จากกรณีตำรวจรถไฟศิลาอาสน์ หน่วยบริการประชาชนเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุหญิงเป็นลมหมดสติบริเวณที่พักผู้โดยสารภายในสถานีรถไฟเชียงใหม่ โดย ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ใจทำ รอง สว. ส.รฟ.ศิลาอาสน์ และ ร.ต.ต.สมศาสตร์ วันดี รอง สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ ได้เข้าตรวจอาการเบื้องต้นพบชีพจรค่อยๆ อ่อนลงเรื่อยๆ จึงช่วยกันปั๊มหัวใจ
ระหว่างนั้นได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นพยาบาลและได้เข้ามาช่วยใช้เครื่อง AED ในการทำ CPR จนชีพจรกลับมา ก่อนจะประสานรถกู้ชีพมานำตัวส่งโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ทำให้หญิงคนดังกล่าวถึงมือแพทย์อย่างปลอดภัย
ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ใจทำ รอง สว.ส.รฟ.ศิลาอาสน์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเกิดเหตุขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟที่ 13
ได้มี นางสาวจิตตพัฒนา อายุ 48 ปี ที่เดินทางมากับขบวนรถไฟที่ 13 จากกรุงเทพมหานครถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เกิดวูบหมดสติชีพจรหยุดเต้นกลางที่พักผู้โดยสารขณะรอคนมารับ หลังรับแจ้งจึงรีบเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ
ก่อนที่จะมีพยาบาลสาวพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือด้วยการทำ CPR และใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ หรือ เครื่อง AED จนชีพจรกลับคืนมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลแมคคอร์มิค
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางญาติได้ประสานกับตำรวจรถไฟช่วยตามหาตัวพยาบาลสาวพลเมืองดีคนดังกล่าว หวังขอบคุณในความมีน้ำใจ จนพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
ล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค.) ญาติของนางสาวจิตตพัฒนา อายุ 48 ปี ครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจรถไฟเชียงใหม่ ตำรวจรถไฟศิลาอาสน์ เพื่อขอบคุณตำรวจรถไฟ
พร้อมนำกระเช้าผลไม้มอบขอบคุณ นางสาววราภรณ์ ทองทิพย์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ที่ร่วมกันช่วยเหลือนางสาวจิตตพัฒนา
โดยทันทีที่พบหน้านางสาววราภรณ์ ญาติได้โผเข้าไปกอดนางสาววราภรณ์ด้วยความซาบซึ้งใจ ที่ช่วยเหลือจนนางสาวจิตตพัฒนารอดตายราวปาฏิหาริย์
จากการสอบถาม นายกรีติพงฑ์ อายุ 67 ปี น้าของนางสาวจิตตพัฒนา เปิดเผยว่า หลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ส่งตัวเข้าห้องไอซียูเพื่อทำการช่วยชีวิตทันที ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ โดยทางแพทย์ระบุว่าเคสของผู้ป่วยรายนี้เป็นเคสที่เจอได้ยาก เนื่องจากเป็นเคสที่หมดสติ และมีโอกาสเสียชีวิตถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ตนเองและญาติๆ อยากขอขอบคุณตำรวจรถไฟและพยาบาลที่ปรากฎในคลิป รวมไปถึงทุกคนที่มาช่วยเหลือจนหลานสาวกลับมามีชีวิต เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะตอนนั้นโอกาสรอดมีเพียง 50/50 เนื่องจากที่หมดสติไปนั้นมีภาวะหัวใจและไตวายฉับพลัน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธีในขณะหมดสติก็อาจจะเสียชีวิตได้
ด้าน นางสาววราภรณ์ ทองทิพย์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางเนิ้ง เปิดใจกับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุรอส่งญาติขึ้นรถไฟ ระหว่างรอพบว่ามีคนเป็นลมมีอาการชัก จึงรีบเข้าไปประเมินอาการ พบชักเกร็งถึงสองรอบก่อนชีพจรจะหายไปจึงทำ CPR และขอเครื่อง AED จากตำรวจรถไฟ
นางสาววราภรณ์ บอกอีกว่า รู้สึกดีใจและตื้นตันใจที่ได้นำวิชาชีพมาใช้ช่วยชีวิตคน พร้อมฝากถึงคนอื่นๆ หากเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินให้ตั้งสติให้มากที่สุด คิดทำอย่างไรก็ได้ให้คนที่เราเจอรอดและเป็นอันตรายน้อยที่สุด
ขณะที่ ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ใจทำ รอง สว. ส.รฟ.ศิลาอาสน์ เปิดเผยว่า ตำรวจรถไฟมีความพร้อมให้การช่วยเหลือผู้โดยสารและประชาชนในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นต้องขอบคุณพยาบาลสาวพลเมืองดีและทุกๆ คนที่เข้ามาช่วยเหลือ ในฐานะตำรวจรถไฟภูมิใจที่ได้ดูแลช่วยเหลือประชาชน
ส่วนประชาชนที่มาใช้บริการทั้งบริเวณสถานีรถไฟและในขบวนรถไฟ หากเกิดกรณีฉุกเฉินหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันทีซึ่งจะมีการประสานงานกับหน่วยงานใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องทันที และแม้ตำรวจรถไฟจะถูกยุบเลิก แต่จะยังมีตำรวจช่วยราชการคอยดูแลความปลอดภัยให้กับ ประชาชนและผู้โดยสารเหมือนเดิม
16 สค 2566
Sanook.com
