ผู้เขียน หัวข้อ: ร้อง “หมอชลน่าน”ตรวจสอบ ผอ.รพ.ขอนแก่นใช้เงินบริจาคสร้างโรงบำบัดขยะติดเชื้อส่อไม่  (อ่าน 26 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
รพ.ขอนแก่นยังรั้งแชมป์มีข่าวในทางลบออกสื่อบ่อยที่สุดในบรรดาโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ล่าสุดตัวแทนผู้บริจาคชาวขอนแก่น เข้าร้องเรียน“หมอชลน่าน”รมต.สาธารณสุขคนใหม่ถึงกระทรวง ขอให้มีการตรวจสอบ “นพ.เกรียงศักดิ์”ผอ.โรงพยาบาลใช้เงินบริจาคซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ไปสร้างโรงบำบัดขยะติดเชื้อฯ เป็นการใช้เงินผิดเจตนาผู้บริจาค ที่สำคัญซื้อเครื่องบำบัดขยะจากเจ้าเดียวกันที่ซื้อใช้ รพ.ชุมแพ-รพ.พระปกเกล้า จันทบุรีที่มีปัญหาการใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้

มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้าทำงานในวันแรกๆเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ประเดิมรับเรื่องร้องเรียนกรณีปัญหาการสร้างโรงบำบัดขยะติดเชื้อด้วยไอน้ำของโรงพยาบาลขอนแก่นจากกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชนผู้บริจาคชาวขอนแก่น โดยขอให้รัฐมนตรี ตรวจสอบการใช้เงินบริจาคของ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กรณีที่นำไปซื้อเครื่องบำบัดขยะฯราคา 19 ล้านกว่าบาทว่าดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนของระเบียบราชการและเทศบาลรวมทั้งมีพฤติกรรมส่อทุจริตหรือไม่ ซึ่ง นพ.ชลน่านเองก็ให้ความสนใจข้อร้องเรียนนี้ไม่น้อย และรับปากจะดำเนินการตรวจสอบ

สำหรับสาระในหนังสือร้องเรียนระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวในหลายสื่อและช่องทางต่างๆเกี่ยวกับปัญหาการดำเนินการบำบัดขยะของโรงพยาบาลขอนแก่นว่า ได้ก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและเจ้าหน้าที่บุคลากรที่ปฏิบัติงานอยู่ในอาคารหอผู้ป่วยตรงข้ามกับเครื่องบำบัดขยะรวมไปถึงผู้ป่วยที่พักรักษาอยู่ในอาคารบริเวณนั้น โดยจากเดิมโรงพยาบาลขอนแก่นเคยจ้างเหมาบริษัทมารับขยะติดเชื้อไปทำลาย ซึ่งเป็นการบริหารจัดการที่ทำมาตลอดและเหมาะสม ไม่ได้ก่อปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นหรือก่อมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมใดใด

แต่หลังจาก นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ เข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กลับเปลี่ยนวิธีการบำบัดขยะเป็นการซื้อเครื่องบำบัดขยะมาดำเนินการเอง โดยนำเงินบริจาคของประชาชนที่บริจาคเพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์มาเป็นงบประมาณในการจัดซื้อ และเมื่อดำเนินการ บำบัดขยะก็ก่อความเดือดร้อนทั้งส่งกลิ่นเหม็นและปล่อยสารที่ก่อมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดมะเร็ง

ในนามตัวแทนผู้บริจาคชาวขอนแก่นจึงเรียนมายังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากพบว่ามีความผิดปกติ เป็นที่น่าสงสัยแคลงใจของประชาชนที่บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลขอนแก่นหลายประการ ได้แก่

1.การดำเนินการบำบัดขยะโดยซื้อเครื่องบำบัดขยะมาดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อเองตามคำสั่งของ นพ.เกรียงศักดิ์ เป็นแนวทางที่เหมาะสมหรือมีเจตนาเคลือบแฝงส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เนื่องจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากสื่อต่างๆมีการรายงานว่า นพ.เกรียงศักดิ์ ได้ใช้วิธีการบำบัดขยะแบบเดียวกันในโรงพยาบาลที่เคยเป็นผู้อำนวยการมาก่อน ได้แก่โรงพยาบาลชุมแพและโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี โดยซื้อเครื่องบำบัดขยะด้วยเงินบริจาค จากบริษัทเดียวกันกับของที่ซื้อมาใช้ที่โรงพยาบาลขอนแก่นและได้ก่อปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น ปล่อยสารมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสารก่อมะเร็งเช่นเดียวกัน

จนเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนของทั้งโรงพยาบาลชุมแพและโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ซึ่งเทศบาลจันทบุรีถึงขั้นสั่งปิดโรงบำบัดขยะ...เมื่อเกิดปัญหาซ้ำมาแล้วถึง 2 โรงพยาบาล เหตุใด จึงได้สั่งการให้ดำเนินการบำบัดขยะแบบเดียวกับที่มีปัญหาอีก

2.มีการนำเงินบริจาคที่มีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ไปรวมกับเงินบริจาคแบบไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องบำบัดขยะ ถือเป็นการใช้เงินงบประมาณผิดวัตถุประสงค์ ไม่มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเรื่องนี้ต่อพี่น้องประชาชนที่มาบริจาค และส่อพฤติกรรมว่าเป็นการเตรียมการเพื่อที่จะจัดซื้อโดยไม่เคารพและไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้บริจาคแต่อย่างใด

3.การดำเนินการติดตั้งและใช้งานเครื่องบำบัดขยะไม่ได้มีการแจ้งเทศบาลหรือทำประชาพิจารณ์ตามระเบียบและเปิดใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเทศบาล แม้เมื่อมีการตรวจสอบและพบว่ามีปัญหาตามข้อร้องเรียนก็ยังท้าทายอำนาจรัฐเปิดทำการต่ออีกหลายวันกว่าจะสั่งปิด เหตุใดจึงสามารถกระทำการขัดต่ออำนาจรัฐได้ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่บุคลากรในโรงพยาบาลขอนแก่น

จึงเรียนมาเพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบและหาผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวและหากมีการกระทำความผิดจริง ทั้งเรื่องดำเนินการบำบัดขยะที่ก่อความเดือดร้อนให้ประชาชน กระทำการผิดระเบียบ ท้าทายอำนาจรัฐและส่อทุจริต สำคัญที่สุด คือเงินบริจาคของประชาชนชาวขอนแก่นเป็นจำนวนเงิน 19 ล้านกว่าบาทที่สูญเสียไปจากการนำไปซื้อเครื่องบำบัดขยะ ซึ่งเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ไม่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและกลับยังสร้างปัญหาให้แก่ชุมชน ขอได้โปรดดำเนินการย้ายเครื่องบำบัดขยะออกไปจากชุมชนและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องที่กระทำความผิดตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้บริหารคนอื่นต่อไป

25 ก.ย. 2566  ผู้จัดการออนไลน์