ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำรับ "ยาแก้องคชาติตาย" แก้เซ็กซ์เสื่อม ด้วย8สมุนไพร มีกัญชาผสม 50% ลุยวิจัย  (อ่าน 359 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ ดึงตำรับ "ยาแก้องคชาติตาย" พัฒนาเป็นแคปซูล เตรียมวิจัย ก.ค. ใช้รักษาภาวะเซ็กซ์เสื่อม ตั้งเป้า 100 คน คาด 3 เดือนรู้ผลเบื้องต้น ก่อนศึกษาเปรียบเทียบยาแผนปัจจุบัน หากได้ผลจริงดันเข้าบัญชียาหลักฯ เผยส่วนประกอบสมุนไพร 8 ตัว ใช้ "กัญชา" สัดส่วน 50% อีกครึ่งเป็นดีปลี ชะพลู พริกชี้ฟ้า ขิง ลูกจันทน์ กระวาน รากสะแก ปริมาณเท่ากัน พบวิจัยสมุนไพรบางตัวช่วยเสริมสมรรถภาพเพศ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ภก.ศศิพงศ์ ทิพย์รัชดาพร เภสัชกรชำนาญการพิเศษ รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร ให้สัมภาษณ์ถึงยาแก้องคชาติตาย แก้อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 20 "สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย" ว่า รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ กำลังดำเนินการศึกษาวิจัยตำรับยาแก้องคชาติตาย ซึ่งมาจากตำรับยาเกร็ด หมวดเวชศาสตร์ จากสมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ โดยใช้สมุนไพร 8 ตัวมาเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ดีปลี ชะพลู พริกชี้ฟ้า ขิง ลูกจันทน์ กระวาน รากสะแก และกัญชา โดยสัดส่วนจะเป็นกัญชาถึง 50% และสมุนไพรอีก 7 ตัวที่เหลือจะใช้สัดส่วนในอัตราที่เท่าๆ กัน โดยจะนำมาบดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน โดยในตำรับระบุคุณสมบัติว่า แก้องคชาติตาย ซึ่งหากเทียบกับแผนปัจจุบันคือ อาการโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ภาวะที่องคชาตไม่สามารถแข็งตัว หรือคงความแข็งตัวได้ไม่นานพอจนเสร็จสิ้นการมีเพศสัมพันธ์

ภก.ศศิพงศ์ กล่าวว่า ในการศึกษาวิจัยจะรับอาสาสมัครผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยว่ามีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อายุระหว่าง 25-60 ปี ไม่มีโรคประจำตัว หรือประวัติแพ้สมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนประกอบ ตั้งเป้าไว้ที่ 100 คน ซึ่งตามตำรับจะรับประทานครั้งละ 1 กรัม วันละ 2 ครั้งก่อนอาหารหรือเช้าเย็น แต่ในการผลิตเราทำเป็นแคปซูลก็จะให้กินวันละ 2-3 แคปซูล และนัดติดตามผลทุก 7 วัน เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อประเมินภาวะการแข็งตัวของอวัยวะเพศและการตอบสนองของอวัยวะเพศต่อยา โดยจะให้ทำแบบประเมินเรื่องความแข็งตัวขององคชาต ตั้งแต่ระดับ 0 คะแนนที่ไม่ขยายตัว จนถึงระดับ 4 คะแนน ที่ขยายขนาดแข็งขึ้น สอดใส่ได้เต็มที่ ว่าตั้งแต่ก่อนรับประทานยาเป็นอย่างไรและหลังรับประทานยาแตกต่างหรือไม่อย่างไร รวมถึงจะมีแบบทดสอบสมรรถภาพทางเพศที่เป็นแบบวัดสากลในการประเมินผลด้วย ซึ่งจะมีการถามเรื่องต่างๆ เช่น การแข็งตัวบ่อยแค่ไหน มีความต้องการทางเพศบ่อยแค่ไหน มีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหน สอดใส่ได้หรือไม่ ประเมินเรื่องอารมณ์เมื่อมีการเร้า รู้สึกจุดสุดยอดบ่อยแค่ไหน เพื่อวัดประสิทธิผลของยา



"เนื่องจากส่วนใหญ่ความรู้สึกทางเพศของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน เหมือนอาการปวด ที่บางคนถูกมดกัดอาจบอกระดับความปวด 2 คะแนน บางคนบอกปวดระดับ 4 การวัดผลจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นตัวกลางประเมินความรู้สึกทางเพศตั้งแต่ก่อน ระหว่างและหลังรับประทานยา นอกจากนี้ จะมีการตรวจติดตามความปลอดภัยของยาผ่านห้องปฏิบัติการด้วย ทั้งการตรวจเอนไซม์ของตับ การทำงานของไตมีความผิดปกติหรือไม่ รวมถึงอาการข้างเคียงอื่นๆ" ภก.ศศิพงศ์กล่าว

