ผู้เขียน หัวข้อ: "โผตำรวจ" สะเทือน สารวัตรโพสต์เดือด "คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน"  (อ่าน 465 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
สว.อก.สภ.กรับใหญ่ จว.ราชบุรี โบกมืออำลาวงการตำรวจแล้ว ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ หลัง "โผตำรวจ" คำสั่งโยกย้ายประกาศ โพสต์เดือด คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน นี่มันอาชีพXXX(ส้นตีน)อะไรครับ

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง เว็บไซต์กองสารนิเทศ ตร.ได้เผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผกก.-สว. วาระประจำปี 2564 ในสังกัด ตร., บช.ก., บช.ตชด., บช.ทท., บช.น., บช.ปส., บช.ศ., บช.ส., บช.สอท., รพ.ตร., รร.นรต., สตม., สทส., สพฐ., บช.ภ. 1-9 จำนวน 7,010 รายชื่อ โดยคำสั่งผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 2564 นั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต สว.อก.สภ.กรับใหญ่ จว.ราชบุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า สงสารคนทำงานที่ผิดหวังกับการแต่งตั้ง คนที่โดนย้ายไปไกลบ้าน มีทุกปี ไม่ว่าจะยุคไหน ทำปากดีพูดนโยบายสวยเลิศเลอ ไหนจะลูกเมีย พ่อแม่ที่แก่ชราต้องดูแลชีวิตปกติที่เปลี่ยนไป แค่ปลายปากกา กระเด็นกระดอน ทุกปีสองปี นโยบายปัจจุบันด้วย ไปไหนไม่ได้ประชุมกันทุกวัน งานนอกหน้าที่เยอะ คนออกนโยบายคนสั่งห่วย จะเอาเวลาที่ไหนกลับมาดูแลครอบครัว คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน นี่มันอาชีพXXXอะไรครับ (ที่กล่าวมาแค่ยิบย่อย)

# ลาออกสิครับรอXXXอะไร
# ตบะกูเริ่มแตก

พร้อมโพสต์รูปหนังสือจดหมายลาออก โดยมีใจความว่า ข้าพเจ้า พ.ต.ท.บุรี อมรพิชิต สว.อก.สภ.กรับใหญ่ จว.ราชบุรี มีความประสงค์ขออนุญาตลาออกจากราชการ เพื่อดูแลมารดาซึ่งป่วยมีสภาพนอนติดเตียง และที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่กลับไม่ได้รับความเจริญก้าวหน้าในอาชีพตามสมควร จึงมีความประสงค์ขอลาออกจากราชการเพื่อประกอบอาชีพอื่น เพื่อประโยชน์ส่วนตนและครอบครัว ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ซึ่งข้าพเจ้าได้ยื่นเอกสารและรายละเอียดมาพร้อมบันทึกนี้ด้วยแล้ว และขอเรียนว่า การลาออกครั้งนี้ เป็นความประสงค์ของข้าพเจ้าเอง มิได้ถูกผู้บังคับบัญชา บีบบังคับ หรือกลั่นแกล้งแต่อย่างใด และขอยืนยันว่าข้าพเจ้าไม่เลิกล้มความตั้งใจและเปลี่ยนใจถอนใบลาออกนี้ แต่อย่างใด

8 ธ.ค. 2564
https://www.thairath.co.th/news/crime/2260401
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 ธันวาคม 2021, 20:19:42 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
 วันที่ 9 ธันวาคม 2564 กำลังเป็นที่ฮือฮากันในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อมีตำรวจรายหนึ่งยศ พ.ต.ท. ได้โพสต์หนังสือลาออกจากราชการ ตีแสกหน้าผู้บังคับบัญชา โดยให้เหตุผลการลาออกว่า ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่ไม่ได้รับความเจริญก้าวหน้าในอาชีพตามสมคร จึงขอลาออกเพื่อประกอบอาชีพอื่น เพื่อประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว

          นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่า การลาออกเป็นจุดประสงค์ของตัวเอง ไม่มีผู้บังคับบัญชาบีบหรือกลั่นแกล้ง และจะไม่มีการถอนใบลาออกนี้เด็ดขาด

