จากกรณี น.ส.พิศอาภรณ์ อายุ 29 ปี แม่ของ "น้อง ออร์แกน" ทารกวัย 2 วัน เข้าร้องเรียนต่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งผ่าคลอดลูกเสียชีวิต
โดยเธอเล่าว่า ตอนนั้นใกล้คลอด ตัวเธอเริ่มมีอาการเวียนหัว ปวดหัว และอาเจียน ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือ โลหิตจาง เบาหวาน และความดันสูง จึงปรึกษาแพทย์เรื่องการผ่าคลอด ซึ่งแพทย์ระบุว่าทำได้ แต่ต้องฝากพิเศษ มีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 7,000 บาท แต่เธอไม่มีเงิน จึงไม่ได้ฝากพิเศษตามที่แพทย์แนะนำ
แพทย์ได้ให้ยาเร่งคลอดกับเธอ 3 ครั้ง หลังครรภ์ครบ 40 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 20 - 22 กันยายน ซึ่งครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ลูกในครรภ์ยังปกติดี แต่พอเหน็บเร่งคลอดครั้งที่ 3 ลูกของเธอก็มีอัตราการเต้นของหัวใจตกลงเรื่อยๆ จนแพทย์เข้ามาตรวจบอกว่า รกพันคอ ต้องรีบเอาตัวเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน และผ่าคลอดฉุกเฉินทันที ปรากฎว่าเมื่อลูกคลอดออกมา ก็มีอาการขาดออกซิเจน มีภาวะหยุดหายใจ ปอดแตกจากการสำลักขี้เทา ต้องรีบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลไม่มีการชี้แจงกับครอบครัวและไร้การเหลียวแลจากโรงพยาบาล ตอนนี้ทางครอบครัว ได้นำร่างของ "น้อง ออร์แกน" มาไว้ที่บ้านพักที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ด้านนายธีรพล ปรียานุภาพ ปลัดอาวุโสอำเภอชะอำ ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยม พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ น.ส.พิศอาภรณ์ และครอบครัวที่สูญเสียลูกคนแรก โดยครอบครัวได้พาไปดูภายในห้องนอน ได้เตรียมของใช้ทั้งหมดไว้ เช่น รถเข็นเด็ก เบาะนอนเด็ก เสื้อผ้า ขวดนม ผ้าอ้อมเด็กและอุปกณ์เด็กแรกเกิดไว้ให้น้องแล้ว
ด้าน น.ส.พิศอาภรณ์ เปิดใจว่า เรื่องนี้ทางครอบครัวได้เดินทางไปยื่นหนังสื่อร้องเรียนที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว จากนี้ทางกระทรวงยุติธรรมจะส่งเจ้าหน้าที่มารับร่างของน้อง ไปชันสูตรที่สถานบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง หลังจากผลออกจะตั้งทนายเข้าให้การช่วยเหลือครอบครัวในเรื่องนี้ต่อไป ทางครอบครัวยันเอาเรื่อง รพ.ให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้หากย้อนไป หลังจากเกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. วันที่น้องเสียชีวิต คุณแม่บอกว่า มีการพูดคุยกันมา 4 ครั้ง แต่ไม่ได้ข้อสรุปอะไรเลย
ครั้งที่1 ทางโรงพยาบาลเรียกไป ให้เล่ารายละเอียดให้ฟัง โดยทางโรงพยาบาลจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้
ครั้งที่ 2 แจ้งว่าได้ตรวจสอบทางหมอแล้วเรื่องเงิน 7,000 บาท หมอแค่พูดเล่น ตนได้ยินแบบนี้รู้สึกเสียใจมาก เรื่องนี้ไม่น่ามาพูดเล่น
ครั้งที่ 3 แจ้งว่าจะทำเรื่องรับเงิน สปสช. เยียวยาให้ครอบครัวก่อนเรื่องก็เงียบไป
ครั้งที่ 4 โรงพยาบาลแจ้งว่าจะนัดหมอเข้ามาพูดคุยที่บ้าน จนปัจจุบันก็ยังเงียบหายไป ตนได้ยินว่าทางหมอได้ไปพูดกับพี่ที่ไปกับตนว่า ถ้าจะฟ้องให้ฟ้ององค์กรไม่ต้องฟ้องหมอ เพราะหมอไม่ได้ผิดคนเดียว
น.ส. พิศอาภรณ์ บอกอีกว่า ยังไม่เผาร่างลูกน้อย รอผลชันสูตรร่างของน้องออก ก็จะมีการตั้งทีมทนายช่วยเหลือตนเรื่องนี้ และส่งเรื่องให้ทางแพทย์สภาฯ เข้ามาช่วยดูแลเรื่องของตนต่อไป
PPTVHD36
26 ตค 2566
