ผู้เขียน หัวข้อ: “ศุภชัย” เผย “อนุทิน” ยอมกลืนเลือดเป็นแพะรับบาป ศบค.ปมวัคซีน ทั้งที่ไร้ชื่อเป็น  (อ่าน 391 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
“ศุภชัย” เผย “อนุทิน” ยอมกลืนเลือด เป็นแพะรับบาป ของ ศบค.ปมคำสั่งนายกฯ ตั้งคณะทำงานวัคซีน ที่ให้ “หมอปิยะสกล” และ เจ้าของ รพ.เอกชนร่วมเป็นกรรมการ โดยไม่มีชื่อเจ้ากระทรวง สธ. ทำวัคซีนป่วนทัั้งระบบ
.
วันนี้ (18 ก.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Supachai Jaismut ถึงเรื่องความรับผิดชอบในการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย โดยยืนยันคำสั่งแต่งตั้ง คณะทำงานวัคซีน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีชื่อเรื่องว่า “อนุทิน” กับการจัดหาวัคซีน แพะรับบาปของ ศบค. มีรายละเอียดดังนี้

“วันนี้มีข่าวออกมาว่า “อนุทิน” ชง ”ศบค.” เคาะจำกัดส่งออกแอสตร้าเซนเนก้าไป ตปท. หวังได้ 10 ล้านโดส ฉีดให้คนไทยก่อน สัปดาห์หน้าคุยทุกบริษัท จัดหาวัคซีน mRNA ด้าน โมเดอร์นาตอบรับแล้ว พร้อมสั่งซื้อไฟเซอร์อีก 50 ล้านโดส” ซึ่งข่าวนี้คงได้แพร่หลายไปแล้ว

ช่วงที่ผ่านมา ผมพยายามอยู่อย่างสงบนิ่งแม้เห็นความไม่ชอบมาพากลความไม่ถูกต้องปรากฏออกมาให้เห็นเป็นข่าวคราวอยู่เสมอๆ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นนักการเมืองต้องสงบเสงี่ยมเจียมตน อยู่เฉยๆ ไม่พูดอะไร คนก็เกลียดทั้งๆ ที่นักการเมืองส่วนใหญ่ในเวลานี้ทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนอยู่กับประชาชนทั่วประเทศในเวลานี้

แต่พอมีข่าวนี้ออกมา ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องออกมาพูด เป็นความจริงที่ต้องพูดเพื่อปกป้องคนทำงาน คนทำงานที่ชื่อ ”อนุทิน ชาญวีรกูล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นคนไม่ดี คนไร้ประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการจัดหาวัคซีน เป็นคนที่ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงสำคัญที่ว่า “อนุทินไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดหาวัคซีน” มาตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564

ถามว่าทำไม? คำตอบคือในวันที่ 9 เมษายน 2564 นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งที่ 5/2564 เรื่อง “แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” มี อ.ปิยะสกล เป็นประธาน ซึ่งผมเคยเสนอเรื่องนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว

การกำหนดวัคซีนหลัก วัคซีนทางเลือก มาจาก กก.ที่ อ.ปิยะสกล เป็นประธาน มีเจ้าของ รพ.เอกชน เป็น กก. เบอร์ 9-16 เป็น เจ้าของ รพ.เอกชน อ.ปิยะสกล คือ อดีต รมว.สธ. ที่มีอำนาจเหนือ รมว.สธ.ชื่ออนุทิน ในการจัดการทั้งปวงเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน

หน้าที่และอำนาจ

ข้อ 1 คือ เสนอแนวทาง มาตรการจัดหาวัคซีน มาใช้ทั้งในสถานพยาบาลของรัฐ และ เอกชน

ของรัฐ ก็คือ วัคซีนหลัก ของเอกชนก็คือ วันซีนทางเลือก

ข้อ 2 พิจารณาจัดหาวัคซีน

ข้อ 3 ดำเนินการตามนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยทราบว่าคณะทำงานชุดนี้ทำอะไรบ้าง?นอกจากมีข่าวของหมอบุญว่าเป็นกรรมการมีหน้าที่กำหนดตัวไหนทางหลัก ทางเลือก ?

และที่ทราบคือการวางมาตรการจัดซื้อ จัดหา จำหน่าย อย่างไร เจ้าของ รพ.เอกชน เป็นทั้งผู้กำหนดนโยบาย ผู้กำหนดแนวทางซื้อ และขาย ซึ่งนี่มันผลประโยชน์ทับซ้อน เห็นๆ? นี่คือ ศบค.ได้มองเห็นหรือไม่?

และนี่คือเหตุที่มีการใช้สื่อตีวัคซีนของรัฐบาล ให้คนรอโมเดอร์นา ที่ รพ.เอกชน ซื้อผ่าน อภ.มาทำธุรกิจ ?

ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประกาศจัดหาวัคซีนให้ได้ 100-150 ล้านโดส ในปี 2564 คณะทำงานชุดนี้ ได้สนองนโยบายและคำสั่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่?

แต่ที่แน่ๆ คือ ในคณะทำงานชุดนี้ ไม่มี รมว.สาธารณสุข และมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพียง 5 คน จากทั้งหมด 18 คน

และถ้าได้อ่านคำสั่งนี้กี่ครั้งๆ ก็ไม่พบว่า “อนุทิน” รมว.สธ. มีชื่ออยู่ในนี้ และชัดเจนว่า
คนจัดการวัคซีน คือ อ.ปิยะสกล กับ เจ้าของ รพ.เอกชน ซึ่งผมคิดว่าท่านควรจะออกมาบอกให้ประชาชนได้รับรู้ว่าท่านได้ทำอะไรไปบ้าง และ ศบค.ก็ต้องออกมาบอกประชาชนว่าความจริงเป็นเช่นไร ไม่ใช่ปล่อยให้ “อนุทิน” เป็นแพะรับบาป

ไม่ว่าอย่างไร จนถึงวันนี้ คน สธ.ก็พร้อมรับปฏิบัติ ทั้งๆ ที่ไม่อยากทำ เพราะนี่คือการเอาเปรียบรัฐ เอาเปรียบประชาชน หากินกับประชาชนที่กำลังเดือดร้อนและเสียขวัญ

“อนุทิน” วันนี้ กลืนเลือด ไม่ท้อ ไม่ถอย ยอมให้ด่าทุกเรื่อง แต่อดทน เพราะอาสามาทำงานเพื่อประชาชน เป็นหัวหน้าพรรคที่บอกลูกพรรคที่ห่วงใยว่ากลับไปหาประชาชน ไม่ต้องห่วงผม

และยังออกมาดำเนินการเรื่องวัคซีนตามข่าวนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งนั้นก็ตาม เพราะทนเห็นความทุกข์ยากของประชาชนไม่ได้

ถ้าจำกันได้ตอนคำสั่งฉบับนี้ออกมา มีคนสะใจมากที่ รมว.สธ.โดนยึดอำนาจ แต่คนกลุ่มนี้เองที่บิดเบือนความจริงกล่าวหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่าล้มเหลวการจัดหาวัคซีนและสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไรถึงกระทำการอันเลวร้ายเช่นนี้?

แทนที่เราจะร่วมกันช่วยกันฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน เพื่อประเทศของเรา แต่กลับมีคนแบบนี้อยู่ จึงขอได้โปรดยุติการการกระทำเลวร้ายแบบนี้เสียเถิด

18 ก.ค. 2564 ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความเรียกร้อง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานคณะทำงานจัดหาวัคซีนทางเลือก รวมทั้ง นพ.บุญ วนาสิน ที่ร่วมอยู่ในคณะทำงาน ต้องออกมาชี้แจงเอง ว่า ทำไมการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นาล่าช้า อย่าให้บุคลากร สธ.ต้องเป็นผู้ร้ายตลอด

วันนี้ (3 ก.ค.) เฟซบุ๊ก Suphachai Jaismut ของ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความกรณีวัคซีนทางเลือก โมเดอร์นา ที่ถูกกล่าวหาว่า ยังไม่ได้รับใบสั่งซื้อจากองค์การเภสัชกรรม โดยระบุว่า

“เวลานี้คนไทยคงจะงงๆ กับข่าวเรื่องวัคซีนสารพัดวัคซีน งงว่าตัวไหนคือตัวหลัก ตัวเสริม หรือทางเลือก ซึ่งวัคซีนทางเลือกคนจะสั่งหรือซื้อมาฉีด คือ รพ.เอกชน ข่าวที่ออกมาว่า นพ บุญ วนาสิน อัดรัฐบาลเรื่องวัคซีนโมเดอร์นานั้น ผมว่าเป็นเรื่องที่ท่าน นพ.ปิยะสกล และ หมอบุญ เองนั่นแหละ ที่จะต้องมาช่วยบอกความคืบหน้าต่อประชาชน ถามว่า ทำไมต้องให้สองท่านนี้มาบอก?

