สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า อุณหภูมิของมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนที่แล้ว คือความผิดปกติ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนยังไม่สามารถอธิบายได้
ข้อมูลเปรียบเทียบโดยองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นโอเอเอ) หรือชุดข้อมูลที่เรียกว่า การประเมินค่าสูงสุดด้านอุณหภูมิพื้นผิวทะเล หรือ โอไอเอสเอสที (Optimum Interpolation Sea Surface Temperature : OISST) ซึ่งรวบรวมโดยดาวเทียมและทุ่นลอยน้ำ เผยให้เห็นถึงอุณหภูมิที่สูงกว่าปีก่อนหน้า ย้อนกลับไปจนถึงปี 2524 ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 42 วันที่ผ่านมา
มหาสมุทรที่ร้อนขึ้นสร้างความกังวลในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การรุกล้ำของน้ำทะเล, ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, น้ำอุ่นในภูมิภาคขั้วโลกที่เร่งการละลายครอบน้ำแข็ง รวมถึงผลกระทบร้ายแรงต่อระบบนิเวศทางทะเล เนื่องจากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ อาจปรับตัวได้ยาก หรือไม่สามารถปรับตัวได้
ทั้งนี้ มหาสมุทรทำหน้าที่เป็นเหมือนกันชนของโลก ต่อวิกฤติสภาพอากาศในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลในชั้นบรรยากาศ และการกักเก็บพลังงานกับความร้อนส่วนเกินประมาณ 90% เพื่อลดผลกระทบบางส่วนของภาวะโลกร้อนบนบก
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางคนกลัวว่า ความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นสัญญาณวิกฤติสภาพอากาศที่ดำเนินไปในอัตราที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และโลกอาจกำลังถึงขีดจำกัดความสามารถของมหาสมุทร ในการดูดซับความร้อนส่วนเกินเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศยังกล่าวเตือนว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากเอ็นโอเอเอ แสดงให้เห็นว่า อุณหภูมิเฉลี่ยที่พื้นผิวมหาสมุทรอยู่ที่ 21.1 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 21 องศาเซลเซียส ในปี 2559.
เดลินิวส์
2พค2566
