ผู้เขียน หัวข้อ: ด่วน! เกิดอุบัติเหตุรถพยาบาลของ รพ.อุ้มผางชนบรรทุกพ่วง บาดเจ็บ 4 คน รวมผู้ป่วย  (อ่าน 516 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
เกิดอุบัติรถบรรทุกกับรถพยาบาลของโรงพยาบาลอุ้มผาง เจ็บ 4 คน รวมผู้ป่วยในรถเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 14 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุถนนสาย อ.แม่สอด-อ.อุ้มผาง ทางหลวง1090 กม.15 บ้านห้วยผักหละ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จึงประสานกำลังหน่วยกู้ภัยมังกร หรือ มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ สาขาแม่สอด เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบรถโรงพยาบาลอุ้มผางจอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ไฟฉุกเฉินยังเปิดทิ้งไว้ ภายในรถยนต์พยาบาลมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 คนติดอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างจนสามารถนำออกมาได้ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลแม่สอด

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถพยาบาลของโรงพยาบาลอุ้มผาง กำลังนำผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อไปส่งโรงพยาบาลแม่สอด แต่ในระหว่างทางได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์บรรทุกพ่วง แต่ยังไม่ทราบว่า ชนกันด้วยสาเหตุใด ใครผิดหรือ ใครถูก ทางตำรวจแม่สอด จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง

14 มกราคม 2565
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3132655
...........................

รู้แล้ว รถพยาบาลอุ้มผางชนสนั่นรถพ่วง ใครถูกใครผิด เตรียมแจ้งข้อหา

จากกรณีอุบัติเหตุรถพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผางชนกับรถพ่วงทำให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุ้มผางได้รับบาดเจ็บกว่า 5 ราย ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ 2 รายถูกอัดติดซากรถได้รับบาดเจ็บสาหัสคือโชเฟอร์และน้องอุ้ม พยาบาลสาวอุ้มผาง ที่โซเชียลประกาศขอรับบริจาคเลือดเพื่อผ่าตัด

โดยล่าสุดมีรายงานว่าพ.ต.อ.มนต์ศักดิ์  แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก เผยผลการสอบสวนพบว่าอุบัติเหตุ"รถพยาบาลอุ้มผางชน"ครั้งนี้เป็นเพราะ รถพ่วงบรรทุกอ้อยเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้รถพยาบาลอุ้มผางที่วิ่งมาตามเลนไม่สามารถเบรคได้ทันพุ่งชนกับรถพ่วงอย่างแรงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 14 บ้านห้วยผักหละ ม.3 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งนายวุฒิพงศ์ อายุ 28 ปี คนขับรถพ่วง ได้รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งในขณะเกิดเหตุนั้นรถพยาบาลฉุกเฉินกำลังเร่งนำผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอุ้มผางไปส่งที่โรงพยาบาลแม่สอด ซึ่งมีระยะทางไกลกว่า 164 กิโลเมตร โดยรถพยาบาลได้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดทาง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นลักษณะทางโค้ง ไม่มีไฟส่องสว่างรถพ่วงขับออกจากซอยอย่างกะทันหันทำให้รถฉุกเฉินหักหลบไม่พ้นพุ่งชนด้านข้างส่วนพ่วงของรถบรรทุกอย่างแรง

และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ พร้อมกับรอผลจากการตรวจจากแพทย์ ที่ทำการรักษาอาการของผู้บาดเจ็บ โดยจะนำในส่วนนี้เข้ามาประกอบ และเตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับโชเฟอร์ขับรถพ่วงรายนี้ต่อไป

17 ม.ค. 2565
https://www.tnews.co.th/social/557977
.....................................
แห่ให้กำลังใจ "น้องอุ้ม" พยาบาลสาว หลังประสบอุบัติเหตุรถฉุกเฉินชนรถพ่วง

ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ "น้องอุ้ม" พยาบาลสาวโรงพยาบาลอุ้มผาง หลังอาการสาหัส จากอุบัติเหตุรถฉุกเฉินพุ่งชนรถพ่วง 22 ล้อ

จากกรณี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2565 เกิดอุบัติเหตุรถพยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ชนกับรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกข้าวโพด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยสภาพรถฉุกเฉินด้านหน้าพังยับเยิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในรถกระเด็นไปคนละทิศละทาง ส่วนภายในห้องคนขับพบ นายกิตติพงษ์ อาจยาทา อายุ 45 ปี เป็นพนักงานขับรถพยาบาลคันเกิดเหตุถูกอัดติดคาพวงมาลัยรถ ข้างกันยังพบ นางสาวปุณยวีร์ ศรีดวงแปง อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ ถูกอัดติดคาซากด้านหน้ารถตู้พยาบาล อาการสาหัส

