สลด!ตาวัย64เสียชีวิตหลังถอนฟัน12ซี่ ญาติคาใจหมอชี้ติดเชื้อในกระแสเลือด

[story]

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 พ.ค. แหล่งข่าวรายงานว่า มีชายชาวบางระจัน ชื่อนายสมศักดิ์ คุ้มครอง อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 9 ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เสียชีวิต ญาตินำศพมาบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาการเปรียญ วัดสะเดา ต.แม่ลา อ.บางระจัน หลังจากเข้าไปรักษาตัวด้วยโรคประจำตัว ที่โรงพยาบาลระยะหนึ่ง ต่อมาแพทย์ได้ดำเนินการถอนฟัน นายสมศักดิ์ ไปทั้งหมด 12 ซี่ ภายใน 2 วัน

โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเข้าโรงพยาบาล นายสมศักดิ์ยังพอมีสุขภาพปกติ ถึงแม้จะป่วยด้วยโรครุมเร้าหลายโรคก็ตาม แต่เมื่อไปถอนฟันกลับตกอยู่ในอาการโคม่า เลือดไหลไม่หยุด และเสียชีวิต ญาติสงสัยเพราะอะไรต้องถอนฟัน 12 ซี่ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่โรงพยาบาล

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางที่วัดสะเดา อ.บางระจัน ได้พบกับ น.ส.แปลก คุ้มครอง เป็นญาติของ นายสมศักดิ์ เล่าว่า นายสมศักดิ์ ไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดสิงห์บุรี ได้ 10 วัน รุ่งขึ้น อีก 2 วัน ได้ไปถอนฟัน ครั้งแรกเลือดออก ครั้งที่ 2 มีเลือดไหลไม่หยุดผ้าก๊อซที่อมไว้ก็เอาไม่อยู่ เพราะนายสมศักดิ์ ไม่มีแรงจะกัดผ้าก๊อซ รวมฟันทั้งหมดที่ถูกถอนไป 12 ซี่ แปลกใจมาก เกิดมาก็ไม่เคยถอนฟันมากและติดต่อกันถึงขนาดนี้ นายสมศักดิ์ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ ก็เดินทางไปดีๆ ไม่มีทีท่าจะเจ็บป่วยรุนแรง รู้สึกเสียใจที่ต้องเสียญาติไปแบบคาใจสงสัย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายสมศักดิ์ เพื่อพบกับนางบุญเรือง แสงวันทอง ภรรยาของนายสมศักดิ์ เล่าทั้งน้ำตาว่า หมอระบุว่า นายสมศักดิ์ มีอาการปอดติดเชื้อ ขาดสารอาหาร และติดเชื้อในกระแสเลือด จึงต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ต่อมา แพทย์ ให้นายสมศักดิ์ไปตรวจฟัน และถอนฟัน ถอนฟันครั้งแรกอยู่ดูแล เลือดไม่ออกมาก พอตนกลับมาพักที่บ้าน แพทย์ได้ถอนฟันให้กับนายสมศักดิ์อีกครั้ง ครั้งนี้เลือดไหลออกมาก ห้ามเลือดก็ไม่อยู่ ตกใจและเสียใจมาก กับการจากไปของสามี

เดลินิวส์
26 พ.ค.2566

[story]

ตาวัย 64 ปี สิ้นใจสลด หลังนอนรักษาตัวที่ รพ. หมอบอกติดเชื้อในกระแสเลือด ก่อนถอนฟัน 12 ซี่ 2 วันติด เลือดไหลไม่หยุด เมียช็อกเล่าทั้งน้ำตา

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว จ.สิงห์บุรี ได้รับแจ้งจากญาติของนายสมศักดิ์ คุ้มครอง อายุ 64 ปี ชาวบ้าน หมู่ 9 ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ที่เสียชีวิต หลังไปถอนฟัน 12 ซี่ โดยนำศพมาบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาการเปรียญ วัดสะเดา ต. แม่ลา อ.บางระจัน

