ผู้เขียน หัวข้อ: ความจริงอันน่าสะพรึง  (อ่าน 309 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
ความจริงอันน่าสะพรึง
« เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2021, 11:47:39 »
เอกสารจากผู้บริหาร บริษัทแอสตราเซนากา ที่ “สำนักข่าวอิศรา” เอามาเผยแพร่ ขอชมว่า นายแน่มาก มันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้เห็นขบวนการปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องวัคซีนอย่างล่อนจ้อนที่สุด นอกจากเรื่องแทงม้าตัวเดียวแล้วยังมาแหกตาว่า บริษัทแอสตราฯ เบี้ยวสัญญา ทั้งที่ความผิดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ รมต.ที่เกี่ยวข้องต้องรับไปเต็ม ๆ มันเรื่องอะไรแอสตราฯ จะยอมเป็น “แพะรับบาป”

เราถูกทำให้เข้าใจผิดว่า แอสตราฯ ต้องส่งมอบวัคซีนทั้งหมด 61 ล้านโด๊สภายในสิ้นปีนี้โดยมีตารางว่า มิ.ย.6 ล้านโด๊ส ก.ค.-พ.ย. เดือนละ 10 ล้านโด๊ส และ ธ.ค. อีก 5 ล้านโด๊ส รวม61 ล้านโด๊ส ตารางนี้ รมว.สาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล บอกจนสื่อจำขึ้นใจ

แต่เอกสารที่อิศราฯ เอามาแฉ เปิดโลกความจริง ว่า รัฐบาลไทยสั่งซื้อแอสตราฯ 26 ล้านโด๊ส เมื่อ ม.ค. ปี 2564 และเพิ่งมาสั่งซื้ออีก 35 ล้านโด๊สเมื่อ พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง จำขึ้นใจว่านายกฯ บอกว่า การสั่งซื้อวัคซีนนั้นไม่ใช่สั่งปุ๊บได้ปั๊บ มันต้องรออีก 4-5 เดือน นั่นคือ แอสตราฯ 35 ล้านโด๊สที่สั่งไว้เดือน พ.ค.จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ก.ค.-พ.ย. เค้าจะส่งได้เดือนละ 10 ล้านโด๊สเพราะกำลังการผลิตอยู่ที่ 15 ล้านโด๊สต่อเดือน เมื่อส่งให้ไทย 1 ใน 3 คือ 5-6 ล้านโด๊สเท่านั้น ที่เหลือคือส่งออกต่างประเทศ ที่อนุทินบอกตลอดว่า ไทยจะเป็นฮับส่งออกวัคซีนในเอเชีย ตอนนี้กลับดิ้นรนจะใช้กฎหมายไปจัดการไม่ให้แอสตราฯ ส่งออกให้ได้?!?

กลับมาที่เอกสารลับอีกครั้ง รัฐบาลบอกตลอดว่า เปิดเผยไม่ได้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นความลับทางธุรกิจ แต่คนไทยมาถึงบางอ้อว่า ที่มันเปิดไม่ได้ ก็เพราะมันโชว์ความไร้วิสัยทัศน์ของผู้บริหารประเทศดี ๆ นี่เอง ผู้บริหารแอสตราฯ แฉว่า รัฐบาลไทยนี่ล่ะที่คาดว่า เราจะใช้แอสตราฯ แค่เดือนละ 3 ล้านโด๊ส บริษัทเองซะอีก ส่งให้เป็น 2 เท่า คือเดือนละ 6 ล้านโด๊ส มากกว่านั้นยังแนะนำว่า ไทยควรเข้า COVAX ขององค์การอนามัยโลกที่จะทำให้ได้รับวัคซีนฟรีหรือซื้อในราคาถูกและยังเอามาผนวกรวมกับแอสตราฯ ไทยได้

นี่แสดงว่า วิสัยทัศน์ผู้บริหารแอสตราฯ ยังไปไกลกว่าผู้นำไทยด้วยซ้ำ ยิ่งผู้บริหารสาธารณสุขออกมาแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ว่าไม่รู้ว่าแอสตราฯ จะมีการส่งออก ยิ่งไร้เหตุผล ไร้สาระที่สุด แค่อยากปัดความรับผิดชอบ ก็เท่านั้นเอง มันน่าละอายใจกับผู้ที่ได้ชื่อว่าระดับครีมของประเทศมากนะ

ก็ใช่นะ ที่บอกว่า โรคโควิดเกินความคาดหมาย รัฐบาลไหนในโลกก็มีปัญหารับมือทั้งนั้น ยิ่งมันกลายพันธุ์เร็วขนาดนี้แต่มันก็มีตัวอย่างให้เห็นไม่ใช่หรือว่า หากผู้นำมีกึ๋น มีความสามารถบริหารจัดการเป็น หนักก็กลายเป็นเบาได้ ง่าย ๆ เลย แอสตราฯ ที่มีฐานผลิตในไทย ทำไมผู้นำประเทศอื่น ๆ สั่งซื้อวัคซีนก่อนไทยทั้งสิ้น ส่วนใหญ่เซ็นสัญญาตั้งแต่ตุลาฯ 63 ด้วยซ้ำ ฟิลิปปินส์ที่สั่งซื้อในเดือน ม.ค.64 นั่นคือ ลอต 2 และลอต 3 แล้วนะ ขณะที่ไทยเพิ่งงัวเงียสั่งซื้อลอตแรกมกราคมปีนี้ และล่าสุดคือพฤษภาคมที่ผ่านมาอีก 35 ล้านโด๊ส

COVAX ที่ 10 ชาติอาเซียนเข้าร่วมยกเว้นไทย อนุทินเองมิใช่หรือ บอกเรามีวัคซีนเหลือเฟือ คนไทยต้องไม่เป็นหนูทดลองยา สื่อไหนหนุน COVAX อนุทิน ด่ากลับว่า ชังชาติอิงแอบฝ่ายค้าน แล้วทุกวันนี้ที่คนไทยต้องฉีดวัคซีนไขว้ ซิโนแวคเข็ม แอสตราฯ เข็มนี่ ไม่เป็นหนูทดลองยาสินะ

ทุกวันนี้ที่วัคซีนไม่พอ วัคซีนที่มีไม่ดีพอ วัคซีนที่ดีต้องเสียเงินซื้อ เตียงไม่พอ คิวตรวจไม่มีติดเชื้อแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อ คนติดเชื้อวันละเป็นหมื่น ตายวันละเกือบร้อย อนาคตประเทศจะไปทางไหนไม่รู้ มีแต่ความหดหู่สิ้นหวัง ประชาชนได้แต่ช่วยกันเอง มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มีเพราะไร้ทิศทาง ไร้วิสัยทัศน์อยู่ไปวันๆ เพื่ออำนาจตัวเองและพวกพ้อง บนซากศพที่เตาเผายังรับมือไม่ไหว ระเบิดกันไปแล้วหลายวัดเช่นทุกวันนี้

ใครก็อย่ามากระแดะโลกสวย ขออย่ามาพูดถึงสิ่งที่ผ่านมา ตรงข้ามคนไทยควรต้องย้อนทบทวนว่า เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง อย่างหนักหน่วงและจริงจังที่สุด ถึงที่สุดแล้วช่วยกันเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือหนทางรอดเดียวที่เหลืออยู่เท่านั้น.... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/articles/78935/

22 กรกฎาคม 2564
https://www.dailynews.co.th/articles/78935/