ผู้เขียน หัวข้อ: "หมอเชิดชัย" อวยระบบหลักประกันสุขภาพฯ ไทยสำเร็จ ต้องให้เครดิต "นักการเมือง"  (อ่าน 243 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
"หมอเชิดชัย" ชี้ระบบหลักประกันสุขภาพฯ ไทยเกิดได้ ต้องให้เครดิต "นักการเมือง" ผลลัพธ์ระบบทำเด็กเกิดรอด อัตราตายลด คนไทยอายุยืนขึ้น ชูเป็นซอฟต์เพาเวอร์ ตั้งเป้าเป็นศูนย์เรียนรู้หลักประกันฯ มั่นใจปี 70 มีหมอลง รพ.สต.หรือประจำผ่านเทเลเมด

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดการประชุมระดับชาติด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย พ.ศ. 2566 และปาฐกถาพิเศษ "ทบทวนความก้าวหน้าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย : อะไรคือความสำเร็จและความท้าทาย" ว่า ระบบหลักประกันสุขภาพฯ ต้องให้เครดิต นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อดีตเลขาธิการ สปสช. ที่เป็นนักคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพฯ แต่ที่สำเร็จได้ต้องยกความดีให้ "นักการเมือง" ที่วางนโยบาย พร้อมที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อน เพราะต้องไปหาเสียง ไปให้นโยบายต่อสภา และสามารถทำได้จริง ส่วนแนวทางเพื่อความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพฯ ต้องให้เครดิต นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ที่คิดออกมาในหลักการของ SAFE คือ Sustainability ความยั่งยืนของการคลังสุขภาพ Adequacy งบประมาณที่เพียงพอสำหรับการจัดบริการสุขภาพถ้วนหน้า Fairness ความเป็นธรรมของระบบสุขภาพ และ Efficiency ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร

"ผมเป็นหมอผ่าตัดหัวใจ สมัยก่อนจะมีระบบหลักประกันฯ คนไข้มารักษาผ่าตัดหัวใจปฏิเสธเกือบทุกรายเพราะไม่มีเงินจ่าย เป็นหนี้ยืมสิน ขายบ้าน ขายวัวขายควาย ไม่พอ เราผ่าตัดที่ขอนแก่น ผมต้องขออนุมัติค่าลิ้นหัวใจกับคณบดีเดือนละครั้งปีละ 12 ลิ้น พอปีที่สองขอเพิ่มอีกสองเท่าได้ไหม ก็เถียงกันแทบตาย ค่อยอนุมัติ แต่พอมีบัตรทอง ผ่าตัดหัวใจคนอีสานเยอะอยู่แล้ว เราสามารถผ่าตัดหัวใจขึ้นมาระดับต้นๆ ของประเทศ ขึ้นมาเป็นที่หนึ่งของประเทศ และผลิตบุคลากรด้านโรคหัวใจออกมาทั้งทีม" รศ.นพ.เชิดชัยกล่าว

รศ.นพ.เชิดชัยกล่าวว่า ผลการทำงานหนักทำให้เราได้รับชื่นชมจากนานาชาติ ไทยเป็นลำดับต้นๆ ของโลกความเข้มแข็งสาธารณสุขไทย และมีการเข้ามาศึกษางานหลักประกันสุขภาพฯ ของไทย ว่าสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ภายใต้งบประมาณจำกัด นอกจากนี้ ผลจากการที่ไทยมีระบบหลักประกันสุขภาพฯ ตัวชี้วัดคือ ทำให้เด็กไทยที่เกิดมารอด อัตราตายลดลง ทำให้คนไทยอายุยืนขึ้น ตอนนี้เฉลี่ยประมาณ 74 ปีแล้ว เราต้องช่วยกันเติมเต็มยกระดับหลักประกันสุขภาพฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนเพิ่มขึ้น เพราะโลกเปลี่ยนไป ความเจริญทางวัตถุเพิ่มขึ้น ทุกคนมีสื่อ ทำอย่างไรให้มีการพัฒนาต่อยอดระบบหลักประกันฯ ของไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สธ.ระบุว่า น่าจะเอามาร่วมสร้าง Wealth คือ ความมั่งคั่งของไทยด้วย ขณะที นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. บอกว่าถือเป็นซอฟต์เพาเวอร์ เป็นเรื่องจำเป็น และฝากเรียนท่านนายกฯ ตนก็จะรับไปฝากด้วย ว่าเป็นเรื่องจำเป็น ซอฟต์เพาเวอร์การศึกษาเป็นเรื่องจำเป็น เป็นไปได้อย่างไร ทั่วโลกมาเรียนที่เมืองไทย ทั้งนี้ การวิจัยอย่างเป็นระบบเรื่องนโยบายสุขภาพเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำต่อเนื่อง อย่างการประชุมในครั้งนี้

"สิ่งสำคัญคือบุคลากรด้านสาธารณสุขต่างๆ ที่ช่วยกันทำ ซึ่งต้องการขวัญกำลังใจ ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานพยาบาลทุกแห่ง โดยเฉพาะปัจจุบัน พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ มีหมอเวชศาสตร์ครอบครัว ก็กำลังทำในอีกไม่กี่เดือน จะมีนำร่องใน 10 จังหวัดในเชิงวิจัยด้วย ถ้าเป็นไปได้ในปี 2570 รพ.สต.ต่างๆ ก็น่าจะมีแพทย์อย่างน้อยอยู่หรืออยู่ทางเทเลเมดให้ได้ รัฐบาลปัจจุบันก็ย้ำว่าต้องยกระดับหลักประกันสุขภาพฯ ให้ดียิ่งขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน ก็รอฟังคำแถลงจากการประชุมครั้งนี้ว่า จะวางเป้าหมายอย่างไร ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ UHC Learning Hub ของโลก จะเพิ่มชื่อเสียงประเทศไทย รายได้ก็เข้ามา" รศ.นพ.เชิดชัยกล่าว

12 ธ.ค. 2566  ผู้จัดการออนไลน์