สาวหลังคลอดปวดท้องหนักนานเกือบเดือน ส่องดูเจอผ้าก๊อซในช่องคลอดสภาพเน่าเหม็น

[story]

ราชบุรี (รพ.โพธาราม) - สาววัย 24 ปี ชาวราชบุรี ปวดท้องหนักหลังคลอดนานเกือบเดือน ส่องดูเจอก้อน สีขาวตัดสินใจดึงออกสุดช็อก พบเป็น "ผ้าก๊อซ" ก้อนใหญ่ สีช้ำเลือดช้ำหนอง ส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก ก่อนระบายลงโซเชียล รพ.เห็นโพสต์รีบมาดูอาการถึงบ้าน

จากกรณีที่มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "น้ำฝน หวานน" โพสต์ข้อความระบุว่า "เอาเรื่องอยู่ล่ะโรงบาลไม่เห็นจะรับผิดชอบอะไรเลย ทำคลอดแต่ลืมเอาผ้าก๊อซออกจากช่องคลอด!!! ถ้าไม่เจ็บเพิ่มขึ้น ไม่เจ็บนานกว่าปกติ คงไม่รู้เลยว่าหมอลืมเอาผ้าก๊อซออก แล้วไม่ใช่ก้อนเล็กๆ เลย จนกลิ่นเหม็นเน่าไปหมด ถ้ารอวันตรวจหลังคลอดคงเน่าและติดเชื้อไปแล้ว พอมาตรวจภายในเพราะกลัวติดเชื้อ ก็แจ้งแค่มดลูกบวม อักเสบ รับยากลับบ้านได้ ไม่เห็นแจ้งว่าทาง รพ.จะรับผิดชอบอะไรเลย" จนเป็นที่สนใจในสังคมโซเชียล และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

วันนี้ (21 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อพบกับ น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้เสียหาย และเป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับ นางเล็ก (นามสมมติ) มารดา

น.ส.หวาน กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปคลอดลูกที่ รพ.แห่งหนึ่งใน อ.โพธาราม เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ท้องนี้เป็นท้องแรกโดยคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ หลังออกจาก รพ.ตนมีอาการปวดบริเวณช่องคลอดมาโดยตลอด ซึ่งวันแรกๆ คิดว่าปวดแผลที่เย็บ จึงไม่ได้สงสัยอะไร แต่พอนานวันรู้สึกว่ายังมีอาการปวดหนักขึ้นกว่าเดิม และเหมือนมีอะไรอยู่ในช่องคลอด

จนเมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย. มีอาการปวดมากขึ้น เหมือนมีก้อนอะไรอยู่ในช่องคลอด จึงนำกระจกมาส่องดูเห็นก้อนขาวๆ อยู่ตรงช่องคลอด จึงบอกกับแม่ และให้ตนเองลองดึงดูว่ามันเป็นอะไร ตนเองจึงค่อยๆ ดึงก้อนนั้นออกมา สรุปว่าเป็นผ้าก๊อซที่มีสีช้ำเลือดช้ำหนอง และมีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก วินาทีที่เห็นตนรู้สึกงง ตกใจ และกลัวไปหมด

น.ส.หวาน กล่าวต่อว่า ตอนนี้รู้สึกสับสนมากว่าจะทำอย่างไรต่อไป จึงปรึกษาเพื่อนที่เป็นพยาบาลว่าต้องทำอย่างไร เพื่อนแนะนำให้รีบไปหาหมอ เพราะถ้าติดเชื้อขึ้นมาจะเป็นอันตรายถึงชีวิต จนช่วงเช้าวันนี้ (21 มิ.ย.) ได้รีบไปหาหมอ และนำผ้าก๊อซไปให้หมอดู ซึ่งหลังได้พบหมอและเล่าเรื่องผ้าก๊อซที่ลืมไว้ในช่องคลอดให้ฟัง ทางพยาบาลรับผ้าก๊อซไปแต่ไม่รู้นำไปไหน ซึ่งคุณหมอบอกเพียงว่าช่องคลอดตนเองบวมและอักเสบ แต่ไม่ได้ติดเชื้อ เดี๋ยวจะให้ยากลับไปกินที่บ้าน แต่ที่สุดแล้วไม่ได้รับยากลับบ้าน เพราะใช้สิทธิบัตรทองต้องจ่าย 30 บาท แต่ตนเองไม่ได้พกเงินสดไป จึงขอโอนให้ทาง รพ. แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าจะโอนต้องมียอดขั้นต่ำ 500 บาท เธอจึงไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องกลับบ้านโดยไม่ได้รับยามารักษาตัว

