ผู้เขียน หัวข้อ: รพ.เรียกเก็บ 1.6 หมื่นบาท ค่ารักษาโควิดเด็ก 9 เดือน ผอ.แจงไม่มี UCEP - เบิกสปสช.  (อ่าน 271 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
กรณีการรักษาโควิด-19 แม้รัฐบาลจะมีกฏเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่ก็พบปัญหาต่อเนื่อง ล่าสุดเด็กทารก 9 เดือน มีไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส มีอาการจนชักเกร็ง ไปโรงพยาบาลแห่งแรก ตรวจไม่เจอเชื้อ ให้รักษารวมกับเด็กติดโควิด พ่อรีบพาไปโรงพยาบาลที่สอง แจ้งรัฐยกเลิกยูเซ็ปโควิดไปแล้ว ต้องจ่ายค่ารักษาเอง 16,000 กว่าบาท เพจสายไหมต้องรอดถาม ใครจะรับผิดชอบ

เพจ สายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุถึงเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งเป็นทารกอายุ 9 เดือน ซึ่งมีไข้สูง 39-40 องศา พ่อพาไปรักษาพยาบาล แต่กลับเจอปัญหาติดขัดเต็มไปหมด เริ่มจากเย็นวันที่ 5 เมษายน เด็กคนนี้ มีไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส เช็ดตัวไข้ไม่ลด ระหว่างนั่งรถไปโรงพยาบาลมีอาการ ชักเกร็งกระตุกรุนแรง คุณพ่อคุณแม่ ได้พาไป โรงพยาบาลที่ 1 ย่านอนุสาวรีย์ชัย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล

มีการตรวจ ATK ไม่พบติดโควิด แต่โรงพยาบาลแจ้งว่า ห้องปกติเต็มหมด ต้องรักษารวมกับเด็กที่ติดโควิด คุณพ่อคุณแม่จึงตัดสินใจไม่รักษาที่นี่ พาไปโรงพยาบาลที่ 2

ระหว่างทาง มาโรงพยาบาลที่ 2 น้องมีอาการชักขึ้นมาอีกครั้ง ไข้สูง ทางโรงพยาบาลพาเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจโควิดพบติดเชื้อ ได้แนะนำให้พาน้องไปรักษาที่ โรงพยาบาลตามสิทธิ เพราะหากรักษาที่นี่ต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 16,553 บาท คุณพ่อคุณแม่จึงติดต่อปรึกษาทีมสายไหมต้องรอด

ทีมสายไหมต้องรอด จึงได้ประสานไปยัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ 2 เพื่อขอให้เรียกเก็บจาก สปสช.ได้หรือไม่ ผู้อำนวยการระบุว่า ค่าใช้จ่ายดังกล่าว ทาง รพ.ไม่สามารถเรียกเก็บจาก สปสช ได้ เนื่องจากมีการยกเลิก UCEP COVID ไปแล้ว  หากจะเรียกเก็บจาก สปสช. ทางโรงพยาบาลจะต้องส่งเรื่องขออนุมัติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีเกณฑ์รายละเอียดที่ยุ่งยากมาก และเคสนี้อาจจะไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสามารถเบิกได้ แต่ตนสงสารจึงช่วยค่ารักษา 5,000 บาท ซึ่งเหตุให้  ทีมสายไหมต้องรอด ตั้งคำถามว่า เคสแบบนี้ มีค่าใช้จ่ายแบบนี้ จริง ๆ ใครต้องรับผิดชอบ

ทีมข่าว PPTV ก็เลยโทรไปสัมภาษณ์ นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ระบุว่า เคสนี้เข้าข่ายผู้ป่วยสีแดง ตามเกณฑ์ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินกำหนดไว้ คือ มีไข้มากกว่า 39 องศาเซลเซียส ต้องรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ก็ขึ้นอยู่กับ การประเมินของแพทย์หน้างานด้วย เพราะไม่ได้เห็นว่าอาการของเด็กที่เกิด ณ วินาทีที่แพทย์วินิจฉัย มีอาการรุนแรงร้ายแรงเพียงใด

“ถ้าฟังและดูจากประวัตินี้ก็จะเข้าข่ายสีเหลืองขึ้นไปอยู่แล้ว ไข้สูงเกิน 39 องศา มีอาการชัก เพียงแต่ว่าเราไม่ได้อยู่หน้างาน แต่ถ้าถามเราจากตรงนี้ฟังจากตรงนี่เราก็ได้ข้อมูลแค่นี้ ก็ต้องดูว่าถ้าเราจะใช้วิจารณญาณ ในการที่เราเป็นแพทย์อยู่ตรงนั้น ก็น่าจะบอกว่าเป็นเหลืองได้ แต่เป็นเข้าข่าย UCEP PLUS ได้ อันนี้เราก็ต้องไปถามโรงพยาบาลด้วยว่า ข้อเท็จจริงตรงนี้เป็นอย่างไร มีการตรวจพบอย่างไร ต่าง ๆ เหล่านี้นะครับ อันนี้เราฟังจากตัวหนังสือที่เขียนเล่ามา” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า เคสแบบนี้ สปสช.เคยเจอ เพราะโรงพยาบาลเอกชนมองว่า กว่าจะเบิกจาก สปสช.ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ สปสช.ก็ขอยืนยันว่า จะจ่ายค่ารักษาให้รวดเร็ว ไม่ต้องกังวล สำหรับเคสนี้ ขอให้โรงพยาบาลที่เรียกค่ารักษา คืนเงินผู้ป่วย และเบิกเงินกลับมาที่ สปสช.ได้

6 เม.ย. 2565
https://www.pptvhd36.com/health/news/454