ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ใช่แค่อารมณ์ แต่มันคือโรคร้าย!! “ภาวะ Dead Inside” ไม่สุข-ไม่ทุกข์-ไม่รู้สึก  (อ่าน 87 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ไม่ยินดียินร้าย ไม่ใช่ปล่อยวางในแง่ดี แต่กลับเป็นภาวะ “ตายจากข้างใน” ใช้ชีวิตเพียงร่าง แต่จิตวิญญาณกลับรู้สึกว่างเปล่า อีกหนึ่งภาวะที่จิตแพทย์ยืนยันว่า “น่ากลัว” พอๆ กับ “โรคซึมเศร้า” เลยทีเดียว

เช็กตัวเองดีๆ กำลัง “สิ้นยินดี” หรือเปล่า?

“ไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่รู้สึกอะไรเลย และชีวิตช่างว่างเปล่า” ถ้าใครกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ นี่ไม่ใช่การตรัสรู้แน่ๆ แต่อาจเจอเข้ากับภาวะ “Dead Inside” การตายจากข้างในหรืออีกชื่อหนึ่ง “สภาวะสิ้นยินดี”

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือสภาวะทางอารมณ์ที่เราไม่รู้สึกทุกข์หรือสุขใดๆ กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มีเพียงความเฉยชาและรู้สึกว่าชีวิตนั้นว่างเปล่า

สิ่งที่บ่งบอกว่าเรากำลังตกอยู่ในสภาวะ Dead Inside คือ รู้สึกไร้จุดหมาย ใช้ชีวิตไปวันๆ รู้สึกหมดแรงที่ลุกออกมาใช้ชีวิต เบื่อหน่ายกับสิ่งต่างๆ ที่เจอ และเริ่มตั้งคำถามกับชีวิต แนวๆ ที่ว่า “เราใช้ชีวิตอยู่เพื่ออะไร?”

ทั้งยังด้านชาทางความรู้สึก ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับสิ่งรอบตัว ใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ หนักไปถึงขั้นอ้างวางและโดดเดียว และเมื่อตกอยู่ในภาวะนี้นานๆ เข้า ส่วนใหญ่มักปลีกตัวออกจากสังคม อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับใครเหมือนเมื่อก่อนเท่าไหร่

อารมณ์แบบนี้อาจเข้ามาแล้วก็ผ่านไป เวลาที่จมอยู่กับมันมากน้อยไม่เท่ากัน แต่ถ้าหากเรามีอาการแบบนี้ติดต่อกันนานๆ เข้า ก็อาจนำไปสู่สิ่งที่แย่กว่านั้นได้

“เพราะด้านในจริงๆ แล้ว รู้สึกสิ้นหวัง”

นี่เป็นคำนิยามสั้นๆ จาก พ.ต.ท.หญิง พ.ญ.ดลนภา รัตนากร แพทย์เฉพาะทางด้านจิตเวชโรคสมอง จากคลินิก NSD NEURON ซึ่งช่วยอธิบายไว้ว่า “สภาวะสิ้นยินดี” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “Anhedonia”คืออาการทางความรู้สึกอย่างหนึ่ง

โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ “Social Anhedonia” คืออาการสิ้นดีทางสังคม ไม่อยากพบประผู้คน หรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และ “Physical Anhedonia” คืออาการทางร่างกาย ที่ไม่มีความสุขต่อสิ่งใดๆ จากการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการกินอาหาร หรือการอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น

“Anhedonia คืออาการที่เราไม่มีความสุขเลย ไม่สนุกกับการทำอะไรรอบๆ ตัว มันเป็นอารมณ์แบบไม่อยากทำอะไรเลย ไม่อยากกินอาหาร ไม่อยากคุยกับคนอื่น เป็นภาวะที่อยากอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย”

แล้วถ้าถามว่า เมื่อเราเริ่มจะมีสภาวะอารมณ์และอาการเหล่านี้ มันน่ากลัวหรือไม่ และจะนำเราไม่สู่โรคอะไรหรือเปล่า คุณหมอยืนยันกับทีมข่าวว่า “น่ากลัว”

“น่ากลัวค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนถึง ภาวะซึมเศร้า และจริงๆ แล้ว Anhedonia เป็นอาการหนึ่งของภาวะซึมเศร้า และ 50-60% ของผู้ป่วยซึมเศร้าจะมีอาการนี้”

“เครียด-กดดัน” เหตุผลเบื้องหลังDead Inside

เรื่องของ “Dead Inside” และ “สภาวะสิ้นยินดี” เริ่มเป็นที่พูดถึงมาสักพักหนึ่งแล้ว และเมื่อถามข้อมูลจากแพทย์หญิงท่านนี้ว่า มีคนเข้ามาปรึกษาเรื่องเยอะหรือเปล่า คำตอบที่ได้คือหลักร้อยต่อเดือน

“เยอะค่ะ เดือนนึงก็หลายร้อยคน ที่คลินิกเองก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน แต่สภาวะสิ้นยินดี ไม่ใช่ปัญหาว่าเป็นหรือไม่เป็น แต่จะเป็นปัญหาของระดับความรุนแรงในแต่ละคนมากกว่า ว่าจะเป็นน้อย เป็นมาก แตกต่างกันไป”

แล้วอะไรทำให้เกิดอาการเหล่านี้ แพทย์หญิงได้บอกถึงสาเหตุจริงๆ ว่า คล้ายกับอารมณ์ซึมเศร้า จะเกิดเหตุการณ์นี้ได้ เมื่อเริ่มมีปัญหาบางอย่างในชีวิตที่กระทบต่อจิตใจ ส่งให้สารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ

“สาเหตุคล้ายกับเรื่องอารมณ์ซึมเศร้าที่ต้องเกิดขึ้นซ้ำบ่อยๆ จนทำให้เคมีในสมองเราผิดปกติ มันเลยทำให้ความคิดและร่างกาย จากพอใจ มีควาสุขดี ก็เกิดเหนื่อยหน่าย ไม่รู้สึกอะไร ความต้องการรอบตัวลดลง”

จากการหาข้อมูลพบว่า สิ่งที่ทำเกิดความรู้สึกสิ้นยินดีมีได้หลายปัจจัย เช่น ภาวะซึมเคร้า เป็นโรคทางอาการมณ์ที่พบได้บ่อย และอาการเด่นอย่างหนึ่งคือ ความรู้สึกว่างเปล่า ซึ่งก็เป็นอารมณ์แบบเดียวกับ Dead Inside แปลว่าถ้าเราพบอาการนี้เราอาจเป็น “ภาวะซึมเศร้า” แล้วก็ได้

และอีกอย่างที่อาจทำให้เกิดสภาวะนี้คือ Post-traumatic stress disorder (PTSD) โรคเครียดหลังจากได้ประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจ ทำให้เกิด ฝันร้าย วิตกกังวล และอาจเป็นที่มาของภาวะสิ้นยินดีได้เหมือนกัน

ทั้งนี้คุณหมอยังบอกอีกว่า ภาวะสิ้นยินดียังเกิดได้จากความเครียด และแรงกดดันจากงานและเรื่องต่างๆรอบตัว อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการใช้สารเสพติด หรือยาที่มีผลต่อสมองเยอะๆก็ทำให้สภาวะนี้ได้เหมือนกัน

“ในกลุ่มคนที่ใช่สารเสพติดพวก แอมเฟตามีน(ยาบ้า) โคเคน หรือแม้กระทั่งกัญชาก็เอง ในช่วงแรกมันอาจจะโอเคมีความสุข แต่พอเมื่อสารสื่อประสาทในสมอง มันถูกกวนและใช้งานเยอะๆ สารความสุขมันหายไปหมด คนๆนี้ก็เกิดภาวะสิ้นยินดีได้”

คุณหมอ ยังได้บอกถึงวิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ ว่าเรากำลังเผชิณกับอาการเหล่านี้อยู่หรือเปล่า จริงอยู่ที่อาการและอารณ์เหล่านี้เข้ามาแล้วก็ผ่านไป

แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ติดต่อกันนานกว่า 2 อาทิตย์ และรู้สึกแบบนี้ทั้งวันคือ ไม่มาความสุขกับสิ่งรอบตัวเลยอยากจะแยกตัวออกจากสังคม ไม่อยากพบปะกับใคร ร่างกายไม่ค่อยมีแรงที่จะทำอะไรเลย หรือทำอะไรก็ต้องฝืนทำ รู้สึกสิ้นหวังและเริ่มความคิดในแง่ลบตลอด ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์

“Dead Insideหรือสภาวะสิ้นยินดี มันเริ่มจากการเป็นเพียงแค่อารมณ์และความรู้สึกก่อน แต่มันสามารถนำไปสู่อาการเจ็บป่วยในเรื่องของ อารมณ์ซึมเศร้าได้ แนะนำว่าถ้าเริ่มรู้ตัวก็ควรหาแพทย์ปรึกษาและรักษาอย่ารอให้อาการหนัก เพราะถ้าอาการยังไม่หนักมากก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้”

17 พ.ค. 2566  ผู้จัดการออนไลน์