น.ส.แปลก คุ้มครอง ญาติของนายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสมศักดิ์ไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.สิงห์บุรี ได้ 10 วัน จากนั้นได้ไปถอนฟัน 2 ครั้ง ติดกัน 2 วัน รวมทั้งหมด 12 ซี่ แต่ครั้งที่ 2 มีเลือดไหลไม่หยุด จนไม่มีแรงจะกัดผ้าก๊อซ รวมฟันทั้งหมดที่ถูกถอนไป 12 ซี่

น.ส.แปลก กล่าวต่อว่า แปลกใจมาก เกิดมาไม่เคยถอนฟันมาก และติดต่อกันถึงขนาดนี้ ก่อนจะเข้าโรงพยาบาล นายสมศักดิ์ยังเดินทางไปดีๆ ไม่มีทีท่าจะเจ็บป่วยรุนแรง รู้สึกเสียใจที่ต้องเสียญาติไป และยังคาใจกับสาเหตุการเสียชีวิต

ด้านนางบุญเรือง แสงวันทอง ภรรยาของนายสมศักดิ์ เล่าทั้งน้ำตาว่า หมอระบุว่า สามีมีอาการปอดติดเชื้อ ขาดสารอาหาร และติดเชื้อในกระแสเลือด จึงต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ต่อมาแพทย์ให้สามีไปตรวจฟันและถอนฟัน

นางบุญเรือง กล่าวต่อว่า ครั้งแรกตนยังอยู่ดูแล พบเลือดไม่ออกมาก พอตนกลับมาพักที่บ้าน ทราบว่าแพทย์ได้ถอนฟันให้สามีอีกครั้ง ครั้งนี้เลือดไหลออกมาก ห้ามเลือดก็ไม่อยู่ กระทั่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 พ.ค. ตนตกใจและเสียใจมากที่สูญเสียสามี

ข่าวสด
26พค2566

[story]

ลูกสาวลุง 64 ที่หมอถอนฟัน 12 ซี่ คาใจ ก่อนพ่อดับให้กัดแต่ผ้าก๊อซ ปล่อยรอไม่มีหมอมา

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 27 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปวัดสะเดา อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ที่ตั้งบำเพ็ญศพ นายสมศักดิ์ คุ้มครอง ที่เสียชีวิตจากกรณีถอนฟัน 12 ซี่ แล้วเลือดไหลไม่หยุด

ผู้สื่อข่าวทราบว่าทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีจะเข้ามาที่วัด แต่พอเดินทางไปถึงทางเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธการให้ข้อมูล ได้แต่เพียงนำพวงหรีดมาให้ และขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ตาย บอกให้รอทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลแถลงข่าวเท่านั้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามอีกครั้งกับ น.ส.ฉันทนา คุ้มครอง ลูกสาวผู้ตาย ที่นอนเฝ้าอาการป่วยของพ่อ เล่าให้ฟังว่า ทางโรงพยาบาลได้นัดพ่อเข้าทำการรักษาตัวโรคตับแข็ง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ทางผู้ตายลืมดูใบนัดก็เลยได้ไปโรงพยาบาลในวันที่ 12 พฤษภาคมแทน และก็ให้นอนแอดมิตประมาณ 10 กว่าวัน พอถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าติดเชื้อ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อจนครบประมาณวันที่ 28 พฤษภาคม

จนมาถึงวันที่ 23 พฤษภาคม ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าผู้ตายมีฟันผุ 12 ซี่ ต้องไปถอนฟัน ถอนรอบแรก 7 ซี่ รอบสองอีก 5 ซี่ รวมเป็น 12 ซี่ มีความคาใจว่าทำไมถึงให้ถอนเยอะขนาดนั้น เพราะคนเราปกติ 2 ซี่ก็แทบจะไม่ไหวแล้ว และพ่อไม่ค่อยสบายไม่มีแรงแบบนี้ทำไมถึงต้องถอนขนาดนี้ จากนั้นเลือดพ่อก็ไหลตลอดทั้งคืน ก็เลยได้ไปตามพยาบาลมา พยาบาลก็บอกให้ผู้ตายกัดผ้าก๊อซอย่างเดียว แล้วก็บอกให้รอก่อนตามหมอเวรให้แล้ว จนถึงเวลาสี่ทุ่มกว่าก็ไม่มีหมอมา มีแต่พยาบาลเอาผ้าก๊อซใส่ยายัดไว้ พอยัดไปจนเต็มปาก พ่อก็ได้ขย้อนออกมา

