เจ้าของแมว พร้อมกลุ่มคนรักสัตว์ และทนายความ ยันเอาเรื่องกับโรงพยาบาล แมวไปบริจาคเลือดกลับช็อกตาย
จากกรณีที่ น.ส.มัลลิกา อายุ 56 ปี นำแมวพันธุ์ Scottish fold ตัวละแสนกว่าบาทไปบริจาคเลือดให้กับแมวที่กำลังป่วย แต่สัตวแพทย์ของ โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งย่านคลองเจ็ด อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้วางยาสลบ พร้อมนำเลือดแมวไปมากกว่าจำนวนที่แจ้ง อีกทั้งไม่ได้ให้เจ้าของเซ็นเอกสารใดๆ กระทั่งแมวช็อกตายนั้น
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน กลุ่มคนรักสัตว์ พร้อมด้วย น.ส.มัลลิกา และทนายความ ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแมวชื่อ เคอร์รี่ ที่ตายลง ซึ่งมี นายกิตติคุณ พลวัน ประธานชมรมจิตอาสารักสัตว์ เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่มคนรักสัตว์ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแมวที่ตายลงขณะไปบริจาคเลือดที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง โดยไม่ได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลสัตว์แต่อย่างใด
นายกิตติคุณกล่าวว่า เจ้าของแมวร้องเรียนไปที่ สัตวแพทยสภา ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน จึงต้องออกมาเรียกร้องในเรื่องนี้ว่าโรงพยาบาลสัตว์ตอบรับว่าอย่างไร
น.ส.มัลลิกาบอกว่า ตั้งแต่ออกข่าวไปจนถึงวันนี้โรงพยาบาลไม่ได้ติดต่ออะไรตนเลย ซึ่งตนได้ไปแจ้งความเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถามว่าโรงพยาบาลติดต่อมาบ้างหรือไม่ ตนตอบว่ายังไม่มี ซึ่งตนได้ร้องเรียนไปที่สัตวแพทยสภา ทั้งนี้ ผลชันสูตรศพแมวก็ยังออกมาไม่หมด แต่นำศพแมวไปผ่าชันสูตรอีกโรงพยาบาลหนึ่งแล้วผลชันสูตรตรงกันหรือไม่
น.ส.สมหญิง อายุ 30 ปี เจ้าของแมวไทยผสมวิเชียรมาศ ซึ่งเป็นแมวตัวที่ป่วย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องโรงพยาบาลไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลย ไม่ได้ออกมารับผิดชอบอะไร ซึ่งตนจะนำแมวออกจากโรงพยาบาลด้วยเพราะเกรงเรื่องความปลอดภัยของแมว
ด้าน นายสรยุทธ วุฒิอนันต์ ทนายความ กล่าวว่า ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าของแมว ในด้านกฎหมายได้รวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะต้องออกหนังสือถึงสัตวแพทย์ที่รักษา รวมถึงโรงพยาบาลสัตว์ที่แมวไปบริจาคเลือดให้มารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังไม่มาเจราจาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคมด้วย
มติชน
25มิย2566
