ทีมอัยการรัฐฟลอริดาแถลงว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 ศาลตัดสินให้ ชีลา โอเลียรี หญิงสาวจากเมืองเคป คอรัล มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาว่าฆาตกรรมโดยเจตนา และต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต หลังจากที่ เอซรา ลูกชายวัย 18 เดือนของเธอเสียชีวิตลง เนื่องจากภาวะทุพโภชนาการและมีภาวะขาดน้ำ เมื่อปี 2562
ชีลา และ ไรอัน โอเลียรี สามีของเธอ ให้การแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนว่า ครอบครัวของพวกเขากินแต่อาหารประเภทผักและผลไม้ที่ไม่ผ่านการปรุง ตามความเชื่ออย่างสุดโต่ง ที่พวกเขาอ้างว่าคือแนวการกินแบบมังสวิรัติ
พวกเขาอ้างว่า เอซรา ได้ดื่มน้ำนมแม่ แต่กลับปิดบังเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้ให้เด็กชายดื่มนมแม่เป็นเวลาราว 1 สัปดาห์ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
ทีมอัยการของรัฐระบุว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่า เด็กชายเสียชีวิตเนื่องจากเกิดอาการป่วยแทรกซ้อน ขณะที่อยู่ในภาวะทุพโภชนาการและมีภาวะร่างกายขาดน้ำ นอกจากนี้ ลูก ๆ อีก 3 คน ของครอบครัว โอเลียรี ซึ่งมีอายุ 3 ขวบ, 5 ขวบ และ 11 ขวบ ก็ตกอยู่สภาพที่โดนพ่อแม่ละเลยและละเมิดสวัสดิภาพของเด็ก
ชีลา โอเลียรี ได้รับการตัดสินให้รับโทษจำคุก 30 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก และอีก 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรมเด็กชาย นอกจากนี้เธอยังต้องรับโทษจำคุกอีก 5 ปี ในข้อหาละเลยและทำร้ายร่างกายเด็ก
ส่วนสามีของเธอนั้นยังคงรับโทษอยู่ในเรือนจำในข้อหาเดียวกัน โดยมีข้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์เพิ่มด้วยอีก 2 กระทง
อนึ่ง แนวทางการกินอาหารแบบมังสวิรัติไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายต่อสุขภาพ เพียงแต่จะต้องดูแลเรื่องการกินอาหารเสริมเพื่อชดเชยสารอาหารที่ร่างกายอาจได้รับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ๆ
จากกรณีศึกษาในปี 2564 พบว่าเด็ก ๆ ที่กินมังสวิรัติมีแนวโน้มที่จะมีหัวใจแข็งแรงกว่าเด็กที่ไม่กิน แต่กลับมีความเติบโตทางร่างกายน้อยกว่า ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เนื่องมาจากการขาดวิตามินที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายในวัยเด็ก เช่น วิตามินบีและวิตามินดี
แหล่งข่าว : insider.com
เดลินิวส์
3กย2565