          ขณะเดียวกัน พ.ต.ท. รายนี้ ยังมีการโพสต์ระบายความรู้สึกแยกออกมาต่างหากว่า สงสารคนทำงานที่ผิดหวังกับการแต่งตั้ง คนที่โดนย้ายไปไกลบ้าน มีทุกปี ไม่ว่าจะยุคไหน ทำปากดีพูดนโยบายสวยเลิศเลอ ไหนจะลูกเมีย พ่อแม่ที่แก่ชราต้องดูแลชีวิตปกติที่เปลี่ยนไป แค่ปลายปากกา กระเด็นกระดอนทุกปีสองปี นโยบายปัจจุบันด้วย ไปไหนไม่ได้ประชุมกันทุกวัน งานนอกหน้าที่เยอะ คนออกนโยบายคนสั่งห่วย จะเอาเวลาที่ไหนกลับมาดูแลครอบครัว คนทำงานไม่เจริญ คนเจริญไม่ทำงาน นี่มันอาชีพส้นตีนอะไรครับ (ที่กล่าวมาแค่ยิบย่อย)

          หลังจากการโพสต์ ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจ พ.ต.ท. รายนี้มาก ทำให้ พ.ต.ท. รายนี้ต้องออกมาโพสต์ขอบคุณอีกครั้งว่า ขอบคุณที่ให้กำลังใจ มีบางคนที่ไม่รู้จักกันก็โทรศัพท์มาหา จากนี้ขอฝากพี่น้องที่อยู่ในอาชีพตำรวจต่อไป ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ รักลูกน้องเสมือนเขาเป็นพี่น้องเรา ให้ความเป็นธรรมกับเขา ใช้พระคุณดีกว่าพระเดช

          ส่วนชาวบ้านไม่ต้องการอะไรจากตำรวจ แค่เกิดเหตุตามจับคนร้ายให้ได้ มีเหตุไประงับให้เขาโดยไว ให้ความเป็นมิตร ไม่รังแก ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ก็เพียงพอแล้ว

          ส่วนเจ้านายที่ดี ไม่สร้างงานให้ลูกน้อง ถามให้เยอะ ๆ นโยบายที่ออกมาตำรวจได้อะไร ชาวบ้านได้อะไร หรือแค่วาดฝัน เอาไว้โชว์สื่อ ต่อรองเก้าอี้ แต่หาประโยชน์เป็นรูปธรรมไม่ได้ อยู่ให้เป็นตำนาน อย่าอยู่ให้เขาสาปแช่ง

9ธค2564
https://hilight.kapook.com/view/219122

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
ผกก.บางบัวทอง ยื่นหนังสือต่อ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ขอลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ 1 ปี หลังมีคำสั่งย้ายไป จ.กาฬสินธุ์ เผยมีปัญหาสุขภาพ ไม่สะดวกเดินทางไกล

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2564 พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชร์รักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เดินทางมายังที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอเข้าพบพล.ต.ต.ไพศาล วงษ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมหนังสือจดหมายลาออกที่ระบุใจความว่า

ข้าพเจ้า พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ขอลาออกจากราชการเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพในการลาออกในครั้งนี้ ไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายแก่ทางราชการซึ่งถือว่าเป็นการลาออกด้วยจำเป็นพิเศษตามนัยระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2550 พร้อมบันทึกนี้ได้แนบหนังสือขอลาออกจากราชการดังกล่าวมาด้วย

หลังนำหนังสือลาออกแจ้งเลขที่ลงรับแล้วพ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชร์รักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.วีรฤทธิ์ พิพัฒนาศักดิ์ ผกก.ฝอ.ภ.จว.นนทบุรี แทนเนื่องจากพล.ต.ต.ไพศาล วงษ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ติดภารกิจ

โดยพ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชร์รักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า หลังจากทราบคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายเมื่อคืนนี้ว่า ตนถูกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งใหม่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในตำแหน่ง ผกก.ฝอ.ภ.จ.กาฬสินธ์ ตนจึงได้ปรึกษากับภรรยาและลูก ๆ แล้ว ก็เห็นพ้องต้องกันว่า ด้วยตำแหน่งอายุราชการที่ยังเหลืออยู่อีกเพียง 1 ปี กับตำแหน่งใหม่ที่ถูกโยกย้ายไปนั้นซึ่งต้องเดินทางกว่า 500 กิโลเมตร

