เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 26 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสายชล เวชการ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 หมู่ 5 ตำบลปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ ระยะสุดท้าย ว่าวอนช่วยเป็นสื่อกลางไปถึงผู้บริหารโรงพยาบาลสวีเพื่อให้ปรับปรุงแก้ไขในการให้บริการ รักษาคนไข้ของแพทย์บางคนที่ใช้คำพูดและแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม บั่นทอนกำลังใจกันเหลือเกิน
ต่อมาได้เดินทางไปพบนางสายชล ผู้ป่วยฯมะเร็งรังไข่นอนติดเตียง ร่างกายซูบผอม ซึ่งมีสามีและลูกๆคอยดูและอยู่ใกล้ๆ โดยนางสายชล เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 หรือเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ตนมีอาการท้องเริ่มป่องโต แน่นบริเวณหน้าท้องหายใจลำบาก สามีและลูกสาวพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ฯโดยใช้สิทธิ์คนพิการ หลังจากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะสุดท้าย โดยแพทย์แนะนำมารักษาโรงพยาบาลสวีซึ่งเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยจะต้องคอยเจาะท้องเพื่อระบายน้ำออกเมื่อมีแน่นหายใจไม่สะดวก หมอที่เข้ามารักษาทุกคนที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรพูดจาปกติดี
แต่เมื่อระยะหลังนัดมาเจาะน้ำในท้องเนื่องจากท้องเริ่มโตแน่นหายใจไม่ออก มาพบหมออีกคนหนึ่ง หมอรายนี้พูดว่า จะมาเจาะทำไมนักหนา 3 วันมาที ตนเลยบอกว่าถ้าไม่เจาะก็จะหายใจไม่ออกแน่นหน้าอก หมอคนดังกล่าวบอกว่าถ้ายิ่งเจาะมันยิ่งผลิตน้ำมาก ซึ่งเราก็รู้จะให้ทำอย่างไรถ้าไม่เจาะเอาน้ำออก ไปหาพบหมอรายนี้ทั้ง 3 ครั้ง ก็พูดมาแบบนี้ และยังพูดอีกว่าจะหัดลูกของผู้ป่วยให้เจาะเองที่บ้าน
นางสายชล ผู้ป่วยมะเร็ง กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจเพราะตนเองก็อยู่ในระหว่างการรักษาขั้นสุดท้าย พอได้ยินหมอพูดแบบนี้กำลังใจคนไข้ก็หมด มีหมอโรงพยาบาลสวีเพียงคนเดียวที่พูดกับคนตนแบบนี้ซึ่งเกิดท้อใจ พร้อมทั้งแสดงพฤติกรรมเหมือนไม่พอใจ มีสีหน้าท่าทางไม่เต็มใจที่ตนไปเข้ารักษาเจาะน้ำออกจากช่องท้องบ่อยๆ การเจาะระบายน้ำออกเป็นหนทางสุดท้ายที่จะยืดชีวิตตนให้อยู่ได้ในแต่ละวัน ตอนนี้เริ่มกินข้าวไม่ได้ นอนก็ไม่ได้ แต่ถ้าไม่เจาะไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ที่ตนพูดร้องกับสื่อเพื่อให้หมอบางคนได้ปรับปรุงการดูแลคนไข้และให้บริการที่ดีกว่านี้อย่าทำให้หมอดีๆต้องถูกเหมารวมไปด้วย ซึ่งวันเดียวกันตนก็ได้โพสต์ลงในเฟชบุ๊กเพื่อระบายความในใจอัดอั้นตันใจแล้วด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อให้ถึงหมอใหญ่และมีการปรับปรุงแก้ไขต่อไป ผู้ป่วยกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวต้องรอฟังคำชี้แจงจากผอ.โรงพยาบาลสวีอีกครั้ง
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
https://www.banmuang.co.th/news/region/260335