สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ว่า การผละงานประท้วงของพนักงานมากกว่า 75,000 คนใน ไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต ซึ่งเป็นองค์กรบริการดูแลสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง จนทำให้เกิดการหยุดงานประท้วง ในอุตสาหกรรมหลายประเภททั่วประเทศ ตั้งแต่นักแสดงของฮอลลีวูด ไปจนถึงแรงงานยานยนต์ในเมืองดีทรอยต์
ผู้คนที่รวมตัวประท้วงในนครลอสแอนเจลิส กล่าวว่า พวกเขาได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่ควร และทำงานหนักเกินไป รวมทั้งประสบความลำบากในการดำรงชีวิต เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้ไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต ดำเนินงานตามสัญญาที่ยุติธรรม และแบ่งปันผลกำไรหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับบุคลากรด่านหน้า
อนึ่ง สถานบริการด้านสุขภาพหลายแห่งของไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต ในรัฐแคลิฟอร์เนีย, รัฐโคโลราโด, รัฐออริกอน และรัฐวอชิงตัน คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการสไตรก์นาน 3 วัน ซึ่งทางหน่วยงานระบุเตือนว่า ศูนย์เหล่านี้ยังคงเปิดทำการเหมือนเดิม แต่ผู้ใช้บริการอาจต้อง รอนานกว่าปกติ
ขณะที่โฆษกของไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต กล่าวกับนักข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทางหน่วยงานบรรลุข้อตกลงหลายประการกับแนวร่วมสหภาพไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต และพร้อมที่จะเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงต่อไป จนกว่าจะบรรลุข้อตกลงที่ยุติธรรมและเสมอภาค
อย่างไรก็ดี สหภาพระบุว่า นี่จะเป็นการหยุดงานประท้วงของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งพวกเขากำลังผลักดันให้มีการขึ้นค่าจ้าง และคุ้มครองพนักงานจากการรับเหมาช่วง และการจ้างแรงงานภายนอก อีกทั้งกลุ่มผู้ประท้วงยังขู่ว่า จะสไตรก์อีกครั้งในเดือน พ.ย. หากไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต ยังคงดำเนินแนวปฏิบัติด้านแรงงานที่ไม่เป็นธรรม.
เดลินิวส์
5 ต.ค.66