ประกอบกับสุขภาพของตนที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยในการเดินทางไกล ทำให้ตนตัดสินใจทำจดหมายลาออกมายื่นให้กับทางผู้บังคับการรับทราบตามระเบียบขั้นตอนต่อไป และภายหลังจากหนังสือลาออกของตนเองได้รับการเซ็นอนุมัติ ตนก็จะกลับไปพักผ่อนและหางานอดิเรกทำเสริมต่อไป

16 พ.ย. 2564
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6734764

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
‘พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ‘สวดยับ ‘พ.ต.ท. ลาออก’ หยาบคาย ให้ร้ายองค์กร ยก ตัวเองเคยโดนย้ายไม่มีเหตุผล ยังไม่โวย

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1

ก่อนอื่นถ้ามีคำพูดดังกล่าวจริงซึ่งกระผมรู้สึกกระดากปากไม่อยากจะพูดซ้ำว่าเป็นคำพูดอะไร? แต่ต้องบอกให้ผู้พูดรีบถอนคำพูด คำว่า “อาชีพส้นตีนอะไร” ถ้ามีการพูด คำพูดดังกล่าวจริง…. กรมพลตระเวน กรมตำรวจ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานราชการที่มีประวัติมายาวนาน จากการสืบค้นและมีหลักฐานปรากฏในหลักศิลาจารึกว่ามีตำรวจ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.1991 ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา…… ตำรวจได้รับการปฏิรูปครั้งสำคัญเมื่อปี พ.ศ. 2404 -2405 ในสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ท่าน จึงได้รับการถวายพระนามให้เป็น”พระบิดาแห่งตำรวจไทย” ตำรวจมีหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน โดยมีหน้าที่หลักในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ลักษณะงานที่สำคัญคือ สืบสวน สอบสวน ป้องกัน/ปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความยุติธรรมในทางอาญา ซึ่งนับว่าเป็นอาชีพราชการที่มีบทบาท หน้าที่และอำนาจที่สำคัญ ในอันที่จะยังประโยชน์สุข สร้างความสงบเรียบร้อย ผดุงความยุติธรรมเบื้องต้นให้กับสังคมจนมีการเปรียบเทียบ “ตำรวจเสมือนเป็นต้นธารแห่งความยุติธรรม” จึงเป็นอาชีพ ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ที่ใครต่อใครหลายคน อยากที่จะมารับราชการตำรวจ……. รวมทั้งตัวคุณเองด้วย

และนั่นก็คือเหตุผลที่กระผมขอบอกให้คุณรีบถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสมนั้นเสีย คุณอย่าเอาความผิดหวัง ความรู้สึกส่วนตัวมากล่าวหา มาให้ร้ายองค์กรที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี กับการที่ผิดหวังจากคำสั่งแต่งตั้งที่ตัวคุณคิดเอาเองว่า คุณเหมาะสม คุณเก่ง คุณดี คุณซื่อสัตย์สุจริต คุณควรจะได้รับการแต่งตั้ง แล้วมาด่าทอ ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย สาดใส่องค์กรที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี คุณเองก็อยู่มาจนเป็นพันตำรวจโท จะมีตำแหน่งใด? อยู่ที่ไหน? ผมไม่ทราบ เพราะในข่าวไม่ลงรายละเอียด กระผมเองเป็นรองผู้บัญชาการอยู่นานถึง 7 ปีเศษ ถูกย้ายจากรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไปเป็นรองผู้บัญชาการศึกษา โดยไม่มีเหตุผลเป็นเวลา 4 ปี จนเหลือปีสุดท้ายจึงได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพราะด้วยความอาวุโส ไม่ใช่ปีเดียว 1 ตำแหน่ง แต่กระผมก็ไม่เคยออกมาโวยวาย ไม่เคยกล่าวให้ร้ายองค์กรอันมีเกียรติและศักดิ์ศรีองค์กรนี้ เพราะสมัครใจเข้ามาเป็น…เลือกและเต็มใจเข้ามาอยู่ ถ้าส่วนไหนไม่ดีก็ต้องแก้ไข ซ่อมสร้าง ไม่ใช่ทำลาย ในเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชตำรวจ ในฐานะที่กระผมเป็นหนึ่งในกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ฉบับที่….พ.ศ…. ซึ่งกำลังอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา ในวาระที่ 2 และใกล้จะแล้วเสร็จเพื่อเข้าสู่การพิจารณาร่วมของสภาอันเป็นขั้นตอนสุดท้าย การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จะต้องเป็นระบบคุณธรรม โดยยึดหลักอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน ให้ข้าราชการตำรวจมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงของบุคคลหนึ่งบุคคลใด โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี………ที่พูดมาข้างต้นเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ………….

สำหรับรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ กระผมตั้งใจจะเขียนรายละเอียดเป็นตอนๆ ก่อนที่เรื่องนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อทำความเข้าใจให้กับทั้งข้าราชการตำรวจและประชาชนผู้สนใจ แต่เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อน จึงขอเกริ่นนำโดยย่อ …. (เรียกน้ำย่อย) ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ พยายามที่จะไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ให้ได้มากที่สุด เรียกว่าต้องเว้นระยะห่างทางสังคม( Social Distance ) กันพอสมควร ไม่ให้ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. มีอำนาจบทบาทเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่จะกำหนดระเบียบ หลักเกณฑ์ กฎ กติกาการแต่งตั้งได้ตามอำเภอใจ(เพื่อสนองความต้องการของใคร? ต่อใคร? ได้ต่อไปอีก) เพราะจะมีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือเรียกย่อว่า ก.พ.ค.ตร. ซึ่ง เป็นองค์กรอิสระมาจากการสรรหาจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยงานอื่น มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ ก.ตร. กำหนด ว่ามีความถูกต้องเหมาะสมเป็นธรรมหรือไม่ ? และมีหน้าที่รับคำร้องเรียน กรณีที่มีการออกระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกาการแต่งตั้งมาใช้แล้วมีข้าราชการตำรวจเห็นว่าไม่มีความถูกต้อง เหมาะสม เป็นธรรม และมีหน้าที่ในการตรวจสอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าการตำรวจว่าเป็นไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์กติกาการแต่งตั้งอย่างครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นการแต่งตั้งมีเจตนาไม่สุจริต ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีบทบัญญัติให้ผู้แต่งตั้งและผู้มีส่วนในการแต่งตั้งมีความผิดในทางอาญา ถึงกับต้องโทษจำคุกเสียด้วยซ้ำ จึงอยากจะให้ข้าราชการตำรวจและสังคมคอยติดตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้อย่างไม่กระพริบตา ก็จะรู้ว่าการปฏิรูปตำรวจจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีความจริงจังและจริงใจที่จะให้มีการปฏิรูปองค์กรตำรวจจริงหรือไม่? ตำรวจเองมีหน้าที่ในการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน แต่มีตำรวจอีกไม่น้อย ที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้วจะมีความเป็นธรรมที่ไหน ที่จะไปให้กับประชาชน พันตำรวจโทคนนี้ ถ้ายังรับราชการตำรวจอยู่ ก็คงจะไม่มีความเป็นธรรมที่จะให้กับประชาชนได้เพราะตัวเขาเอง เขายังคิดว่าเขาไม่เคยได้รับความเป็นธรรมเลย…..

อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ปฏิรูปเพื่อตำรวจเท่านั้น ยังมีคณะกรรมการอีก 1 – 2 คณะที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยตรง แต่ยังไม่ขอพูดในที่นี้(ขออุบ)ไว้ก่อน รอเวลาอันเหมาะสมเมื่อเรื่องนั้นๆ จะเข้าสู่การประชุมสภา แล้วจะกลับมาพูดให้ฟังเป็นลำดับไป สำหรับพันตำรวจโท คนนั้นซึ่งกระผมยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ? หากตั้งใจแน่วแน่ที่จะลาออกจากราชการ เพื่อไปประกอบอาชีพส่วนตัวและดูแลครอบครัวจริง ก็ขอให้ประสบความสำเร็จทั้งสองประการ เสียดายที่ไม่ได้รอใช้ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ไปพร้อมกัน ขอโทษพูดผิด (เพราะกระผมเกษียณราชการไป 5 – 6 ปีแล้วครับ)

10 ธันวาคม 2564
https://www.matichon.co.th/politics/news_3080486