หัวอกพ่อแม่ใจสลาย เพจดังแจ้งข่าว ลูกชาย จมน้ำดับ ขณะเข้าค่ายกับทางโรงเรียน

[story]

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานข่าวเศร้า กรณีเพจดัง โพสต์ข้อความเศร้าหัวใจแทบแตกสลาย หลังจากที่ ลูกชายไปเข้าค่ายกับทางโรงเรียนและเกิดอุบัติเหตุขณะร่วมกิจกรรมทางน้ำทำให้จมน้ำดับ พ่อแม่ยังทำใจไม่ได้ เผย อยากให้หยุดกิจกรรมแบบนี้สักทีหลังต้องสูญเสียลูกชายไปไม่มีแต่คำร่ำลากัน

โดยทางเพจดัง ไมกี้จอมป่วน เป็นเพจที่มีผู้ติดตามกว่า 6.6 หมื่นคน ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวสุดเศร้าบีบหัวใจคนเป็นพ่อแม่อย่างมาก กับข่าวการจากไปของลูกชายสุดรัก ระบุ

ฝากกดแชร์ให้ความยุติธรรมลูกพ่อนนท์แม่นาด้วย ลูกที่พ่อแม่ทะนุถนอมอย่างดี ต้องมาเสียชีวิตจากกิจกรรมเข้าค่ายของโรงเรียน หยุดกิจกรรมนี้ซะทีเถอะ  #หัวอกคนเป็นพ่อแม่ใจแตกสลาย พ่อนนท์แม่นาทำใจไม่ได้จริงๆ

"น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ชีวิตที่ควรมีค่า มีอนาคต เค้าเป็นเด็กดีมาก เรียนดี เรียนเก่ง เกรด4.00 ได้พ่อแม่ดีเด่นทุกๆปี ปีหน้าจะเข้ามหาลัยแล้ว แต่เพราะความประมาทของครูฝึกที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย ณ ค่าย....... สระบุรี การแจ้งเหตุกับผู้ปกครองล่าช้าของทาง วิทยาลัย
ความสูญเสียที่พวกคุณไม่มีวันรับรู้  ถ้าไม่เกิดกับลูกคุณบ้าง แม่คิดถึงหนูเหลือเกิน ไม่ได้ยินคำร่ำลาซักคำ หนูหนาวไหมลูก  ทำไมต้องเกิดกับลูกแม่คนเดียว

ฝากทุกคนช่วยแชร์ด้วย ยุติการเข้าค่าย ยุติกิจกรรมทางน้ำนักเรียน เด็กทุกคนไม่ได้ว่ายน้ำเป็นใครจะรับผิดชอบชีวิตที่ไม่มีวันกลับมา พี่ชายคนที่สองของไมกี้คนที่ให้เอาหนูมา #ไมกี้จอมป่วน

นอกจากนี้ ยังได้มีการโพสต์ต่อในช่องคอมเมนต์ว่า "พ่อแม่ขอจัดงานของลูกม่อนให้เรียบร้อยก่อนนะครับ คลิปภาพไมกี้ช่วงนี้อาจไม่ได้ลง ยังทำใจไม่ได้จริงๆ มันเหมือนความฝัน ทำไมต้องมาเกิดกับครอบครัวไมกี้ด้วย"

Thainewsonline
15พย2566

[story]

พ่อแม่ พ้อลูกกำลังจะมีอนาคต นำร่าง ‘น้องม่อน’ ตั้งบำเพ็ญกุศล คณะอาจารย์ร่วมอาลัย ปัดให้สัมภาษณ์สื่อ

จากกรณี เพจ ไมกี้จอมป่วนได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า น้องม่อน ผู้เป็นลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากจมน้ำเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพราะความประมาทของครูฝึกที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย ณ ค่ายหัตภวุฒิ แคมป์ สระบุรี การแจ้งเหตุกับผู้ปกครองล่าช้าของทางวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ความสูญเสียที่พวกคุณไม่มีวันรับรู้นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ที่บ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายปณิธาน หรือน้องม่อน อายุ 18 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชั้นปีที่ 3 สาขาคอมพิวเตอร์ ที่เสียชีวิตจมน้ำ ในกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ

บรรยากาศที่บ้านเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีครอบครัวคนใกล้ชิด มาร่วมแสดงความเสียใจ กับ นายอานนท์ อายุ 42 ปี (พ่อ) และ นางสาว ณัฏฐพัชร อายุ 45 ปี ( แม่) โดย น้องไมกี้ สุนัขแสนรู้ที่เลี้ยงไว้เหมือนกับเป็นน้องคนเล็กของบ้าน อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ เข้ามาอยู่ใกล้ร่างอันไร้วิญญาณของน้องม่อน

นายอานนท์ (พ่อ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว อยากให้โรงเรียนมีการประเมินเรื่องของความปลอดภัย การดูแลนักเรียนบุคลากรพร้อมแค่ไหน และกิจกรรมการไปเข้าค่ายแบบนี้มันจำเป็นควรมีหรือไม่ ทางผู้ปกครองจะได้รับเอกสารจากทางโรงเรียน ให้เซ็นยินยอมนักเรียนไปเข้าค่าย แต่ไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นกิจกรรมอะไรมีความปลอดภัยแค่ไหน เราไม่อยากให้เหตุการณ์ของลูกชายไปเกิดกับลูกหลานใครอีก ความสูญเสียมันประเมินไม่ได้

