ผู้เขียน หัวข้อ: โอดเฉียดตาย! รพ.เอกชนเช็กสิทธประกันไม่ขึ้น ปล่อยทนเจ็บหนักต้องหามส่งรพ.รัฐ  (อ่าน 60 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายฐานภัทร อะเวลา อายุ 44 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นประจำเมืองพัทยา ถึงเหตุการณ์นาทีชีวิต ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำ ทำให้ศีรษะฟาดกับอ่างล้างหน้า จนหน้าผากเหนือคิ้วขวาแตก และถูกบาดจนเป็นแผลฉกรรจ์ที่แขนซ้าย ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้ให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ตามประสงค์ของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากได้บัตรประกันอุบัติเหตุไว้

ทั้งนี้เมื่อเดินทางไปถึงโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวได้แจ้งสิทธิรักษาตามประกันอุบัติเหตุ ซึ่งทางโรงพยาบาลทำการเช็กสิทธิกว่า 20 นาที และปล่อยให้รอไม่ได้ตรวจสอบบาดแผล อาการบาดเจ็บแต่อย่างใด ก่อนมีเจ้าหน้าที่ออกมาแจ้งว่าไม่มีสิทธิในการรักษาของประกัน แต่ด้วยอาการที่เสียเลือดมากของผู้บาดเจ็บ จนใบหน้าซีดเซียว อาการไม่สู้ดี หวั่นจะเกิดอาการช็อก เพราะผู้บาดเจ็บนั้นมีโรคประจำตัวด้วย ทางเพื่อนที่ตามมาด้วยจึงต้องขอเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อทำการรักษาเร่งด่วน หลังต้องเสียเวลารอเช็กสิทธิจากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เพื่อความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บ เมื่อถึงโรงพยาบาลรัฐเจ้าหน้าที่ได้ทำการเย็บที่คิ้วขวา 8 เข็ม และแขนซ้าย 10 เข็ม จนอาการปลอดภัย

กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 2 ก.ย. ผู้บาดเจ็บได้ติดต่อสอบถามตัวแทนประกันเกี่ยวกับการใช้สิทธิ โดยได้รับการประสานจากตัวแทนและตรวจสอบจนทราบว่าผู้บาดเจ็บยังคงมีสิทธิในการใช้ประกันในการเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล สร้างความแปลกใจสงสัยว่าเพราะเหตุใดทางโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังถึงตรวจสอบหาสิทธิไม่พบ แล้วปล่อยให้ทนอยู่ในอาการบาดเจ็บนานเฉียดตาย โดยที่ไม่มีการช่วยเหลือ ตรวจสอบบาดแผลแต่อย่างใด จนญาติและกลุ่มเพื่อนทนดูไม่ไหว จึงต้องเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นายฐานภัทร ตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใดทางโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เช็กสิทธิไม่ขึ้นทำให้ต้องเสียสิทธิในการเข้ารับการรักษา หากเป็นการประสบอุบัติร้ายแรงกว่านี้ แล้วเช็คสิทธิไม่ขึ้น และถูกปล่อยให้รอเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา ทำให้ต้องเคลื่อนย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลอื่นแทน และช้าไปจะทำอย่างไร ทั้งที่เป็นโรงพยาบาลชื่อดังแต่กลับปล่อยให้ผู้ป่วยนอนรอความตายเช่นนี้.

เดลินิวส์
3 ก.ย.2566