ตำรวจไซเบอร์ บุกเข้าตรวจค้นร้านเสริมสวยในพื้นที่เมืองชุมพร จับหมอเถื่อนขณะฉีดสารโบท็อกซ์ให้สายลับ รับสารภาพเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ จึงเห็นขั้นตอนต่างๆ หัดลองกับญาติจนเกิดความชำนาญ ก่อนเปิดให้บริการกับลูกค้า
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 สั่งการให้ พ.ต.อ.จักร ถนัดอักษร ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 นำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.อุไรรัตน์ ทองเสมียน อายุ 31 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย ตั้งโอ๋ บิวตี้ เลขที่ 359/1 ถนนสุขเสมอ ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมของกลาง กระบอกฉีดยา 92 ชิ้น กระบอกฉีดยาพร้อมเข็มฉีด จำนวน 3 ชิ้น เข็มฉีด 116 ชิ้น กระบอกอะลูมิเนียม สำหรับใส่อุปกรณ์ฉีดยา 1 ชุด กระบอกอะลูมิเนียม สำหรับใส่สำลี 1 ชิ้น แอลกอฮอล์สำหรับเช็ดทำความสะอาด 2 ขวด ถุงมือยางสำหรับตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ 1 กล่อง (มีการเปิดใช้แล้ว) ขวดฉีดโบท็อกซ์ ไม่ปรากฏฉลากภาษาไทย ขนาด 200 units ที่ใช้แล้ว และกระบอกฉีดยาพร้อมเข็มฉีดที่ใช้แล้ว ซึ่งฉีดให้กับสายลับ จำนวน 1 ชุด พร้อมหลักฐานยอดการโอนเงินโดยสแกนผ่าน QR CODE ชื่อบัญชี น.ส.อุไรรัตน์ ทองเสมียน จำนวน 3,000 บาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบเฟซบุ๊กชื่อ ตั้งโอ๋ บิวตี้ (ทำหน้า ขายครีม) มีการโฆษณาฉีดศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงาม ที่ร้านเสริมสวยชื่อ ตั้งโอ๋ บิวตี้ จึงได้ให้สายสับทำการติดต่อผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว เพื่อขอเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ เมื่อนัดหมายได้แล้ว จึงเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อไปถึงร้านพบว่าเปิดให้บริการ จึงเข้ารับบริการโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปด้วย และพบว่าภายในร้านดังกล่าวมีการให้บริการฉีดโบท็อกซ์จริง และเมื่อฉีดโบท็อกซ์ให้กับสายลับเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปได้โอนเงิน ซึ่งเป็นค่าฉีดโบท็อกซ์ โดยสแกน QR CODE ชื่อบัญชี น.ส.อุไรรัตน์ ทองเสมียน จำนวน 3,000 บาท ให้กับบุคคลที่ฉีดโบท็อกซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปพร้อมกับสายลับ จึงให้สัญญาณว่ามีการกระทำความผิดจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมแจ้งรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำที่เกี่ยวกับความผิด
จากการสอบสวน นส.อุไรรัตน์ ยอมรับว่า ของกลางดังกล่าวเป็นของตนจริง เพื่อฉีดศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามให้กับลูกค้า โดยตนเคยทำงานที่คลินิกเสริมความงาม ในตำแหน่งผู้ช่วยแพทย์ จึงเห็นขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ ฉีดวิตามินผิวขาวของแพทย์ จึงได้หัดลองกับญาติ และเมื่อเกิดความชำนาญจึงได้เปิดให้บริการกับลูกค้า ตนเองมีเพียงใบอนุญาตเปิดร้านเสริมสวย แต่ไม่มีใบประกอบกิจการสถานพยาบาล ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และใบอนุญาตจำหน่ายยาแผนปัจจุบันแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Thairath
15 พฤศจิกายน 2566