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เชิญตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการจัดหาวัคซีนทางเลือกของโรงพยาบาลเอกชน ที่ทำเนียบรัฐบาล

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ครอบคลุมการให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงแต่งตั้ง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน และมีกรรมการร่วม โดยมี นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนภาคเอกชน ร่วมอยู่ด้วย เพื่อหารือถึงแนวทางให้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน พูดง่ายๆ คือ วัคซีนทางเลือก เช่น โมเดอร์นา นั้น เป็นงานของคณะกรรมการชุดของท่านทั้งสอง ผมจึงเห็นว่า
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร และ นพ.บุญ วนาสิน น่าจะได้ออกมาชี้แจงเรื่องของวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา เพราะเป็นผู้รู้เรื่องเป็นอย่างดีว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ในฐานะเป็นประธาน และกรรมการที่ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง ไม่ควรจะออกมาโวยวายเสียเองเช่นนี้

ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ร้ายตลอดนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดหา กระจาย วัคซีนหลัก คือ แอสตร้าเซนเนก้า และ วัคซีนเสริม คือ ซิโนแวค ซึ่งผมว่ากระทรวงสาธารณสุขก็ได้รายงานผลการดำเนินการต่อประชาชน เป็นระยะๆ อยู่ตลอดเวลา

เวลานี้ หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ทุ่มเททำงานอย่างถวายชีวิต ไม่ว่าผู้บริหารระดับกระทรวง กรม จนถึงจังหวัด อำเภอ ตำบล ยามนี้การให้กำลังใจกันดีกว่าการด่ามิใช่หรือ”

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ครอบคลุมการให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่มีรายชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข อยู่ในคำสั่งนี้แต่อย่างใด

3 ก.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
“ธนกร” แนะ “ศุภชัย” อย่าเสียเวลาโทษกันไปมา เชื่อทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง สู้เอาเวลาช่วยกันหาทางออกให้ประเทศร่วมกันดีกว่า ลั่น “บิ๊กตู่” ไม่เอาไว้ หากใครคิดหากินกับประชาชน วอนสงสารนายกฯ ถูกด่าก่อนเสมอในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

วันนี้ (19 ก.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นแพะรับบาปของ ศบค. เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดหาวัคซีน เนื่องจากนายกฯ แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมี อ.ปิยะสกล เป็นประธาน เพื่อกำหนดวัคซีนหลัก วัคซีนทางเลือก ซึ่งมีอำนาจเหนือนายอนุทิน ในการจัดการเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน ว่า ตนกับนายศุภชัยคุ้นเคยกันดี ตนอยากบอกนายศุภชัยว่าทุกคนในรัฐบาลต่างมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบที่ต่างกันไป และทุกหน้าที่ของทุกคนก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่มีใครอยู่เหนือใคร ทั้งนี้ ครม.เมื่อได้รับคำแนะนำให้จัดหาวัคซีน ก็เร่งจัดงบประมาณให้ และจัดให้เท่าไหร่ อย่างไรนั้น ก็ฟังข้อเสนอจากกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะให้รัฐบาลดำเนินการอย่างไร ดังนั้น กรณีนี้เบื้องต้นตนยังเชื่อว่าน่าจะเกิดความเข้าใจผิดกันมากกว่า อย่าเสียเวลาโทษคนนั้นคนนี้ว่าเป็นแพะอยู่เลยครับ เอาเวลาไปหาทางออกให้ประเทศร่วมกันยังดูมีประโยชน์มากกว่า

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายศุภชัยตั้งข้อสังเกตว่ามีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรหรือไม่ และ ศบค.มองเห็นหรือไม่นั้น ประโยคนี้หากมองเผินๆ ก็คงไม่ต่างจากการที่นายศุภชัยกำลังจะโยนให้ ศบค.เป็นแพะแทนนายอนุทินใช่หรือไม่ เมื่อนายศุภชัยไม่ชอบให้หัวหน้าพรรคตัวเองถูกมองเป็นแพะ ก็ไม่ควรทำให้รัฐบาลเป็นแพะในสายตาประชาชนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า วันนี้คงไม่มีใครในรัฐบาลที่จิตใจอำมหิตพอจะคิดหากินกับประชาชนที่กำลังเดือดร้อน และเสียขวัญอย่างแน่นอน แต่หากนายศุภชัยมีหลักฐานข้อมูลที่ชัดเจน ก็สามารถฝากมาให้นายกฯ พิจารณาได้ ท่านพร้อมรับฟังเสมอ และจะไม่ปล่อยเอาไว้อย่างแน่นอน หรือจะส่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบตามกระบวนการของกฎหมายก็ย่อมได้

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากนายศุภชัยบอกว่า นายอนุทินวันนี้กลืนเลือด ยอมให้ด่าทุกเรื่องนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม น่าจะเป็นคนที่กลืนเลือดและยอมถูกด่ามากกว่า เพราะไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการอะไร ท่านนายกฯ ก็ยอมถูกด่าก่อนเสมอในฐานะหัวหน้ารัฐบาล อย่างไรก็ตาม ทุกการทำงานย่อมมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ดังนั้น ใครได้รับมอบหมายอะไรไปก็ควรไปทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่โยนไปมาว่าใครเป็นคนผิด ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ เพราะถ้าจะหาคนรับผิดชอบก็คงต้องรับผิดชอบร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้น สู้เอาเวลาไปชี้แจงประชาชนให้เห็นถึงสิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งมักจะชอบบิดเบือน และพยายามสร้างความสับสนให้กับประชาชนมาตลอดยังจะดีเสียกว่า อย่ามัวแต่โทษกันเลยครับ ถ้าไม่สงสารท่านนายกฯ ก็ควรสงสารประชาชนที่รอคอยฟังข่าวจากรัฐบาลอยู่ทุกวี่วันบ้าง อย่าทำให้ประชาชนยิ่งสับสนไปกว่านี้อีกเลย เพื่อที่จะได้ช่วยกันพาประเทศฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