ภก.ศศิพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้เราได้รับการอนุมัติจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์แล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเก็บข้อมูลช่วง ก.ค.นี้ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาเบื้องต้น 3 เดือน ถ้าศึกษาเบื้องต้นแล้วพบว่า ยามีความปลอดภัยและได้ผลจริงตามที่ระบุไว้ในตำรับยา ก็จะมีการนำยาตำรับนี้ไปศึกษาขยายผล โดยเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันกับผู้ที่ใช้ยาแผนปัจจุบันรักษาสมรรถภาพทางเพศ เช่น ไวอากรา เป็นต้น ว่าประสิทธิภาพประสิทธิผลแตกต่างหรือไม่ ความสามารถในการแข้งตัวเหมือนหรือใกล้เคียงกันอย่างไรจากประสบการณ์ในการใช้ ซึ่งคาดว่าปีหน้าก็น่าจะทราบผลชัดเจน ซึ่งถ้างานวิจัยตอบโจทย์ได้จริงตามสรรพคุณที่ระบุไว้ ก็จะดำเนินการพัฒนารูปแบบยาให้พัฒนาง่ายขึ้น อาจทำเป็นเม็ดตอก ผลักดันเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ เอาไปใช้ในการรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

เมื่อถามถึงสรรพคุณของสมุนไพรที่เป็นตัวส่วนประกอบ มีส่วนช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศอย่างไร เหตุใดถึงใช้กัญชาในสัดส่วนถึง 50% ภก.ศศิพงศ์กล่าวว่า ที่ใช้กัญชา 50% เนื่องจากเชื่อว่ากัญชาช่วยในเรื่องการผ่อนคลายความเครียด เมื่อกินแล้วจะปรับร่างกาย ผ่อนคลายอารมณ์ ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานทางเพศลดลง นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนวรรณกรรมพบว่า สมุนไพร 5 ตัวในตำรับนี้ พบว่า มีฤทธิ์ส่งเสริมเรื่องสมรรถภาพทางเพศ เช่น ดีปลี สารสกัดมีฤทธิ์ทำให้เกิดแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนตั้งต้นในการเปลี่ยนไปเป็นฮอร์เทสโทสเตอโรนของเพศชาย , ชะพลู คุณสมบัติเพิ่มคุณภาพสเปิร์มในหนูทดลอง ดีกว่าหนูทดลองที่ไม่ได้กิน , พริกชี้ฟ้า มีสารชื่อแคปไซซิน กระตุ้นเลือดในร่างกายให้สูบฉีดไหลเวียนไปยังส่วนต่างๆ ดีขึ้น รวมถึงอวัยะเพศ ช่วยหลั่งสารเอนโดรฟินให้มีความสุขเร้าอารมณ์ , ขิง ในสัตว์ทดลอง พบว่า ขิงมีส่วนเพิ่มน้ำหนักของอัณฑะที่เพิ่มขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพิ่มขึ้น และลูกจันทน์ เมื่อเอาสารสกัดป้อนหนูทดลองเพศผู้ สามารถเพิ่มความถี่การเข้าผสมพันธุ์กับตัวเมีย เพิ่มการสอดใส่อวัยวะเพศในสัตว์ทดลอง ระยะเวลาในการหลั่ง และมีเพศสัมพันธ์ได้ถี่ขึ้น

ถามว่ายาตำรับนี้มีข้อควรระวังอะไรหรือไม่ ภก.ศศิพงศ์กล่าวว่า ก่อนการวิจัยเท่าที่มีการทดสอบเบื้องต้นโดยเจ้าหน้าที่ รพ. พบว่า ประเมินแล้วอาการโดยรวมค่อนข้างดี แต่มีในเรื่องของยาที่ทำให้เกิดความรู้สึกร้อนและเหงื่อออก เพราะสมุนไพรมีรสร้อนเป็นส่วนประกอบ ทั้งดีปลี ชะพลู พริกชี้ฟ้า ขิง ดังนั้น ในผู้ป่วยที่รับประทานยาบางกลุ่ม เช่น ยากันชัก ยาขยายหลอดลม หรือกลุ่มที่มีโอกาสยาจะไปตีกันกับยาแผนปัจจุบันต้องหลีกเลี่ยงในการใช้ ซึ่งการจะจ่ายยาตัวนี้แพทย์ต้องประเมินก่อนว่าสามารถรับประทานได้ ส่วนกรณีถ้ารับประทานยาตำรับนี้ไปแล้วมีอาการแบบร้อนวูบวาบ อาจแก้ต้องการอาบน้ำ จะช่วยลดอาการร้อนได้

30 มิ.ย. 2566  ผู้จัดการออนไลน์