ลูกสาวเล่าต่อว่า ทางพยาบาลบอกให้ยัดกลับไป เพราะตัวยาห้ามเลือดตัวนี้แพง ซึ่งคำพูดของพยาบาลดังกล่าว ลูกสาวผู้ตายบอกว่า เป็นคำพูดที่ไม่ค่อยดี จนลูกสาวสังเกตอาการพ่อว่าพอยัดผ้าก๊อซเข้าไปพ่อเขาไม่ยอมอ้าปาก อาการเหมือนจะไม่ไหวแล้ว ยังระบายอีกว่า ถ้าเห็นพ่ออาการเลือดไหลขนาดนี้ ทำไมไม่กระตือรือร้นในการรักษา จะให้กัดแต่ผ้าก๊อซอย่างเดียว จนคืนนั้นทั้งคืน พ่อได้บอกว่าไม่ไหวแล้วๆ

สำหรับวันนี้ ทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีได้นำพวงหรีดมาให้และขอแสดงความเสียใจ และได้นำเอกสารให้รับเงินเยียวยามาให้เซ็นและนำไปยื่นที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี แล้วทางโรงพยาบาลจะส่งต่อไปให้ทางสาธารณสุข จากนั้นสาธารณสุขจะส่งเรื่องไปยัง สปสช.เพื่อขอรับเงินเยียวยา และคืนนี้ทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีจะมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ส่วนการชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีให้รอผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรีแถลงข่าวต่อไป

27 พฤษภาคม 2566
มติชน

[story]

รพ.สิงห์บุรี แจงแล้ว เหตุถอนฟัน 12 ซี่ ผู้ป่วยสิ้นใจ ไล่ไทม์ไลน์การรักษา ญาติรับรู้ ไม่ติดใจแล้ว พร้อมเยียวยาครอบครัว

จากกรณี นายสมศักดิ์ คุ้มครอง อายุ 64 ปี ชาวบ้าน ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ที่เสียชีวิตหลังไปถอนฟัน 12 ซี่ ในเวลา 2 วัน ระหว่างนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ลูกสาวเล่าพ่อสุดทรมาน เลือดไหลออกมา ไม่มีแม้แต่แรงกัดผ้าก๊อซ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค.66 ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี นายโชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี และ นพ.สุรัตน์ ส่งวิรุฬห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของ นายสมศักดิ์ โดยใบมรณบัตรระบุ เสียชีวิต ติดเชื้อในกระแสเลือด ญาติผู้เสียชีวิตคาใจในเรื่องถอนฟัน 12 ซี่ ในเวลา 2 วัน โดยมีภรรยา ลูกสาว พร้อมญาติๆ มาร่วมฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

นพ.สุรัตน์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการสูญเสียของครอบครัวของ นายสมศักดิ์ ทางคณะผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะดำเนินการต่างๆ เพราะในช่วงแรกเป็นการดำเนินการภายใน ทางโรงพยาบาลเลยไม่ได้แถลงข่าวในเบื้องต้น เนื่องจากต้องรวบรวมข้อมูลเอกสารจากทางเวชระเบียนเกี่ยวกับการรักษาตัวของ นายสมศักดิ์ จำนวนมาก เพื่อให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง

และทางโรงพยาบาลได้ดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ได้มารับการรักษาเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลจำนวน 6 ครั้ง ด้วยโรคต่างๆ ที่เป็นตั้งแต่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง มีเกลือแร่ที่ผิดปกติ มีซีดจากโรคเรื้อรัง มีน้ำในช่องท้อง ปอดอักเสบ เคยมีอุบัติเหตุทางสมอง ศีรษะด้วย มีตับแข็ง ไข้สูงเฉียบพลัน การคลั่งของเสียในไต ทางโรงพยาบาลรักษาจนอาการดีขึ้นสามารถกลับบ้านและรับยาไปทานต่อเนื่อง

สุดท้ายคือ ช่วงหลังสงกรานต์ วันที่ 16 – 26 เม.ย. คนไข้ก็เข้ามารักษาอีกครั้ง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าติดเชื้อในกระแสโลหิต และโรคประจำตัวที่เคยเป็น รักษาจนอาการดีขึ้นจนกลับบ้านได้ และมียารักษาต่อเนื่อง ก่อนนัดให้มาอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. คนไข้ก็มาตามนัด ตรวจพบว่ามีอาการอ่อนเพลีย และมีความผิดปกติที่เกี่ยวข้องคือ ไต และเกลือแร่ต่างๆ จึงได้แจ้งให้ญาติทราบว่าจะต้องให้ นายสมศักดิ์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ตรวจพบมีการติดเชื้อในกระแสโลหิต มีน้ำในช่องท้องและไตวายเฉียบพลัน เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ซีดจากการขาดธาตุเหล็ก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง รักษาจนดีขึ้น

วันที่ 15 พ.ค. ผู้ป่วยมีไข้ ผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นลบ อ่อนเพลีย รับประทานอาหารได้ลดลง เริ่มสับสนทางสมองจากโรคตับแข็ง รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ อาหารทางสายยาง เลือดและเกลือแร่ต่างๆ จนสามารถรับประทานอาหารทางปากได้ด้วยตนเอง วันที่ 22 พ.ค. แพทย์ตรวจพบฟันผุหลายซี่ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสโลหิต วันที่ 23 พ.ค. แพทย์ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินการติดเชื้อในช่องปาก พบว่าผู้ป่วยมีฟันผุลึกทะลุโพรงประสาทฟัน ฟันตาย โรคปริทันต์อักเสบรวม 16 ซี่ จึงพิจารณากำจัดสาเหตุการติดเชื้อ ลดสภาวะการติดเชื้อ และลดโอกาสการดำเนินโรคที่จะรุนแรงมากขึ้น

โดยวางแผนถอนฟันทั้งหมด 16 ซี่ ภายใต้ยาชาเฉพาะที่ 2 ครั้ง โดยอธิบายแผนการรักษาให้ผู้ป่วยทราบโดยตรงขณะที่มีสติสัมปชัญญะดี และผู้ป่วยยินยอมรักษา ถอนฟันครั้งแรก 4 ซี่ หลังถอนฟัน ไม่มีเลือดออก ต่อมาวันที่ 24 พ.ค. แพทย์ได้ตรวจเลือดเพื่อประเมินระดับเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือดก่อนการถอนฟัน ผลเลือดปกติโดยมีภาวะซีด จึงให้เลือด 1 ถุงก่อนถอนฟัน ทันตแพทย์ฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด ถอนฟันที่เหลือและเย็บปิดแผลถอนฟันเพื่อห้ามเลือด ให้ผู้ป่วยกัดผ้าก๊อซนาน 2 ชั่วโมง สังเกตอาการที่แผนกทันตกรรม 30 นาที ไม่พบเลือดออกผิดปกติในช่องปาก จึงส่งผู้ป่วยกลับหอผู้ป่วย เวลา 18.15 น. ผู้ป่วยรู้สึกตัวดีพูดคุยตอบคำถามได้ แต่มีเลือดออกซึมจากแผลถอนฟัน