19 ก.ค. 2564 ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
รองโฆษก ภท. อัด โฆษก พปชร. ปกป้องใครควรดูข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีคำสั่งนายกฯ ตั้งคณะทำงานจัดหาวัคซีนให้ รพ.เอกชน เป็น คกก. กำหนดนโยบายวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือก กำหนดราคาขาย กินส่วนต่าง 3 พันล้าน จี้ “ปิยะสกล” ออกมาชี้แจง ปชช.

วันนี้ (19 ก.ค.) นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ออกมาเรียกร้องไม่ให้พรรคภูมิใจไทย มีความหนักแน่น ไม่กล่าวโทษกันไปกันมาว่า สิ่งที่ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคการเมือง ออกมาแสดงความเห็นเป็นเรื่องการทำงานที่มีปัญหาของคณะกรรมการที่นายกฯตั้งมาจัดการเรื่องวัคซีน ไม่ทราบว่า คนของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งสองคน คือ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และ นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวอะไรในเรื่องนี้

“สิ่งที่ นายศุภชัย แสดงความเห็นมีอะไรที่ไม่เป็นความจริง เป็นความจริงใช่หรือไม่ ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ไม่ได้มีอำนาจหน้าในการจัดหาวัคซีน และถ้าไม่ใช่ทำไมคนมีอำนาจหน้าที่ถึงไม่ออกมายอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตน ไม่ใช่นายอนุทิน แต่กลับเงียบเฉย การเรียกร้องให้ คือ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานคณะทำงานจัดหาวัคซีน หรือ ศบค.ออกมาเปิดเผยเป็นประโยชน์กับประชาชนใช่หรือไม่ และถ้าคณะกรรมการนี้มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่เรื่องโควิด ก็ควรจะถูกตำหนิจากประชาชนใช่หรือไม่” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่า การที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมกำหนดให้ โมเดอร์นา เป็นวัคซีนทางเลือก ให้องค์การเภสัชกรรม จัดซื้อมาขายในราคา 1,100 บาท แล้ว รพ.เอกชน เอาไปฉีดให้ประชาชน ราคา 1,650 บาท มีส่วนต่าง 600 บาท สั่งซื้อมา 5 ล้านโดส มีส่วนต่างประมาณ 3,000 ล้านบาท โรงพยาบาลเอกชน จะได้รับไปจากการดำเนินการครั้งนี้ แม้จะเป็นความสมัครใจของประชาชน ที่ต้องการจ่าย เพราะรัฐไม่มี โมเดอร์นา เนื่องจากคณะทำงานกำหนดให้เป็นวัคซีนทางเลือก รัฐไม่จัดซื้อ และไม่มีให้บริการในสถานพยาบาลของรัฐ แต่ส่วนต่าง ควรจะเป็นเท่าไร อยากจะให้พิจารณา โดยประชาชนควรจะมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด

นายณัฏฐ์ชนน กล่าวด้วยว่า การให้เอกชนกำหนดนโยบาย, เอกชนกำหนดชนิดวัคซีน, เอกชนกำหนดแนวทางดำเนินการ, เอกชนกำหนดราคาซื้อและราคาขาย, เอกชนรับผลประโยชน์ส่วนต่างราคา ทั้งหมดนี้เอกชนมาเป็นผู้กำหนดแนวทางการจัดหาวัคซีนของรัฐ และเอกชน หรือไม่ นพ.ปิยะสกล ควรจะต้องชี้แจง ถามว่า เรื่องเหล่านี้เราจะปล่อยผ่านได้อย่างไร คนออกมาตอบโต้เข้าใจ สนใจเรื่องราวนี้แค่ไหน นอกจากมาประดิษฐ์ถ้อยคำสวยๆ เท่ๆ ออกมาปกป้องใครโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงอะไรเลย เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับ ครม. เป็นเรื่องของ ศบค. และคณะทำงาน ที่มี นพ.ปิยะสกล ดังนั้น หากจะแถลงอะไรควรจะศึกษาให้ถูกต้อง และอย่าโชว์ความไม่ฉลาดอะไรแบบนี้ออกมา อายคนอื่นเขา และอยากเรียกร้องว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ควรจะออกมาโต้ตอบกันไปมา หากแต่ลงไปช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่าไหม

19 ก.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์