ผู้เขียน หัวข้อ: ส่งท้ายคุก “เจ้าสัวเปรมชัย” บทพิสูจน์ รวย-จนเท่าเทียม แต่มีดรามาลุคป่วย  (อ่าน 374 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
**ส่งท้ายคุก “เจ้าสัวเปรมชัย” บทพิสูจน์ รวย-จนเท่าเทียม แต่มีดรามาลุคป่วยหวัง “พริวิเลจ”?

กระบวนการยุติธรรมดำเนินมากว่า 3 ปี นับตั้งแต่เกิดคดีสะท้านป่า สะเทือนใจสังคม กรณี “เจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต” อดีตประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ พร้อมพวกถูกจับกุมในข้อหาล่าเสือดำในเขตในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ท้องที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 61 ในที่สุดศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ตัดสินจำคุก “เจ้าสัวเปรมชัย” พร้อมพวก ซึ่งในส่วนของเปรมชัย ถูกสั่งจำคุก 2 ปี 14 เดือน ยืนตามคำสั่งศาลอุทธรณ์

คดีนี้ได้รับความสนใจจากสังคมติดตามอย่างมาก นอกจากจะเรียกร้อง “เสือดำต้องไม่ตายฟรี” ยังถูกจับตาในเรื่องของฐานะความเหลื่อมล้ำของสังคม ระหว่างคนรวย-คนจน เพราะผู้ต้องหา “เจ้าสัวเปรมชัย” นั้น อยู่ในขั้นมหาเศรษฐี มีเครือข่ายธุรกิจหลายหมื่นล้าน

ทุกย่างก้าวของ “เจ้าสัวเปรมชัย” นับแต่เกิดเรื่องเป็นคดีก็ถูกเฝ้ามองมาโดยตลอดจนถึง “วันพิพากษา” เมื่อวานนี้ ที่ระหว่างการเดินทางมาฟังคดี เจ้าสัวเปรมชัย ปรากฏตัวในสภาพใช้ผ้าปิดตาหนึ่งข้าง ทำให้โลกโซเลียลฯ ตั้งคำถามว่าเปรมชัย ป่วยเป็นอะไร ซึ่งคนใกล้ชิดได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อว่า “เจ้าสัว” เพิ่งผ่าตัดต้อกระจก อยู่ระหว่างการรักษา ขณะเดียวกัน ก็มีโรคประจำตัวตามวัย เช่น โรคเบาหวาน ที่ยังต้องรักษาตามอาการ และพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง

การปรากฏตัวในสภาพดังกล่าวนี้เอง ทำให้เกิดดรามา ว่า เจ้าสัวรู้ตัวดีว่าบทสรุปของคดีจะเป็นอย่างไร จึงมาด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ปกติทางกาย หรือแสดงออกถึงอาการป่วย เพื่อจะใช้เป็น “พริวิเลจ” หวังสิทธิพิเศษในการออกมารักษาใน รพ.นอกเรือนจำ

ประเด็นนี้ “ราชทัณฑ์” ต้องออกโรงมาชี้แจงว่า เบื้องต้นเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ต้องรับตัวเปรมชัยในฐานะผู้ต้องขังเข้าใหม่ สอบประวัติ และพิมพ์ลายนิ้วมือตามปกติ จากนั้นจะต้องกักตัวเปรมชัย ตามมาตรการโรคโควิด-19 จำนวน 21 วัน
หาก “เจ้าสัว” อ้างเรื่องโรคประจำตัว หรือมีอาการป่วย ไม่สบาย ทางเรือนจำก็มีพยาบาลวิชาชีพในการตรวจอาการ ซึ่งหากป่วยจริง กรมราชทัณฑ์มีสถานพยาบาลรองรับอยู่แล้ว

ส่วนกรณีมีอาการป่วยหนัก ต้องมีการยืนยันจากแพทย์ จากนั้นจึงจะนำตัวไปตรวจรักษาในโรงพยาบาลแม่ข่าย ในลักษณะเช้าไป เย็นกลับ ไม่อนุญาตให้มีการแอดมิด เว้นเสียแต่มีอาการโคม่า ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

สรุปว่า ไม่น่ามีเหตุที่จะต้องนำตัว “เจ้าสัวเปรมชัย” ไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนพริวิเลจการขอพักโทษนั้น “เปรมชัย” ต้องจำคุกให้ครบ 2 ใน 3 ตามหลักเกณฑ์เสียก่อน...ก็ชัดเจนกันไป

