ผู้เขียน หัวข้อ: วิจารณ์แซ่ด สสจ.รับเรื่องจริง พญ.เมืองคอน แอบพาญาติฉีดไฟเซอร์ เผยยื่นลาออกแล้ว  (อ่าน 538 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
วิจารณ์แซ่ด สสจ.รับเรื่องจริง พญ.เมืองคอน แอบพาญาติฉีดไฟเซอร์ เผยยื่นลาออกแล้ว
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้แชร์ภาพวงจรปิดในพื้นที่อำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีกลุ่ม VIP สังกัดสาธารณสุข นำครอบครัวเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์จนมีคนเข้ามาโพสต์วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก จากนั้นในกลุ่ม สาธารณสุขก็มีการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน เนื่องจากภาพที่มีการแชร์ให้เห็นเป็นภาพเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในพื้นที่อำเภอหนึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์

ล่าสุด ได้สอบถามไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบแต่เพียงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีแพทย์หญิงจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชนำครอบครัวเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของแพทย์คนดังกล่าว โดยเฉพาะในวงการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยผู้ที่อยู่ในวงการหลายคนพยายามสื่อสารกับสังคมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกเนื่องจากเกรงว่าอาจได้รับผลกระทบ หรืออาจถูกฟ้องร้อง

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่รายหนึ่งระบุว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา แพทย์หญิงระดับปฏิบัติการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้นำครอบครัวมารับวัคซีนไฟเซอร์ในเวลาช่วงบ่ายของวันดังกล่าว ในวันนั้นได้เบิกจ่ายวัคซีน จำนวน 11 ขวด จะมีผู้ได้รับวัคซีนซึ่งเป็นบุคลากรด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อำเภอที่เกิดเหตุ จำนวน 66 คน มารอรับ

โดยวัคซีนไฟเซอร์ 1 ขวด จะสามารถฉีดให้กับบุคลากรได้ 6 คน แต่มีเทคนิคคือแต่ละขวดหากใช้วิธีการ Low Dead Space Syringe จะสามารถดึงวัคซีนฉีดได้ถึง 7 คน ซึ่งโดยปกติแต่ละขวดนั้นจะฉีดเฉพาะ 6 คน หรือ 6 โดสเท่านั้น ที่เหลือจะได้รับคำสั่งให้ทิ้ง แต่ประเด็นนี้ได้มีการเตรียมการล่วงหน้า โดยมีผู้ที่มารับวัคซีนส่วนที่เหลือนั้น คือพี่สาวของแพทย์หญิงคนดังกล่าว ส่วนแม่ได้รับวัคซีนในส่วนของ 6 โดส

เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าวว่า คนที่เข้ามาฉีดนั้นไม่มีใบเซ็นยินยอมรับวัคซีนและไม่มีสติ๊กเกอร์ Lot Vaccine ไม่มีการส่งเอกสารคีย์เข้าระบบ MOPH IC แต่สามารถตรวจสอบได้ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับวัคซีนในขวดที่ 2 ใน Lot : 30125BA Exp. 30/11/2564 แต่ไม่ทราบลำดับโดส เพราะไม่มีสติ๊กเกอร์ติดให้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีแพทย์หญิงคนดังกล่าวกำกับอยู่ตลอด ที่สำคัญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้สร้างความอึดอัดให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลังจากเกิดเหตุการณ์ โดยได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทราบ และหลังจากมีการกล่าวถึงในโลกโซเชียลและในกลุ่มแพทย์เป็นจำนวนมาก แพทย์หญิงคนดังกล่าวได้แสดงความจำนงที่จะยื่นขอลาออกจากตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการของโรงพยาบาลดังกล่าวในวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวว่า ตนได้ย้ำทุกครั้งในการฉีดวัคซีนที่รับมาจากส่วนกลางว่า การรับวัคซีนไฟเซอร์จะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ คือต้องเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเท่านั้น หากผิดไปจากนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกสังคมลงโทษ และต้องดำเนินการทางวินัย

“ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลขณะนี้ได้ลงนามตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามขั้นตอนของทางราชการแล้ว ส่วนการที่แพทย์หญิงคนดังกล่าวลาออกนั้นขณะนี้ยังไม่เห็นเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนแต่อย่างใด”

16 สิงหาคม 2564
https://www.matichon.co.th/region/news_2887621

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
โรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แถลงข่าวกรณีพทย์หญิง ฉีดไฟเซอร์ให้พี่สาว เป็นเรื่องจริง จับได้ก่อนฉีดให้แม่กับญาติเพิ่ม เจ้าตัวรับผิดขอลาออก