เมื่อมาถึงบ้านรู้สึกเจ็บที่ช่องคลอดจนทนไม่ไหว จึงให้สามีไปที่ รพ.เพื่อซื้อยากลับมาให้ตนรู้สึกโมโหมาก เพราะที่จริงเป็นความผิดพลาดของทาง รพ. และเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ แต่ทาง รพ.กับไม่รับผิดชอบอะไรเลย จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวทั้งหมดระบายลงโซเชียล จนทางโรงพยาบาลทราบเรื่องจึงขอติดตามมาดูอาการที่บ้าน พร้อมนำที่นอนเด็ก ชุดแชมพูเด็ก นม และเครื่องดื่มเกลือแร่บำรุงหลังคลอด มามอบให้และจะรักษาให้ฟรีจนกว่าจะหายเป็นปกติ พร้อมกล่าวขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางโรงพยาบาลไม่ได้พูดถึงจะเยียวยาแต่อย่างใด

ด้านนางเล็ก มารดาผู้เสียหายกล่าวว่า ช่วงระหว่างที่ลูกสาวมีอาการเจ็บปวดจนทำอะไรไม่ได้นั้น ตนต้องหยุดงาน หรือจ้างคนมาช่วยดูแล ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ ซึ่งครอบครัวทำงานหาเช้ากินค่ำ วันไหนหยุดจะไม่มีเงินใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งทางครอบครัวอยากให้ทางโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะเป็นห่วงสุขภาพในระยะยาว และเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป สุดท้ายตนขอฝากทางโรงพยาบาลทำอะไรขอให้รอบคอบ และระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะถ้ามีอาการติดเชื้อขึ้นมาอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ด้าน น.ส.หวาน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังเจ็บแผลอยู่เพราะยังไม่หายดี ทางโรงพยาบาลได้มีการมาพูดคุยบ้าง โดยมาบอกว่าจะพาไปตรวจอาทิตย์ละครั้งเพื่อติดตามอาการ โดยจะมีรถมารับ และจะมีการชดใช้ค่าเยียวยาให้แต่ยังไม่ทราบว่าเท่าไหร่ ขณะนี้ที่เป็นห่วงและกังวลใจอยู่เป็นเรื่องของสุขภาพกลัวแผลติดเชื้อ และอยากให้ดูแลคนไข้ให้ดีกว่านี้

21 มิ.ย. 2566  ผู้จัดการออนไลน์

[story]

ผอ.โรงพยาบาล ยอมรับแล้ว ลืมผ้าก๊อซ จริง หลังจากสาวแม่ลูกอ่อน หลังคลอดปวดมดลูกไม่หาย นั่งปัสสาวะจู่ ๆ ไหลออกมา เผย เร่งเยียวยา

