ผู้เขียน หัวข้อ: ระวัง! ใช้ไม้จิ้มฟันแคะเศษอาหาร เสี่ยงเหงือกร่น เสียวฟัน  (อ่าน 967 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
สธ.เผยผลสำรวจประชาชนอายุ 15-60 ปี ทั่วประเทศ ทั้งเขตเมืองและชนบท พบคนไทยมีปัญหาช่องปากอันดับ 1 คือ ฟันผุ รองลงมามีหินปูน และเสียวฟัน ส่วนพฤติกรรมดูแลช่องปากทั่วไปอันดับ 1 คือใช้ไม้จิ้มฟันแคะเศษอาหารร้อยละ 43 รองลงมาคือใช้น้ำยาบ้วนปาก ชี้ผลเสียไม้จิ้มฟัน หากใช้ประจำทำให้เหงือกร่น ฟันยาวผิดปกติซอกฟันโหว่เป็นโพรง เสียวฟัน วีธีการดูแลความสะอาดช่องปากและฟันคือการแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
       
       นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าผลการสำรวจพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของประชากรไทยอายุ 15-60 ปี ทั้งเขตเมืองและเขตชนบท ใน 12 จังหวัดทั่วประเทศโดยกรมอนามัย ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2554 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,391 คน พบว่า ปัญหาทันตสุขภาพของคนไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ ฟันผุร้อยละ 29, มีหินปูนร้อยละ 26, เสียวฟันร้อยละ 22, ปวดฟันร้อยละ 19, ฟันเหลืองร้อยละ 17 และฟันตกกระร้อยละ 1 โดยพฤติกรรมในการแปรงฟันของประชาชนส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 98 แปรงฟันตอนเช้า แปรงก่อนนอนร้อยละ 78 ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่หลังอาหารกลางวันพบว่ามีการแปรงฟันน้อยมากไม่ถึงร้อยละ 10
       
       นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า การแปรงฟัน พบว่าแปรงฟันถูกวิธี คือ ปัดแปรงขึ้น-ลงร้อยละ 56 และการแปรงไม่ถูกวิธีคือถูไปถูมามีร้อยละ 34 ซึ่งจะทำให้คอฟันสึกเร็วขึ้น นอกจากนี้พบพฤติกรรมใช้ไม้จิ้มฟันแคะเศษอาหารมากถึงร้อยละ 43 รองลงมาคือการใช้น้ำยาบ้วนปากร้อยละ17 และใช้ไหมขัดฟันร้อยละ 4 โดยกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งรณรงค์ให้ประชาชนหันมาแปรงฟันหลังอาหารกลางวันให้มากขึ้นและการแปรงฟันให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหาฟันผุ
       
       ด้าน ทพญ.พวงทอง เล็กเฟื่องฟู ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การดูแลสุขภาพปากและฟันที่ดีที่สุดคือการแปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร และหากมีการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลระหว่างมื้อควรบ้วนน้ำตาม เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเหมาะสมกับช่องปาก ขนแปรงควรทำจากไนล่อนและนุ่มปานกลาง แปรงฟันอย่างถูกวิธีคือแปรงขึ้นหรือลงไปตามปลายฟัน แต่หากเศษอาหารติดแน่นในซอกฟันโดยเฉพาะในฟันกรามซึ่งแปรงไม่ถึง ต้องใช้เส้นใยขัดซอกฟันร่วมด้วย การเลือกใช้ยาสีฟันควรผสมฟลูออไรด์ไม่เกินร้อยละ 0.11 โดยน้ำหนัก หรือ 1,100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (พีพีเอ็ม) ใช้เวลาแปรงฟัน 2 นาทีขึ้นไป เพื่อให้ฟลูออไรด์สัมผัสกับผิวฟันได้อย่างเต็มที่ ส่วนในเด็กเล็กไม่ควรให้บีบยาสีฟันเอง เพราะหากได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปจะทำให้ฟันตกกระได้ สำหรับการใช้น้ำยาบ้วนปาก จะช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่ไม่สามารถใช้ทดแทนการแปรงฟันได้ เนื่องจากน้ำยาบ้วนปากไม่สามารถขจัดคราบจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและเกาะติดอยู่ตามผิวฟันและซอกฟันได้
       
       ส่วนการใช้ไม้จิ้มฟันหลังอาหาร เพื่อกำจัดเศษอาหาร เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ไม่ควรใช้ไม้จิ้มฟันดัน หรือแคะอย่างรุนแรง หรือเสียบไม้จิ้มฟันทะลุซอกฟันจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง แล้วหมุนหรืองัด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาซอกฟันโหว่เป็นโพรง ฟันห่าง เหงือกร่น คอฟันหรือผิวรากฟันสึก หากมีวัสดุอุดฟันอยู่ ก็อาจทำให้ชำรุด และเกิดปัญหาเสียวฟัน ฟันผุ แนะนำให้ใช้ไม้ครูดฟัน ซึ่งมีลักษณะปลายใช้งานแบนเหมือนใบพาย ปลายเรียวแหลมรูปสามเหลี่ยม เพื่อให้แนบตามซอกฟันและเหงือกได้ดี ซี่งสามารถทำไม้ครูดฟันได้เอง โดยนำไม้จิ้มผลไม้ตัดปลายแหลมออก แล้วใช้ค้อนทุบเบาๆที่ปลายไม้ให้แตกเป็นฝอยฟู ให้เส้นใยไม้ไผ่เรียงกันคล้ายกับพู่กันอันเล็กๆ ใช้สำหรับครูดตามความยาวของฟัน เพื่อเขี่ย ปัดเศษอาหารออก

ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 มกราคม 2555