“อนุทิน” ขอบคุณบุคลากรการแพทย์ทุ่มเทดูแลประชาชน พร้อมทำประกันช่วยคุ้มครอง

[story]

“อนุทิน” ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ ทุ่มเทดูแลประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด เผย รัฐบาลร่วม คปภ. บริษัทประกัน ทำประกันคุ้มครองให้ 2.5 แสนกรมธรรม์ ลั่น พร้อมสนับสนุนทุกด้าน

วันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศที่ทุ่มเทเสียสละในการดูแลรักษาผู้ป่วย ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้

ดังนั้น รัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงร่วมกับบริษัทประกันภัยต่างๆ จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 250,120 กรมธรรม์ แบ่งเป็น บุคลากรทางการแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 223,872 กรมธรรม์ และบุคลากรทางการแพทย์นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ กทม., โรงพยาบาลภูมิพล, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, โรงเรียนแพทย์, กองทัพเรือ และกรมแพทย์ทหารบก รวม 26,248 กรมธรรม์

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดอุปกรณ์ต่างๆ สนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ยังมีบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่งที่เกิดการติดเชื้อขึ้น โดยได้รับการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยจากโควิด-19 แล้วจำนวน 171 ราย ใน 3 กรมธรรม์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวนเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาคุ้มครอง 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ
2. กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองภาวะโคม่าจากโรคโควิด-19 จำนวนเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ
3. กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 จำนวนเงินความคุ้มครอง 1 หมื่นบาทต่อราย และคุ้มครองการประกันภัยอุบัติเหตุ 1 หมื่นบาทต่อราย ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ

“ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทุ่มเทดูแลประชาชนในสถานการณ์โรคโควิด-19 อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนในทุกด้าน เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 อย่างปลอดภัย”

ไทยรัฐออนไลน์
4 ส.ค. 2564

[story]

สธ.เผยจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ทำงานใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด กว่า 223,872 กรมธรรม์ ชี้ 171 ราย ได้รับการคุ้มครองแล้ว

วันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยโควิด นับเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้

ดังนั้น รัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงร่วมกับบริษัทประกันภัยต่าง ๆ จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 250,120 กรมธรรม์ โดยแบ่งเป็น

1.บุคลากรทางการแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 223,872 กรมธรรม์
2.บุคลากรทางหารแพทย์นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ กทม., โรงพยาบาลภูมิพล, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, โรงเรียนแพทย์, กองทัพเรือ และกรมแพทย์ทหารบก รวม 26,248 กรมธรรม์

อย่างไรก็ดี แม้ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้จัดอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ยังมีบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่งที่เกิดการติดเชื้อ

แต่ขอยืนยันว่า กลุ่มบุคลากรที่ติดเชื้อโควิด ได้รับการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยจากโควิด 19 แล้วจำนวน 171 ราย ใน 3 กรมธรรม์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1.กรมธรรม์ประกันภัย คุ้มครองการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 จำนวนเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาคุ้มครอง 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ
2.กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองภาวะโคม่าจากโรคโควิด 19 จำนวนเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ 
3.กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด 19 จำนวนเงินความคุ้มครอง 1 หมื่นบาทต่อราย และคุ้มครองการประกันภัยอุบัติเหตุ 1 หมื่นบาทต่อราย ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ

4 สิงหาคม 2564
https://www.prachachat.net/general/news-731262

[story]

“อนุทิน” โปรยยาหอม มอบปลัด สธ. หาวิธีตอบแทนบุคลากรทุกระดับ เห็นใจความเหน็ดเหนื่อย ร่วมต่อสู้โควิด มีทั้งเพิ่มวันทวีคูณ บรรจุข้าราชการล็อตใหม่

วันที่ 4 ส.ค.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเปิด รพ.สนามโรงงานปัญจพล ไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด (สาขาบางปลา) จ.สมุทรสาคร ว่า การสร้างเตียง รพ.บุษราคัม ได้รับความร่วมมือจาก บริษัทปัญจพล ไฟเบอร์ฯ ในการทำอัดเตียงกระดาษให้ ไม่ว่าเรานะเพิ่มขยายเตียงเท่าไรก็สามารถผลิตเตียงให้ รพ.บุษราคัม ในการดูแลผู้ป่วยได้ อย่างไรก็ตามเมื่อหมดสัญญาเช่าสถานที่ที่อิมแพค จะมีการเปิดรพ.สนามที่อาคาร SAT1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็จะช่วยทำเตียงให้ สธ.ด้วย โดยจะไม่ย้ายเตียงเก่าจาก รพ.บุษราคัมไป แต่จะนำเตียงเก่ามาย่อยสลายและปั๊มเป็นเตียงใหม ซึ่งได้มอบหมาย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัด สธ.ในเรื่องนี้แล้ว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์มีการให้ผู้ติดเชื้อทั้งการดูแลที่บ้าน ชุมชน นพ.สนาม และ รพ.ทั่วไป พยายามให้เร็วที่สุดเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงของอาการ ยืนยันว่ามีเพียงพอไม่ขาดแคลน เพราะให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) นำเข้าเดือนละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านเม็ด จากช่วงแรกที่หาได้เดือนละ 2 แสนเม็ด และตุลาคมนี้อภ.ก็จะผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เองได้เดือนละ 20 ล้านเม็ด และ สธ.ยังรับงบประมาณจัดหายาอีก 2-3 ชนิด กรณีผู้ป่วยไม่สามารถรักษาด้วยฟาวิพิราเวียร์ได้สู้โควิดทุกระดับ

“ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจบุคลากรสาธารณสุขนั้น วันนี้ที่ประชุมผู้บริหาร สธ. เราเห็นใจความเหน็ดเหนื่อยของบุคลากรทุกระดับ ตั้งแต่ อสม.ถึงแพทย์ จึงมีมติที่ประชุมให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยปลัด สธ.พิจารณาหาวิธีตอบแทน เช่น เพิ่มจำนวนวันทวีคูณ การพิจารณาบรรจุพนักงานราชการเป็นข้าราชการในรอบต่อไป เพราะทำงานหนักมาก เป็นการบำรุงขวัญกำลังใจ สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นไปตามแผนการฉีดของกรมควบคุมโรค

ส่วนจะกระตุ้นเข็มสามเมื่อไร ฉีดชนิดไหนอย่างไร ให้รอข้อมูลทางวิชาการโดยกรมควบคุมโรค แต่บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นมากต้องรับโดยบูสเตอร์โดสทันที ซึ่งเป็นไปตามแผน บุคลากรส่วนใหญ่พอใจฉีดเข็มสาม ชนิด mRNA ไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ เพิ่งบริจาค จะนำไปให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดเป็นเข็มสาม แต่อยู่ที่ความสมัครใจ หลายคนก็เลือกฉีดแอสตร้าเซนเนก้า และผลการตอบสนองก็น่าพอใจ ภูมิดีขึ้นสูงและปลอดภัยในการปฏิบัติงาน”

4 ส.ค. 2564
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6546743