ต่อมา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอแม่สอด ได้มีการลงข้อความด่วน วอนผู้มีจิตกุศลร่างกายแข็งแรงช่วยบริจาคโลหิตมอบให้ น้องอุ้ม หรือ นางสาวปุณยวีร์ ศรีดวงแปง พยาบาลประจำรถฉุกเฉินที่บาดเจ็บสาหัส และต้องผ่าตัดสมองอย่างเร่งด่วน แต่เลือดในธนาคารเลือดสำรองที่แม่สอดมีไม่เพียงพอในการผ่าตัด

ทั้งนี้ หลังจากประชาชนทราบข่าว ชาวอำเภอแม่สอด เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ทหารพรานที่ 35 ทหาร ฉก.ร.4 ตำรวจ สภ.แม่สอด ต่างเดินทางไปที่โรงพยาบาลแม่สอด เพื่อบริจาคเลือดให้แก่พยาบาลสาวจำนวนมาก แต่อาการของพยาบาลสาว ล่าสุดยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์อยู่ระหว่างการช่วยชีวิต

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อตรวจสอบสอบเฟซบุ๊กส่วนตัวของ "น้องอุ้ม" พยาบาลสาวคนดังกล่าว พบว่ามีเพื่อนๆ และชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยขอให้น้องปลอดภัยหายไวๆ พร้อมบอกว่า "น้องอุ้มเป็นคนเก่ง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง" กันเป็นจำนวนมาก.


15 ม.ค. 2565
ไทยรัฐออนไลน์
.........................................
เฮลิคอปเตอร์ ส่งตัว "น้องอุ้ม" พยาบาล รพ.อุ้มผาง เข้ากรุงเทพฯ รักษาอาการทางสมอง

ทีม TAK SKY DOCTOR นำ "น้องอุ้ม" พยาบาล รพ.อุ้มผาง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ส่งตัวเข้ามาที่ รพ.ราชวิถี กรุงเทพฯ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทางสมอง

จากกรณีอุบัติเหตุรถพยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ชนกับรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกข้าวโพด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หนึ่งในนั้นคือ นางสาวปุณยวีร์ ศรีดวงแปง หรือ น้องอุ้ม อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ ถูกอัดติดคาซากด้านหน้ารถตู้พยาบาล อาการสาหัส ซึ่งก่อนหน้ามีการประกาศรับบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตน้องอุ้ม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ "หมอเมืองตาก" ได้อัปเดตความคืบหน้าในการรักษาน้องอุ้ม ว่า วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ทีม TAK SKY DOCTOR ได้ทำการส่งต่อ น้องอุ้ม หรือ นางสาวปุณยวีร์ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลอุ้มผาง โดยเฮลิคอปเตอร์มีแพทย์ทีม TAK SKY DOCTOR ของ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และโรงพยาบาลแม่สอด ร่วมกับหน่วยบินตำรวจจังหวัดตาก เพื่อส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพมหานคร เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทางสมอง

โดยมีผู้ที่ติดตามเพจ และอาการของน้องอุ้ม เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ไทยรัฐออนไลน์
18 ม.ค. 2565
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2022, 09:11:52 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
เพจ "เรื่องเล่าหมอชายแดน" โพสต์เล่าเรื่องราวของน้องอุ้ม พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลอุ้มผาง เผย น้องอุ้มเป็นคนสวยน่ารัก ขยันทำงาน มีน้ำใจต่อทุกคน นอกจากนี้ ทางเพจยังขอกำลังใจคนไทยทุกคนส่งให้พยาบาลน้องอุ้มให้กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. เพจ "เรื่องเล่าหมอชายแดน" โพสต์เล่าเรื่องราวของน้องอุ้ม พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งผู้ป่วย ชนกับรถบรรทุกพ่วง บนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ต่อมาน้องอุ้มถูกส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินด่วน เข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพมหานคร

โดยทางเพจระบุข้อความว่า "น้องอุ้มเข้าศึกษาพยาบาลในโครงการผลิตพยาบาลเพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชนในจังหวัดชายแดนตามรอยสมเด็จย่า คุณพ่อน้องอุ้มทำงานเป็นตำรวจตระเวนชายแดนที่อุ้มผาง เคยไปรับราชการที่ชายแดนใต้หลายปี โครงการนี้ได้เปิดโอกาสให้บุตรธิดาของข้าราชการตำรวจ ทหารชายแดน ได้เข้าเรียนเพื่อจบออกมาทำงานที่พื้นที่ชายแดนห่างไกล ที่ที่ใครก็ไม่อยากมาทำงานทุรกันดารห่างไกลความเจริญ และจะได้มาอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว ชาวบ้านก็จะได้มีที่พึ่ง ข้าราชการก็ไม่ได้หนีจากพวกเขาไปไหน ทำงานแบบสำนึกรักบ้านเกิด