แพทย์เวรจึงปรับการรักษาโดยให้ผู้ป่วยกัดผ้าก๊อซที่ชุบยาช่วยห้ามเลือดบริเวณที่ถอนฟัน แนะนำว่าหากผ้าก๊อซเปียกชุ่ม ให้แจ้งพยาบาลเพื่อเปลี่ยนใหม่ให้ จากนั้น เวลา 22.00 น. พยาบาลเข้าเยี่ยม ผู้ป่วยบ้วนผ้าก็อซมีลิ่มเลือดหลุดออกมา แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางจึงต้องปรับการรักษาโดยเพิ่มยาห้ามเลือดชนิดฉีด ชนิดกิน และชนิดกลั้วปาก หลังจากนั้นเลือดที่ซึมจากแผลลดลง อาการทั่วไปคงที่ จนเวลา 23.30 น. พยาบาลเห็นเลือดที่ผ้าก๊อซเริ่มแข็งตัวและไม่เพิ่มจากเดิม จึงได้ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อโรคและน้ำเกลือเพิ่มเติม วันที่ 25 พ.ค. 2566 เวลา 2.00 น. พยาบาลประเมินผู้ป่วย รู้สึกตัวดี สื่อสารได้ ในช่องปากไม่มีเลือดซึมเพิ่มเติม

และเวลา 06.00 น. พยาบาลไปเจาะเลือด ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยดี ผ้าก๊อซมีเลือดอยู่ตรงกลางไม่เต็มแผ่น ค่าความดันโลหิตลดลงเล็กน้อย ชีพจรเต้นเร็วเล็กน้อย พยาบาลจึงให้ออกซิเจนทางรูจมูก ฉีดยาปฏิชีวนะและสารน้ำเพิ่มเติมตามแผนการรักษา เวลา 07.00 น. ผู้ป่วยบอกหายใจไม่สะดวก เริ่มซึมลง มีเลือดซึมออกมาจากปาก วัดค่าความเข้มข้นของออกซิเจนที่ปลายนิ้วพบว่าต่ำกว่าปกติ จึงรีบให้ออกซิเจนผ่านทางหน้ากากจนกลับมาปกติ สังเกตอาการใกล้ชิด อธิบายญาติทราบข้อมูล ปรึกษาหารือเรื่องแนวทางการรักษาและพยากรณ์โรค

ญาติตัดสินใจแสดงความประสงค์ตามเนื้อหา ในหนังสือแสดงเจตนาขอเลือกรับบริการทางการแพทย์ในวาระสุดท้ายของชีวิตเพื่อขอจากไปตามวิถีธรรมชาติ โดยไม่ต้องการใส่ท่อช่วยหายใจ/การใช้เครื่องช่วยหายใจ การเจาะคอ การช่วยฟื้นคืนชีพเมื่อหัวใจหยุดเต้น (กดหน้าอกปั๊มหัวใจ) และการใช้ยาเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต จนเวลา 08.00 น. ญาติผู้ป่วยแจ้งว่า ผู้ป่วยเรียกไม่รู้สึกตัว หายใจหอบ มีเลือดออกทีปากและจมูก รีบรักษาโดยจัดท่าให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น ดูดเสมหะและเลือดในช่องปากออก

รายงานแพทย์และให้การรักษาแบบประคับประคองตามแนวทางที่ญาติผู้ป่วยต้องการ เวลา 08.30 น.ผู้ป่วยถึงแก่กรรม ด้วยสาเหตุ การติดเชื้อในกระแสโลหิต โดยมีโรคร่วมอื่นๆ ได้แก่ ภาวะตับแข็ง โรคถุงลมโป่งพอง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฟันผุทะลุถึงโพรงประสาทฟัน ฟันตายและโรคปริทันต์อักเสบ

โดยทางโรงพยาบาลได้ทำเรื่องเตรียมเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิต ส่งเอกสารไปทางสาธารณสุข จากนั้นสาธารณสุขก็จะส่งเรื่องไปยัง สปสช.เพื่อขอรับเงินเยียวยา ส่วนทางญาติผู้เสียชีวิตหลังได้ฟังคำชี้แจงก็มีความเข้าใจและไม่ติดใจใดๆ

29 พ.ค.2566
ข่าวสด