16 ส.ค. 2564 – จากกรณีแพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเครือญาติของตนเอง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ล่าสุด นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัด พร้อมด้วย นพ.กฤษณ์ เพชรสำรวล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนบพิตำ ได้แถลงข่าวด่วนเพื่อชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง

นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี กล่าวว่า แพทย์หญิงที่อยู่ในกระแสข่าวได้ขอเข้าพบแล้ว และยอมรับว่าเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยได้พิจารณาตัวเองโดยการยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ในตำแหน่งนายแพทย์ปฏิบัติการแล้ว หลังจากนี้จะมีการเสนอหนังสือลาออกไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการลาออกเกิดขึ้น แต่ในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงยังดำเนินการต่อไป ข้อเท็จจริงได้มีการฉีดวัคซีนให้พี่สาวของแพทย์หญิง โดยเป็นวัคซีนส่วนที่เหลือเป็นโดสที่ 7 จากปกติ 1 ขวดจะได้เพียง 6 โดส แต่เมื่อมีการดึงด้วยไซริงค์ที่เรียกว่า Low Dead Space Syringe จะสามารถดึงได้หมดโดยไม่มีวัคซีนตกค้าง

หลังจากฉีดให้กับพี่สาวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รายงาน ผอ.โรงพยาบาล จึงสั่งให้ระงับการฉีดให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า ทำให้ไม่ได้ฉีดให้กับมารดาและญาติของแพทย์หญิง หลังจากนี้จะมีคณะกรรมการสอบสวนเข้าทำการสอบทั้งหมดเพื่อพิจารณาโทษอีกครั้ง

16 ส.ค. 2564
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6566447

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
เพจ "Dr.Review" ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเป็นข้อๆ กรณี แพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้พาพี่สาวฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ ตรวจสอบพบ แพทย์หญิงรายนี้เปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งในเวลาราชการอีกด้วย

จากกรณี แพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้พาพี่สาวฉีดวัคซีนไฟเซอร์โดสที่ 7 ที่เหลือก้นขวด จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราชได้กล่าวขอโทษประชาชนและตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว โดยระบุว่า แพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ยื่นใบลาออกแล้วนั้น

ต่อมา แพทย์หญิงรายดังกล่าว กลับลำตัดสินใจไม่ลาออกแล้ว ให้เหตุผลว่าหมอ รพ.นบพิตำ มีน้อยต้องแบ่งไปช่วย รพ.สนาม เกรงจะไม่เพียงพอ คิดทบทวนเราได้อะไรจากการลาออก จะขออยู่สู้ต่อเพื่อคนไข้ กล่าวขอโทษทั้งน้ำตาที่คิดน้อยไป แค่อยากให้ได้ฉีดวัคซีน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เพจ "Dr.Review" ได้ออกมาโพสต์ข้อความและตั้งข้อสังเกตว่าแพทย์หญิงคนนี้ ไม่ได้มีความสำนึกต่อเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางเพจชี้แจงประเด็นดังนี้

1. ทำงานช่วยเหลือคนไข้มาเป็นหมื่นเป็นแสนคน ทำไมเอาวัคซีนเหลือทิ้งฉีดให้แม่หรือพี่ไม่ได้
ทำงานมาแค่ไม่ถึงสามปี คนอื่นเค้าทำมากี่ปี แล้วคนอื่นไม่มีพ่อแม่ ต้องดูแลหรือไง

2. ต้องกลับไปนอนกลับแม่ กับพี่ ยอมเสียสละตัวเอง ยอมเสี่ยง
แนะให้แยกจากแม่สิ หลายๆ คนเค้าไม่ได้เจอที่บ้านมาเป็นปีละหนู อะไรคือยอมเสียสละ ยอมเสี่ยง คนอื่นเค้าก็เสี่ยง แต่เค้าไม่ชั่วแบบนี้ไง

3. ขอโทษที่เห็นแก่ตัวเอาวัคซีนที่ทิ้งไปมาฉีด
ขอโทษ ต้องมาจากการสำนึกผิด อย่าพูดไปเรื่อย แบบที่ทำกันไม่งั้นมันจะไร้ค่า แล้วไม่ใช่เห็นแก่ตัว #หนูคือขโมย โดนจับได้ด้วยกล้องวงจรปิด นี่เตรียมจะเอาญาติมาฉีดอีก แต่โดนจับได้ก่อน

