ปิกอัพป้ายแดงส่วนตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ถนนในหมู่บ้านมีขนาดเล็กและในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหารถยนต์เฉี่ยวชนและมีชาวบ้านเป็นคู่กรณี ชาวต่างชาติรายนี้เคยควักเอาอาวุธปืนในรถมาข่มขู่คู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และบางครั้งเมื่อมีการทะเลาะวิวาทหรือมีปากเสียงกับชาวบ้าน ชาวบ้านเคยเห็นอาวุธปืนตกมาจากรถของเขา

นอกจากนี้เมื่ออยู่ที่บ้านพัก มักออกมาไล่ประชาชนที่เดินทางไปพักผ่อนบริเวณชายหาดสาธารณะที่อยู่ใกล้บ้านของตนเอง กรณีที่เกิดกับแพทย์หญิงล่าสุด ไม่ใช่ครั้งแรกอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม กรณีตรวจสอบเชิงลึกในการประกอบอาชีพธุรกิจ เช่น ปางช้าง เพื่อไม่ให้ชาวต่างประเทศที่เข้ามาเป็นคนในชุมชน/หมู่บ้าน มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์กับสังคม ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านยามู

มติชน
29กพ2567

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
ผกก.ถลาง ยันตำรวจไม่รู้จักชาวต่างชาติ เตะหมอหญิง หลังถูกอ้าง

จากกรณีแพทย์หญิงคนหนึ่งมาเที่ยวพักผ่อนที่ จ.ภูเก็ต แล้วถูกชายชาวต่างชาติเตะหลัง ขณะนั่งที่บันไดชมพระจันทร์ในคืนวันมาฆบูชา แถมถูกเมียฝรั่งคนดังกล่าวที่เป็นคนไทยด่ากราด ดูถูกเหยียดหยาม แถมยังอ้างว่ามีตำรวจยศใหญ่คอยดูแลอยู่เบื้องหลัง อ่านข่าว ขอความเป็นธรรม! แพทย์หญิง โดนผู้มีอิทธิพลทำร้าย เหตุนั่งพักที่บันไดหน้าวิลล่า

ล่าสุดวันที่ 28 ก.พ.67 เฟซบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว" ระบุว่า พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลาง เปิดเผยกรณีงกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุมีการเจรจา และสายตรวจได้เสนอแนวทางในการไกล่เกลี่ย แต่ทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ตำรวจสายตรวจจึงแนะนำให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และแจ้งความ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.67

พ.ต.อ.นิกร กล่าวต่อว่า ตำรวจไม่ได้สนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่มีการกล่าวอ้าง และในเช้าวันที่ 29 ก.พ.67 พนักงานสอบสวนได้นัดสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคุณหมอมาสอบปากคำ รวมทั้งรวบรวมเอกสารใบตรวจร่างกาย และหลักฐานที่ผู้เสียหายมี เพื่อประกอบสำนวนคดี
ส่วนที่มีการระบุว่า รู้จักกับนายตำรวจยศใหญ่ในพื้นที่ สามารถเคลียร์เรื่องได้นั้นยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกับตำรวจรายใดเป็นพิเศษ คู่กรณีก็ประกอบธุรกิจส่วนตัว อาจจะรู้จักตำรวจที่อื่นเป็นการส่วนตัว แต่สำหรับตนไม่รู้จัก เพราะเพิ่งย้ายมาประจำการที่ สภ.ถลาง

28 ก.พ.67
ข่าวสด

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
จากกรณีข่าวชายต่างชาติ ทำร้ายร่างกายหมอธารดาว ที่บริเวณชายหาดยามู จังหวัดภูเก็ต ขณะนั่งเล่นริมหาด เนื่องจากชายต่างชาติอ้างว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่วิลล่าของเขา ซึ่งวันนี้ทางฝั่งคู่กรณีได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้เตะแต่อย่างใดเป็นเพียงล้ม พร้อมขอโทษหมอธารดาวและครอบครัวแล้วนั้น

ล่าสุด หมอธารดาว เปิดใจว่า ในวันนี้คู่กรณีได้มีการแถลงข่าวขอโทษ ซึ่งเธอมองว่าหากเป็นการขอโทษมาจากก้นบึ้งของหัวใจเธอก็ยินยอมและจะรับคำขอโทษนั้น แต่ในเมื่อกระทำผิดไปแล้วก็ควรเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

และนอกจากนี้เธอมองว่าการทำร้ายร่างกายไม่ควรเกิดขึ้นกับใครไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหนหรือคนประเทศอะไร คนก่อเหตุก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง  ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆคนรับไม่ได้ มองว่าไม่ได้ส่งผลต่อสภาพร่างกายเพียงอย่างเดียวยังส่งผลต่อสภาพจิตใจอีกด้วย

ขณะที่นายเกษม พ่อของหมอธารดาว เปิดเผยว่า การที่คู่กรณีซึ่งเป็นชาวต่างชาติมีพฤติกรรมดังกล่าวเชื่อว่ามีคนระดับสูงหนุนหลัง และเชื่อว่าคู่กรณีที่เป็นชาวต่างชาติจะต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนประเด็นที่มีการแจ้งความและตำรวจมีลักษณะคล้ายข่มขู่  เนื่องจากกฎหมายในการบุกรุกมีทั้งหมด 3 ข้อแต่ทางเจ้าหน้าที่กลับเลือกที่จะบอกข้อหาที่หนักที่สุด ใครต้องการทำให้ลูกสาวของตัวเองเกิดความกลัว

ทั้งนี้มองว่าตำรวจที่เข้าไปในพื้นที่ควรจะปกป้องประชาชน ที่ถูกกระทำไม่ใช่ปกป้องคู่กรณี ซึ่งมันผิด ดังนั้นตำรวจอย่าเป็นเห็บ ต้องเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะอยู่อย่างไรต่อไป และอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างในสังคมไทย
อย่างไรก็ตามควรจะมีการจัดการพื้นที่ในการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตใหม่ ต้องมีการจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าไปใช้พื้นที่ได้ และอยากให้คนในพื้นที่ภูเก็ตออกมาเปล่งเสียงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่

นอกจากนี้ยังมีอีก 1 คน ได้ส่งข้อความมาหา หมอธารดาว ผ่านทางโซเชียลว่า ตนเองก็ถูกกระทำจากชายชาวต่างชาติรายนี้เหมือนกัน โดยพฤติกรรมคือฝั่งคู่กรณี ขับรถหวาดเสียวตนจึงได้เข้าไปแจ้งความแต่ทางคู่กรณีได้แจ้งความกลับในข้อหาหมิ่นประมาท และเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 ทางคู่กรณีได้มีการยกนิ้วกลางใส่ชายคนดังกล่าว โดยที่ชายคนนี้ยังเผยว่าคู่กรณีที่เป็นชาวต่างชาติมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างแย่

PPTVHD36
1มีค2567