พูดถึง “คดีเสือดำกับเจ้าสัวเปรมชัย” ก็ต้องบอกว่า มีดรามามาตั้งแต่ต้นจนจบ อีกคนที่เจอกระแสดรามาในช่วงแรกๆ วันนี้ก็น่าจะหายใจโล่ง ก็คือ “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” ซึ่งวันนี้นั่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีต รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดคดีเสือดำ หลังคดีสิ้นสุด “พล.ต.อ.ศรีวราห์” ได้ย้อนถึงตำนานดรามา “กราบเจ้าสัว” ที่บรรดาชาวโซเชียลฯ แห่แหนพาทัวร์มาลง วันนี้เขาบอกว่า ตำรวจทำไปตามหน้าที่ของพนักงานสอบสวนสวน ตำรวจทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์ไปตั้งนานแล้ว ส่วนข้อครหาก้มกราบเปรมชัย เกรงว่า จะเป็นการช่วยกันนั้นในตอนนั้น ก็เพราะว่า ที่บ้านพ่อแม่สอนมาแบบนี้ ที่บ้านเป็นพราหมณ์ การไหว้หรือรับไหว้พี่น้องก็ทำกันแบบนี้ อีกอย่างการที่จะไหว้อย่างไร หรือรับไหว้อย่างไร ก็ไม่เป็นเหตุให้กฎหมายเปลี่ยน อย่างไรตำรวจก็ต้องทำตามกฎหมายอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน จบดอกเตอร์ หรือไม่จบปริญญา ก็แล้วแต่กฎหมายไม่ได้บอกไว้ มีสิทธิเท่าเทียมกัน ทุกคนมีสิทธิสู้ตามกฎหมาย สำหรับพนักงานสอบสวนถ้าพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนั่นคือสิ้นกระแสของตำรวจแล้ว

งานนี้ก็เป็นอันว่าจบด้วยกรรมใดใครก่อ รวย-จน ก็อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน!!.

9 ธ.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
MGR Online - อธิบดีราชทัณฑ์ เผยอาการป่วย “เปรมชัย” มีหลายโรค พร้อมดูแลรักษา ตามขั้นตอนทางการแพทย์และสิทธิที่ผู้ต้องขังพึงได้รับ

วันนี้ (9 ธ.ค.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการรับตัว นายเปรมชัย กรรณสูต เข้าเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ เมื่อวานที่ 8 ธ.ค. ว่า ได้ดำเนินการตรวจร่างกายและแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่เป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน ตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด

นายอายุตม์ เผยว่า เบื้องต้น นายเปรมชัย มีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว 3 ครั้ง และในช่วงเช้าวันนี้ แพทย์จากโรงพยาบาลทองผาภูมิ ได้เข้าตรวจรักษาอาการ ผลการตรวจร่างกายโดยทั่วไป พบว่าไม่มีไข้ อุณหภูมิร่างกาย 36.8 องศาเซลเซียส ชีพจร 87 ครั้งต่อนาที หายใจ 20 ครั้งต่อนาที ความดัน 160/90 มิลลิเมตรปรอท  ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด 124 มิลลิกรัมเปอร์เซน

นายอายุตม์ เผยอีกว่า โดยการตรวจและรักษาอาการถ่ายเหลว พบว่าหน้าท้องนุ่ม มีอาการปวดท้องเล็กน้อยบริเวณด้านขวาล่าง แพทย์วินิจฉัยว่า มีอาการของโรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน (Acute  Gastroenteritis) ซึ่งได้ดูแลให้ยาปฏิชีวนะระบบทางเดินอาหาร เกลือแร่ และให้รับประทานอาหารอ่อนในระยะนี้ พร้อมได้เจาะเลือดส่งตรวจเพื่อดูค่าการติดเชื้อ การทำงานของไต และค่าเกลือแร่ในร่างกาย (CBC, BUN, Cr, Electrolyte) ยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจอีกครั้ง

นายอายุตม์ เผยต่อว่า ด้านผลการตรวจและรักษาตาซ้ายหลังการผ่าตัดต้อกระจก เบื้องต้นพบว่าไม่มีอาการแดง มีอาการคันตาซ้ายเล็กน้อย แพทย์ได้แนะนำให้หยอดตาทุก 4 ชั่วโมง ห้ามขยี้ตา ส่วนการตรวจและรักษาโรคเส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน แพทย์ได้ตรวจขาทั้งสองข้าง พบผิวหนังที่ขาทั้งสองข้างสีดำคล้ำ ปวด บวม กดแล้วบุ๋ม 1+ (2 มิลลิเมตร) มีแผลเรื้อรังที่ขาข้างซ้าย ขนาดประมาณ 2x2 เซนติเมตร ซึ่งได้ให้การรักษาอาการ ทำแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น 

“ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานพยาบาลเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ได้ดูแลอาการของผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด พร้อมให้การดูแลรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกรายพึงได้รับ โดยแพทย์ได้แนะนำให้สังเกตอาการเพิ่มเติม หากพบว่ามีอาการหน้าท้องแข็ง ปวดท้อง ถ่ายเหลวเพิ่ม อาเจียน เหนื่อยและอ่อนเพลียมากขึ้น รวมถึงมีอาการตาแดง คันตา หรือมองเห็นภาพลดลงให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลประจำเรือนจำได้ทันที” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว


9 ธ.ค. 2564 16:30   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
https://mgronline.com/crime/detail/9640000121968