จากกรณี นางเล็ก (นามสมมติ) อายุ 58 ปี และ น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 24 ปี สองแม่ลูกชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ออกมาร้องเรียน หลังเข้ารับบริการคลอดบุตรที่โรงพยาบาลโพธาราม ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.2566 กลับมีอาการปวดท้องนานผิดปกติ กระทั่งวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบผ้าก๊อซไหลออกมาทางปากช่องคลอด จึงคาดว่าหมอลืม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผอ.โรงพยาบาล ยอมรับแล้ว ลืมผ้าก๊อซ จริง หลังจากสาวแม่ลูกอ่อน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มิ.ย.2566 นพ.ธงชัย เขมรัตน์ตระกูล ผอ.โรงพยาบาลโพธาราม เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า น.ส.หวานได้เข้ามาใช้บริการคลอดบุตร เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างรอคลอด แพทย์พบว่าทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ จึงเร่งทำคลอดจนช่วยเหลือแม่และทารกได้อย่างปลอดภัย แต่เนื่องจากระหว่างคลอด น.ส.หวานมีภาวะเลือดไหลซึมที่บริเวณแผลค่อนข้างมาก จึงต้องใช้ผ้าก๊อซช่วยดูดซับ

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.หวานได้นำผ้าก๊อซที่พบในช่องคลอดมาพบแพทย์ ก่อนจะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อทางผู้บริหารทราบเรื่องจึงรีบเดินทางไปบ้านพักของ น.ส.หวาน เพื่อนำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปช่วยเหลือเบื้องต้น และช่วงเช้าวันนี้คณะผู้บริหารได้เดินทางไปที่บ้านผู้ป่วยอีกครั้งเพื่อนำเงินส่วนตัวของคณะผู้บริหารไปช่วยเหลือเบื้องต้น และรวบรวมเอกสารเพื่อขอใช้สิทธิ์ชดเชยเยียวยาตาม มาตรา 41 กองทุนบัตรทอง ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพที่อาจจะส่งผลในระยะยาวที่ครอบครัวกังวล จากผลตรวจร่างกายของ น.ส.หวาน พบว่าเป็นปกติ ไม่มีไข้ แผลฝีเย็บแห้งดี แต่มีการอักเสบบริเวณปากมดลูกที่เกิดจากการคลอด โดยระหว่างนี้ให้รับประทานยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่อง และนัดให้มาพบในอีก 1 สัปดาห์ หลังจากนี้เพื่อประเมินอาการอีกครั้ง

นพ.ธงชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องค่ายา 30 บาทที่น.ส.หวานไม่ได้ชำระ ทำให้ไม่ได้ยารักษากลับบ้าน ทางโรงพยาบาลขอแจ้งว่า อาจเกิดการเข้าใจผิดด้านการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับ น.ส.หวาน เนื่องจากปกติทางโรงพยาบาลจะมีจุดชำระเงินในรูปแบบสแกนคิวอาร์โค้ด ซึ่งจะชำระยอดขั้นต่ำเท่าไหร่ก็ได้ แต่หากเป็นกรณีชำระด้วยบัตรเครดิต จะต้องมียอดชำระขั้นต่ำ 500 บาท โดยในวันที่คณะผู้บริหารไปเยี่ยมบ้าน ได้พูดคุยชี้แจงและนำยาไปให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และพร้อมจะนำไปปรับปรุง ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลมีการนำระบบ Buddy Hoos มาใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านต่างๆ ในการให้บริการ ทั้งนี้หากประชาชนผู้มารับบริการพบปัญหาสามารถร้องเรียนได้ที่ช่องทางโทรศัพท์ 032 719400 หรือที่เพจเฟซบุ๊ก "โรงพยาบาลโพธาราม" ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นางเล็ก (นามสมมติ) เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ทางคณะผู้บริหารโรงพยาบาลได้เข้ามาเยี่ยมดูอาการของลูกสาว และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 3,000 บาท พร้อมชี้แจงสิทธิ์การรับเงินช่วยเหลือเยียวยาตามมาตรา 41 ให้ตนทราบแล้ว แต่ทว่าตนกับลูกยังคงมีความเครียดและวิตกกังวลถึงผลกระทบด้านสุขภาพในอนาคต

21 มิ.ย.2566
ข่าวสดออนไลน์