ผู้เขียน หัวข้อ: MR.D.I.Y.บุกตลาดไทย 7 ปี เปิด 700 สาขา เผย 9 สินค้าไฮไลต์ คนไทยช้อปครั้งละ 200 บ  (อ่าน 29 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
MR.D.I.Y.บุกตลาดไทย 7 ปี เปิด 700 สาขา เผย 9 สินค้าไฮไลต์ คนไทยช้อปครั้งละ 200 บาท

ยังคงฮิตติดลมบน สำหรับ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. (MR. D.I.Y.) บิ๊กแบรนด์ค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านสัญชาติมาเลเซีย

จากเมื่อปี 2559 ปักหมุดเปิดสาขาในประเทศไทย วันนี้มีกว่า 700 สาขา ครอบคลุม 72 จังหวัด ในระยะเวลา 7 ปี ยังขาด 5 จังหวัด ซึ่งในนี้คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยตลอด 7 ปี สปีดการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละกว่า 100 สาขา หรือกว่า 10 สาขาใน 1 สัปดาห์ และยังคงยึดมั่นในสโลแกน “ราคาถูกคุ้มเสมอ” หรือ Always Low Prices ไม่ว่าสาขาใหม่ที่เข้าไปทำตลาดจะอยู่ในทำเลทอง

เช่นเดียวกับสาขาล่าสุด ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ที่เปิดบริการเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ซึ่ง “แอนดี้ ชิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า แม้จะเป็นสาขาแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย และเป็นสาขาในศูนย์การค้าใหญ่สุดในรอบ 3 ปีหลังโควิด ด้วยพื้นที่ 1,285 ตารางเมตร แต่ยังคงขายสินค้ามีกว่า 15,000 รายการในราคาเดียวกับสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ และคาดว่าจะมีทราฟฟิก 2,000 คนต่อวัน ซึ่งสาขานี้เปิดพร้อมกับเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแค

“ตั้งเป้าจะเปิดครบ 1,000 สาขา ภายในปี 2568 โดยปี 2567 เตรียมเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่าปีนี้ที่เปิด 186 สาขาและขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทย ทั้งในศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต และสแตนด์อโลน มีพื้นที่เฉลี่ยตั้งแต่ 300-800 ตารางเมตร ในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพราะมีประชากรมาก รวมถึงมองโอกาสไปทางภาคอีสานด้วย เพราะมีประชากรมากเช่นกัน” แอนดี้กล่าว

แอนดี้กล่าวว่า การขยายสาขาใหม่ไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว เน้นพื้นที่มีประชากรอยู่อาศัยจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงมองเห็นโอกาสในภาคอีสานและภาคใต้ด้วย เพราะด้วยรูปแบบสินค้าและราคา เหมาะกับกำลังซื้อของคนไทยที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มระดับกลางและทั้งพฤติกรรมการซื้อยังคล้ายกับประเทศในภูมิภาคที่มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.เข้าไปทำตลาด เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น

“ยอดซื้อคนไทยอยู่ที่ 200 บาทต่อครั้งต่อบิล และใน 10 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ประดับยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่น ของขวัญ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเครื่องประดับ และเครื่องสำอาง ซึ่งสินค้าขายดีที่สุดก็ยังคงเป็น กลุ่มอุปกรณ์ดูแลบ้าน ตกแต่งบ้าน และ ฮาร์ดแวร์ มากกว่า 50%” แอนดี้กล่าว

พร้อมเผยรายการสินค้ามีมูลค่ายอดซื้อ 200 บาทต่อครั้งต่อบิล มีครบทุกรายการที่เกี่ยวกับสินค้าใช้ในบ้าน ได้แก่ ผ้าเช็ดอเนกประสงค์ 2 ผืนต่อแพค 23 บาท, กระดาษทิชชูเปียก 20 แผ่นต่อแพค 17 บาท, ถุงขยะม้วนกลิ่นแอปเปิล 25 ใบต่อแพค 22 บาท, ถุงตาข่ายสำหรับตากหมอน 1 ใบ 9 บาท, ถ่านซุปเปอร์เอ็กซ์ตร้า AA 4 ชิ้นต่อแพค 31 บาท, หัวแปลงปลั๊กไฟพกพา 19 บาท, ตลับเมตร ความยาว 2 เมตร 25 บาท, ปากกาหมึกเจล 2 แท่งต่อแพค 29 บาท และกล่องดินสอ 25 บาท

8 มติชน 2566