ผู้เขียน หัวข้อ: แค่ปี 2021!ไฟเซอร์คาดขายวัคซีนโควิดโกยเงินทะลุ1.1ล้านล้าน ย้ำจำเป็นต้องฉีดเข็ม3  (อ่าน 319 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
ไฟเซอร์ อิงค์ ในวันพุธ (28 ก.ค.) ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายวัคซีนโควิด-19 ในปี 2021 เพิ่มอีก 29% เป็น 33,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.1ล้านล้านบาท) และเชื่อว่าผู้คนจำเป็นต้องฉีดวัคซีนที่พวกเขาพัฒนาร่วมกับไบออนเทค พันธมิตรสัญชาติเยอรมนี เข็มที่ 3 เพื่อคงประสิทธิภาพระดับสูงในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทางบริษัทเผยว่า อาจยื่นข้ออนุมติใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) สำหรับการฉัดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างเร็วที่สุดในเดือนสิงหาคม

ข้อมูลเผยให้เห็นว่า วัคซีนเข็มที่ 3 ก่อแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์มากกว่าคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มหลายเท่า ในการต่อสู้กับตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก โดยมากกว่า 5 เท่าในคนหนุ่มสาวและมากกว่า 2 เท่าในกลุ่มคนสูงวัย

"ทั้งหมดทั้งมวล ผมคิดว่าวัคซีนเข็ม 3 จะเพิ่มประสิทธิภาพอย่างแข็งแกร่งในการป้องกันการติดเชื้อ ติดเชื้ออาการเล็กน้อยและลดการแพร่กระจายเชื้อของไวรัส" ไมเคิล ดอลสเทน หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ของไฟเซอร์กล่าว

ดอลสเทน เผยต่อว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่าระดับแอนติบอดีอาจเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 100 เท่า เมื่อเปรียบกับระดับก่อนการฉีดเข็มที่ 3

นอกจากนี้แล้ว ทางไฟเซอร์ยังโพสต์ผลการศึกษาที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญในวันพุธ (28 ก.ค.) บ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงมาเหลือราวๆ 84% จากระดับสูงสุด 96% หลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปได้ 4 เดือน

การตัดสินใจของไฟเซอร์เมื่อช่วงต้นเดือน ที่บอกว่าจะยื่นขออนุมัติฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เรียกเสียงตำหนิจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสุขภาพของสหรัฐฯ ซึ่งบอกว่ายังมีข้อมูลไม่มากพอที่แสดงให้เห็นว่าเข็มกระตุ้นมีความจำเป็น ทว่า นับตั้งแต่นั้นพวกนักวิทยาศาสตร์จากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั้งหลายของสหรัฐฯ ก็เริ่มพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับความเป็นได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่บุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ความเคลื่อนไหวพิจารณาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในสหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่ประชากรหลายพันล้านคนในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ยังคงเผ้ารอวัคซีนเข็มแรกอยู่

แม้ยังไม่ฉีดเข็มกระตุ้น แต่ไฟเซอร์ ได้ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายวัคซีนโควิด-19 ในปี 2021 เรียบร้อยแล้ว โดยรายงานข่าวระบุว่า การปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ของไฟเซอร์อ้างอิงข้อตกลงสั่งซื้อเพิ่มเติมที่มีจำนวนถึง 2,100 ล้านโดส ขณะที่ทางบริษัทอาจทำการปรับตัวเลขอีกครั้ง ถ้ามีการลงนามข้อตกลงใหม่ๆ หลังจากนี้

นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไฟเซอร์นำส่งวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทออกไปแล้วถึง 1,000 ล้านโดส และบริษัทตั้งเป้าการผลิตในปีนี้ไว้ที่ราว 3,000 ล้านโดส

ไฟเซอร์ ซึ่งวัคซีนได้รับอนุมัติในสหรัฐฯ ยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกในเดือนธันวาคม 2020 โกยคำสั่งซื้อใหม่ๆ ในขณะที่คู่แข่งอย่างแอสตร้าเซนเนก้าและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ต่างเผชิญปัญหาด้านการผลิตและความปลอดภัย

นอกจากนี้แล้ว ไฟเซอร์ยังมีชัยเหนือ โมเดอร์นา อิงค์ อีกหนึ่งผู้ผลิตวัคซีนเทคโนโลยี mRNA สัญชาติสหรัฐฯ ซึ่งไม่สามารถยกระดับการผลิตได้รวดเร็วเท่ากับคู่แข่งรายใหญ่อื่นๆ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ประมาณการยอดขายวัคซีนโควิด-19 ตลอดทั้งปีอยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 82,000 ล้านบาท) ส่วนโมเดอร์นา ประมาณการไว้ที่ 19,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 630,000 ล้านบาท)

ในเดือนหน้า ไฟเซอร์ และไบโอเอนเทค มีแผนที่จะทำการทดสอบวัคซีนเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับการรับมือเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยมีการผลิตวัคซีนล็อตแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของไฟเซอร์

ปัจจุบันตัวกลายพันธุ์เดลตาคิดเป็น 80% ของเคสผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ และกลายเป็นสายพันธุ์หลักในมากมายหลายประเทศทั่วโลก

(ที่มา : รอยเตอร์)

29 ก.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์