4. ผอ.แจ้งจุดฉีดวัคซีนให้ระงับ น้อยใจ ขอลาออก
หนู ผอ.ก็ทำถูกแล้ว ทำผิดก็ต้องรับโทษ สำนึกผิด ไม่ใช่น้อยใจที่ถูกจับขโมยได้ นี่ผอ.ปราณีมากแล้วนะตอนสัมอะ ยอมโดนด่าแทนขนาดนี้

5. รพ.มีหมอน้อยมากเพราะต้องไปช่วยบุษราคัม หมอไม่พอ ไม่ลาออกแล้ว
ขอกลับมาสู้ต่อ ว่าแต่คนอื่นเค้าต้องผลัดเวรไปบุษราคัม แต่หนูไม่ไป แปลว่าอะไร….

6. ไม่ได้แย่งวัคซีนของใคร ขอโทษที่หยิบวัคซีนขยะ
ถ้าใช้โดส 7 ฉีดจริง ได้ครบโดส แปลว่า 1-6 จะเป็นยังไงนะ กล้าพูดวัคซีนขยะ นี่ถ้าไม่โดนจับได้ก่อน ก็คือจะพามาทั้งครอบครัวแล้ว

อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงรายดังกล่าวเปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งในเวลาราชการ และเป็นประเด็นดรามาเนื่องจาก แพทย์หญิงรายนี้ไม่ได้จบเฉพาะทางอีกด้วย

19 ส.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
พญ.กฤตยาณี มาทำงานที่ รพ.นบพิตำตามปกติ แต่ไม่ได้ออกมาร่วมรับมอบกระเช้าที่ นอภ.นบพิตำและคณะนำมามอบเป็นกำลังใจแก่ ผอ.รพ.นบพิตำ และบุคลากรทางการแพทย์ ด้าน ผอ.รพ.ระบุการสอบสวนทางวินัยแพทย์หญิงยังคงดำเนินการ

จากกรณีที่แพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช นำพี่สาวไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราชได้กล่าวขอโทษประชาชนและตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งแพทย์คนดังกล่าวระบุว่า เป็นการใช้วัคซีนที่เหลือทิ้งและเปลี่ยนใจไม่ลาออกแล้วนั้น

วันนี้ (18 ส.ค.) พญ.กฤตยาณี พูลเพียร ซึ่งเป็นผู้นำพี่สาวมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ได้มาทำงานตามปกติ ซึ่ง นพ.กฤษณ์ เพชรสำรวล ผอ.โรงพยาบาลนบพิตำ ได้เรียกไปพูดคุยถึงการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้กำลังใจในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ได้กล่าวตำหนิ พญ.กฤตยาณี หลังจากที่ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล โดยมีการกล่าวอ้างถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนว่า ได้ขอร้องให้ระงับการลาออก ซึ่งทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้นอย่างรุนแรงด้วย

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงพยาบาลนบพิตำ นายสาธร หวังพัฒน์ นอภ.นบพิตำ พร้อมด้วยนายกรีฑา อินณรงค์ กำนัน ต.นบพิตำ และคณะ ได้มามอบกระเช้าเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ นพ.กฤษณ์ เพชรสำรวล ผอ.โรงพยาบาลนบพิตำ และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล โดย พญ.กฤตยาณี ไม่ได้ออกมาร่วมรับกระเช้าแต่อย่างใด

นายสาทร กล่าวว่า วันนี้ ตนเองพร้อมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อสม.ได้มามอบกระเช้าเพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนบพิตำ ที่ได้ทำหน้าที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ อำเภอนบพิตำได้จัดทำโรงพยาบาลสนามที่หอประชุมอำเภอ ขนาด 50 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยชาวนบพิตำ ที่จะกลับมารักษาตัวที่บ้าน โดยจะเปิดในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างในโรงพยาบาลสนาม เจ้าอาวาสวัดภูเขาเหล็กได้บริจาคมาให้

ด้าน นพ.กฤษณ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลนบพิตำมีแพทย์ทั้งหมด 5 คน ส่งไปช่วยโรงพยาบาลบุษราคัม 1 คน เหลือ 4 คน ต้องรับผิดชอบประชากร อ.นบพิตำ 3,300 กว่าคน ต้องขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้ พวกเราจะทำหน้าที่ให้เต็มกำลังความสามารถให้ดีที่สุด ส่วนกรณีของแพทย์หญิงที่เป็นกระแสข่าวอยู่นั้น ในส่วนของการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยยังคงดำเนินการกันอยู่

18 ส.ค. 2564 ผู้จัดการออนไลน์