ผู้เขียน หัวข้อ: ยังพยายามส่งกำหนดเดิม ปูด “อนุทิน” ฉุน “สาธิต” พูดแอสตราฯ เลื่อนส่งวัคซีน  (อ่าน 276 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
ปูด “อนุทิน” ไม่พอใจ “สาธิต” เผยแอสตราเซเนกาส่งวัคซีนช้าถึง พ.ค. ปีหน้า ยัน พยายามส่งให้ทันกำหนดเดิม ประเมินช้าสุดต้นปี 65 เผย รมช.สธ. เตรียมแถลงขอโทษ แต่เปลี่ยนใจ โพสต์ยันเป็นข้อเท็จจริง

จากกรณีที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการส่งมอบวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) โดยระบุว่า การจัดส่งวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสจะไม่ทันตามกำหนดการเดิมภายในสิ้นปี 2564 และคาดการณ์ว่าแอสตราเซเนกาจะสามารถจัดส่งวัคซีนครบ 61 ล้านโดส ได้ในช่วงเดือน พ.ค. 2565 จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยสัญญาที่ลงนามกับแอสตราเซเนกา เพื่อร่วมกันตรวจสอบนั้น

ล่าสุดวันนี้ (16 ก.ค. 2564) รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ภายหลังจากมีการเผยแพร่คำพูดของ นายสาธิต นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริง นายสาธิต ยืนยันว่าเป็นผู้ให้สัมภาษณ์จริง และยืนยันว่าต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน ซึ่งนายอนุทิน ได้แสดงความไม่พอใจอย่างมาก เพราะถือเป็นข้อมูลที่ยังไม่มีการยืนยันจากทางแอสตราเซเนกา และคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง กระทบต่อวาระแห่งชาติในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564

“เนื่องจากแอสตราเซเนกา ยังยืนยันว่าจะพยายามจัดส่งวัคซีนให้ทันตามกำหนดการเดิม แต่หากจะต้องเลื่อนออกไปก็จะใช้เวลาไม่นาน ซึ่งในช่วงต้นปี 2565 น่าจะจัดส่งได้ครบ 61 ล้านโดส ไม่น่าจะใช้เวลานานจนเกินไป หรือไม่น่าจะเลยไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง” แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายอนุทิน

ทั้งนี้ รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ภายหลังการพูดคุยกับนายอนุทินแล้ว นายสาธิตรับปากว่าจะเป็นผู้ออกมาแถลงข่าวแก้ไขข้อมูล และพร้อมขอโทษต่อประชาชนที่สร้างความสับสน โดยได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวนัดหมายว่าจะชี้แจงในเวลา 20.00 น. ของวันที่ 15 ก.ค. แต่เมื่อถึงเวลานายสาธิต กลับโพสต์ข้อความยืนยันว่า “ผมยังคงที่จะพูดความจริงให้ประชาชนรับทราบ ทาง AZ (แอสตราเซเนกา) ยอมรับโดยไม่ปฏิเสธ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป”.

16 ก.ค. 2564
ไทยรัฐออนไลน์
......................................
“สาธิต” ยอมรับ แอสตราเซเนกา ขยายส่งมอบวัคซีนให้ไทยออกไปถึง พ.ค. ปี 65

“สาธิต” เผย วัคซีนแอสตราเซเนกา ขยายส่งมอบให้ไทยออกไปถึง พ.ค. ปีหน้า มอบ 2 หน่วยงานเร่งเจรจาให้ได้ตามเป้า ชี้ ยังไม่บูสต์เข็ม 3 ให้ประชาชนทั่วไปที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม

วันที่ 15 ก.ค. 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงมติการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในปี 2565 จำนวน 120 ล้านโดส ว่า กรอบการจัดหาวัคซีนของปี 2565 เดิม 50 ล้านโดส ที่ประชุมพิจารณาขอขยายกรอบไปเป็น 120 ล้านโดส ทุกเทคโนโลยี ทั้ง mRNA ไวรัล เวกเตอร์ และอื่นๆ รวมถึงการให้วัคซีนกับเด็กที่จะต้องมีการเพิ่มในอนาคต

“จริงๆ มีคลาดเคลื่อนนิดหน่อย ตัวเลขของปี 2564 จากเดิมแอสตราเซเนกา จะกำหนดส่งให้เราภายในเดือน ธ.ค. แต่ขยายมาน่าจะเป็น พ.ค. ปีหน้า 61 ล้านโดส (ยอดรวม) ในสัญญาอาจจะไม่ได้มีเงื่อนเวลา แต่อาจจะมีจำนวนเต็มทั้งหมด แต่เงื่อนเวลาเป็นแผนที่เสนอและพุดคุยกัน เน้นเรื่องการเจรจา สงครามวัคซีนในช่วงเวลานี้ต้องยอมรับว่าเป็นอำนาจของผู้ขาย เพราะฉะนั้นการกำหนดในสัญญาต่างