ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟเซอร์รับไม่เคยทดสอบเรื่องยับยั้งการแพร่ระบาดของวัคซีน ชี้ไม่มีข้อบังคับ  (อ่าน 214 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า มีการแชร์ภาพวิดีโอในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของไฟเซอร์ บริษัทยาชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ท่านหนึ่งออกมายอมรับกับรัฐสภายุโรป ขณะให้การถึงความโปร่งใสในการเจรจาจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ระหว่างสหภาพยุโรปและไฟเซอร์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่า ไฟเซอร์ไม่เคยทดสอบวัคซีนของทางบริษัทในเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนนำวัคซีนออกวางจำหน่าย

ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียหลายบัญชีได้แชร์วิดีโอคำให้การของ จานีน สมอล ประธานการตลาดระหว่างประเทศของบริษัทไฟเซอร์ ตอบคำถามของนายร็อบ รูส์ สมาชิกรัฐสภายุโรปชาวเนเธอร์แลนด์ ถึงคำถามที่ว่า ไฟเซอร์เคยทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในการหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนออกสู่ตลาดหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้จากสมอล คือ ไฟเซอร์ไม่เคยทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในการหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนออกวางจำหน่าย เพราะเราต้องทำงานด้วยความเร็วตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากขณะนั้นไวรัสได้แพร่กระจายไปทั่วโลก

ด้านนายรูส์ ผู้ยิงคำถามในวิดีโอดังกล่าวก็ได้โพสต์ข้อความในบัญชีทวิตเตอร์ของตนเองเช่นกันว่า ด่วน ในการประชุมเรื่องโควิด ผู้อำนวยการของไฟเซอร์ยอมรับว่า วัคซีนของไฟเซอร์ไม่เคยถูกทดสอบในการหยุดการแพร่ระบาด “เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อคนรอบข้าง” เป็นเรื่องโกหก จุดประสงค์เดียวของวัคซีนพาสปอร์ตคือบังคับให้ทุกคนไปเข้ารับการฉีดวัคซีน โลกต้องรู้เรื่องนี้ แชร์วิดีโอนี้เลย!

ทั้งนี้ ไฟเซอร์ไม่เคยออกมากล่าวว่าการทดลองทางคลินิกของวัคซีนดังกล่าว ซึ่งทำให้วัคซีนได้รับอนุญาตให้มีการใช้งานจริง มีการประเมินถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในวัคซีนที่บริษัทจำหน่าย โดยนายโรเบิร์ต บัวร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ ย้ำก่อนหน้าการกระจายวัคซีนว่า ประเด็นดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการประเมิน ขณะที่ผลของการวิจัยของไฟเซอร์ระบุเพียงว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มจะช่วยลดการติดเชื้อไวรัสได้ 95% ในคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น

โฆษกของไฟเซอร์ยืนยันว่า การทดลองทางคลินิกมีขึ้นเพียงแค่ประเมินประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันการป่วยหนักเท่านั้น เรื่องการหยุดยั้งการแพร่ระบาดไม่ได้อยู่ในประเด็นการวิจัย ขณะที่บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลด้านยา เช่น องค์การยาของยุโรป หรืออีเอ็มเอ ไม่ได้ขอให้บริษัทไฟเซอร์แจ้งผลของความสามารถในการการลดการติดเชื้อของวัคซีนในการยื่นขอใบอนุญาตทางการตลาด เช่นเดียวกับองค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ ไม่ได้บังคับให้ไฟเซอร์ต้องส่งผลของประสิทธิภาพที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีต่อการลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นกัน

สอดคล้องผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ก็ได้ออกมาบอกเช่นกันว่า การที่ไฟเซอร์ไม่ได้แจ้งถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการลดการแพร่ระบาดในขั้นตอนการทดลองทางคลินิกไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากการที่จะประเมินประสิทธิภาพในการลดการแพร่ระบาดมีตัวชี้วัดที่ซับซ้อนและเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก

มติชน
17ตค2565