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า ลูกชายกำลังจะมีอนาคตที่ดี คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องสูญเสีย ตนเองไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ครั้งสุดท้ายคือวันที่ที่ตนเองขับรถไปส่งลูกไปโรงเรียนเพื่อไปเข้าค่าย ยกมือไหว้พ่อแม่ แล้วเดินลากกระเป๋า เข้าโรงเรียนไป ไม่ติดว่าจะเป็นการจากลากันไป เกิดเหตุเราไม่ได้รับทราบข่าวสารจากทางโรงเรียนเลย เรารู้ข่าวจากคนนอกที่แจ้งข่าวมาเราพยายามติดต่อทางโรงเรียนไม่มีคำตอบไม่ใครให้ข้อมูลเราได้ น้องม่อนเป็นเด็กที่เรียนดี เกรดเฉลี่ย 4.00 เป็นนักเรียนดีเด่น อีก 3 เดือน น้องจะจบแล้ว เราเตรียมที่จะให้ลูกเรียนมหาวิทยาลัย

จนถึงคณะนี้เรายังไม่ทราบสาเหตุเหตุการณ์เป็นอย่างไร ทางโรงเรียนได้แต่เพียงบอกว่าเสียใจ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีเพียงทางค่ายที่จะเดินทางมาพูดคุย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางคณะอาจารย์ของทางวิทยาลัย ได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวของน้องม่อน โดยไม่ยอมเปิดเผยหรือให้ข้อมูลอะไรกับทางผู้สื่อข่าวและไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพ

มติชน
15 พฤศจิกายน 2566

[story]

เจ้าของค่ายลูกเสือย้ำ จุด ‘น้องม่อน’ จมน้ำเสียชีวิต อยู่ด้านนอก ไม่เกี่ยวกับค่าย โรงเรียนหาวิทยากรมาเองด้วย เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เตรียมไปงานศพวันพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายปณิธาน หรือ น้องม่อน อายุ 18 ปี นักศึกสถาบันแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ชั้นที่ปี 3 สาขาคอมพิวเตอร์ จมน้ำเสียชีวิตในกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ที่ค่ายลูกเสือแห่งหนึ่งใน ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจุดที่น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิตอยู่ห่างจากค่ายประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณนอกค่าย จุดรอยต่อระหว่าง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กับ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยจุดที่น้องม่อนจมน้ำอยู่ในเขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ค่ายลูกเสือดังกล่าว ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบ นางสายพิน อายุ 58 ปี เป็นผู้ดูแลค่ายและเจ้าของค่าย พาไปดูลำธาร หรือจุดที่น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิต

พบว่าลำธารดังกล่าวมีโขดหินอยู่ด้านข้าง ริมตลิ่งตื้น ช่วงกลางจะเป็นคล้ายแอ่งโขดหิน น้ำลึกประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิต มีป้ายติดเขียนคำว่า “เขตน้ำลึกอันตราย!! โปรดระวัง” มีศาลเจ้าแม่ตะเคียนตั้งอยู่พร้อมผ้าสามสี พวงมาลัยผูกที่ตอไม้ขนาดใหญ่

นางสายพินเปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวมีขึ้นวันที่ 13-15 พ.ย. โดยน้องม่อนเสียชีวิตวันที่ 2 หรือวันที่ 14 พ.ย. ช่วงเวลา 15.00 น. หลังเข้าฐานเสร็จแล้วน้องม่อนกับเพื่อนๆ รวมทั้งวิทยากรตัวเปื้อนโคลน จะมาล้างตัว ตนไม่ทราบว่าน้องม่อนจมน้ำ มีคนมาบอกจึงรู้

นางสายพินกล่าวว่า ลำธารอยู่นอกค่าย ห่างออกไปประมาณกว่า 50 เมตร ซึ่งเป็นกิจกรรมไม่เกี่ยวกับค่าย ลำธารนี้มีทั้งจุดน้ำตื้นและน้ำลึก ยืนยันว่าวิทยากรเป็นคนที่โรงเรียนจัดหามา ไม่ใช่ของค่ายแต่อย่างใด ในการเข้าค่ายทุกฐานจะไม่มีการบังคับเด็กนักเรียน อยู่ที่ความสมัครใจของเด็ก จะมีครูและวิทยากรดูแลตลอด
“ยืนยันว่าจุดที่น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิตอยู่นอกค่าย ไม่เกี่ยวข้องกับค่ายแต่อย่างใด เข้าใจว่าคนเป็นพ่อแม่กำลังเสียใจ และยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง ไม่ได้ติดใจกับข่าวที่ออกไปทางโซเชียล เพราะกระแสข่าวที่ออกไปทำให้ค่ายได้รับความเสียหายอย่างมาก

“ข่าวที่ออกไปเข้าใจว่าน้องม่อนเสียชีวิตขณะเข้าฐานปฏิบัติกิจกรรมขณะฝึกอยู่ในค่าย อยากให้ทุกคนทราบข้อมูลที่แท้จริง ลำธารดังกล่าวเป็นลำธารสาธารณะ อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ซึ่งวิทยากรได้แจ้งกับเด็กแล้วว่าอย่าออกไปเล่นบริเวณน้ำลึก เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และวันพรุ่งนี้จะไปร่วมงานศพของน้องม่อนด้วย” เจ้าของค่ายลูกเสือระบุ

17พย2566
มติชน