น้องอุ้มเป็นคนสวยน่ารัก น่าทะนุถนอม แต่พ่อบอกว่าตัวจริงแข็งแกร่งมาก ชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะบาสเกตบอลและออกกำลังกายเป็นประจำ พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ทำงานบอกว่าอยู่โรงพยาบาลอุ้มผางเข้าปีที่ 4 เธอขยันทำงาน อารมณ์ดี สดใส มีน้ำใจต่อทุกคนเสมอ ปกติจะประจำอยู่วอร์ดหลังคลอด ชอบเล่นกับลูกคนไข้ มีเวรรีเฟอร์คนไข้เฉลี่ย 2-3 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ บางทียอมขึ้นเวรแทนพี่ๆ ที่ไปไม่ไหว อุ้มบอกพ่อว่าเดินทางบ่อยขนาดนี้เมื่อไหร่ไม่รู้จะถึงคิวน้อง..คิวในความหมายของอุ้มก็คือ การเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

การรีเฟอร์คนไข้ออกจากอุ้มผางมาโรงพยาบาลแม่สอดหรือโรงพยาบาลที่ไกลกว่านั้นเป็นเรื่องยากมาก ไหนจะต้องดูแลคนไข้ที่อาการหนักกว่าปกติ (ที่อุ้มผางเป็นพื้นที่ทุรกันดาร คนไข้มักเข้าถึงบริการช้า จนอาการทรุดหนัก บางพื้นที่ใช้เวลาเดินมาเป็นวันๆ) ดูแลที่โรงพยาบาลว่ายากแล้ว นี่ต้องให้น้ำเกลือ ฉีดยาในสภาพที่รถกำลังวิ่งโค้งไปโค้งมาต้องใช้ทักษะมากทีเดียว แถมต้องปลดเข็มขัดนิรภัยบ่อยๆ เพราะดูแลคนไข้ไม่ถนัด ไหนจะถนนหนทางที่คดเคี้ยว ระยะทาง 164 กิโลเมตร 1,219 โค้ง เวลา 3.5 ชั่วโมงที่แสนทรมาน สมัยก่อนที่เบียร์ไปอยู่อุ้มผางก็ออกมาส่งคนไข้บ่อยๆ มาถึงแม่สอดดูจะแย่กว่าคนไข้เสียอีก ต้องเอาถุงอ้วกที่เต็มไปด้วยน้ำดีห้อยหูไว้เลย ..นับถือเจ้าหน้าที่ รพ.อุ้มผางจริงๆ ที่ไม่เคยย่อท้อ ขอเพียงนำส่งคนไข้มาที่โรงพยาบาลแม่สอดได้อย่างปลอดภัย ดึกดื่นแค่ไหนถ้าคนไข้รอไม่ได้ พวกเขาก็ไม่รอ

โรงพยาบาลอุ้มผางได้พัฒนาหลายด้านเพื่อให้รองรับผู้ป่วยหนักให้ได้มากที่สุดเพื่อลดการรีเฟอร์ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากร เช่นการเพิ่มหมอเฉพาะทาง การตั้ง ICU ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก มีห้องผ่าตัดแบบมาตรฐาน มีโรงพยาบาลชุมชนไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่ยังเปิดผ่าตัดอยู่มีที่นี่ค่ะ 4 อำเภอชายแดนตาก แต่ด้วยความถี่ในการรีเฟอร์ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกมากกว่า 750 ครั้งต่อปีความเสี่ยงก็ไม่อาจหมดไป จนมาเกิดอุบัติเหตุรุนแรงครั้งนี้

น้องอุ้มบาดเจ็บทางสมองเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลแม่สอดโดยคุณหมอกัลยา ศัลยแพทย์ผ่าตัดสมองที่ตั้งใจทำงานหนักมากที่ชายแดนมาตลอด การผ่าตัดสำเร็จด้วยดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน เมื่อน้องพอที่จะเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย เราได้ส่งตัวน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถีที่มีความพร้อมมากกว่า โดยลำเลียงทางอากาศยาน sky doctor โดยความช่วยเหลือจากกระทรวงสาธารณสุข รับน้องเป็นคนไข้ในความดูแลและสัญญาว่าจะดูแลคนในหน่วยงานของเราอย่างดีที่สุด เพราะเขาบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อผู้ป่วยด้วยความทุ่มเทและเสี่ยงภัย

เบียร์มีส่วนร่วมในทีมประสานงานช่วยเหลือน้องอุ้ม ขอเป็นตัวแทนขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือให้น้องปลอดภัย ทั้งส่วนการรักษา การลำเลียงส่งต่อ การบริจาคเลือด บริจาคทรัพย์ และการจัดการเรื่องต่างๆ

ขอกำลังใจคนไทยทุกคนส่งให้แก่พยาบาลตัวน้อยของชายแดนตากตะวันตกคนนี้ให้กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง มีรอยยิ้มที่สดใสให้กับคนไข้ของเธอและพวกเราทุกคนอีกครั้ง ..กลับมาเป็นเทียนเล่มน้อยที่ส่องแสงเพื่อผู้คนที่ชายแดนแห่งนี้เร็วๆ นะน้องอุ้ม"

19 ม.ค. 2565  ผู้จัดการออนไลน์