ผู้เขียน หัวข้อ: ม.ขอนแก่นปัดจ่ายเยียวยา 66 ล้าน นศ.แพทย์ถูกบัสชนดับ ยันจะจ่ายก็ต่อเมื่อศาลสั่ง  (อ่าน 213 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แม่ “น้องอาย” นักศึกษาแพทย์ถูกบัสคณะพยาบาลชนเสียชีวิตผิดหวัง ม.ขอนแก่นปฏิเสธจ่ายเยียวยา 66 ล้านบาทตามที่ครอบครัวเสนอไป แนะให้ฟ้องศาลเอาเอง หากตัดสินให้จ่ายก็พร้อมจ่าย
เผยแม้ใช้เวลาต่อสู้คดียาวนานก็ต้องทำ โดยจะฟ้องทั้ง ม.ขอนแก่นและคณะพยาบาลฯ ต้นสังกัดคนขับรถบัส

จากกรณี น.ส.อรุณนภา วัฒนพานิช หรือน้องอาย อายุ 19 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกรถบัสของคณะพยาบาลศาสตร์ มข.ชนเสียชีวิต บริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ ขณะขับขี่จักรยานยนต์ไปเรียนเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ นางนิตยา รุ่งสถิต อายุ 55 ปี มารดาของน้องอาย และทนายความ ได้เจรจาขอรับค่าชดเชยกับทางตัวแทนของมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนเงิน 66 ล้านบาท โดยประเมินจากกรณีเรียนจบเป็นแพทย์ตั้งแต่อายุ 25 ปี จนถึงเกษียณราชการ อายุ 60 ปี ค่าจ้างวันละ 5,000 บาท

ซึ่งผลการเจรจายังไม่สามารถตกลงกันได้ ทางตัวแทน ม.ขอนแก่นได้ขอนำข้อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยเพื่อลงมติ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ย.) เวลา 14.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นได้นัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น

โดยนางนิตยา รุ่งสถิต มารดาของน้องอาย พร้อมด้วยญาติๆ ได้เดินทางมาตามนัด ขณะที่ ม.ขอนแก่นได้ส่ง รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ผศ.ดร.พักตร์วิไล ศรีแสง คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ว่าที่ ร้อยตรี สุวิต ผิวพันคำ ผู้อำนวยการกองบริหารงาน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นตัวแทนเจรจา โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพและร่วมรับฟังในช่วงเจรจาไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยภายหลังออกจากห้องประชุมนางนิตยาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยสรุปแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตน ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นแสดงท่าทีออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถจ่ายชดเชยค่าสินไหมตามที่เรียกไปเป็นเงินจำนวน 66 ล้านบาทได้ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เหตุผลว่าไม่มีอำนาจในการเบิกจ่ายโดยตรง เพราะอาจจะผิดระเบียบของสภามหาวิทยาลัย โดยทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ทางครอบครัวเป็นฝ่ายยื่นดำเนินการเองด้วยการยื่นเรื่องฟ้องศาลในคดีแพ่ง

ให้ฟ้องทั้งเรื่องค่าชดเชยการเสียชีวิตของน้องอาย และค่าเสียเวลา ค่าดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสิน ขณะเดียวกันทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบในคดีนี้โดยตรง หากมีการตัดสินคดีเสร็จเรียบร้อย และศาลพิจารณาเห็นว่าให้ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นจ่ายเท่าไหร่ ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นถึงจะดำเนินการจ่ายให้กับครอบครัวได้ ซึ่งตนเองมองว่าจะทำให้เรื่องยืดเยื้อ กินระยะเวลาไปอีกนาน เพราะกว่าจะมายื่นเรื่อง กว่าศาลจะนัดไต่สวน ไกล่เกลี่ย พิจารณาคดี ใช้เวลานานหลายปี

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะใช้เวลานานสักแค่ไหน ทางครอบครัวก็จะเดินหน้ายื่นเรื่องฟ้องร้องแน่นอน โดยจะมีการแต่งตั้งทนายเพื่อดำเนินการฟ้องร้องทันที ทั้งคณะพยาบาลศาสตร์ มข.ที่คนขับรถทำงานอยู่ และทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนในเรื่องของคดีอาญา ตนเองยังไม่ทราบข้อกฎหมายดีนัก อาจจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องแทน

คุณแม่น้องอายยังบอกอีกว่า นอกจากนี้การไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ครั้ง พวกตนฝ่ายผู้สูญเสียก็ยังคงได้คำตอบเดิม คือ ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นไม่สามารถตัดสินใจและจ่ายค่าชดเชยตามที่เรียกไปได้ เพราะถ้าหากจะมีการไกล่เกลี่ยกันเป็นครั้งที่ 3 ก็จะได้คำตอบเดิม ฉะนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำให้ดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องร้องน่าจะดีกว่า โดยทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวน เพื่อส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาก่อนวันที่ 25 กันยายน 2565

5 ก.ย. 2565  ผู้จัดการออนไลน์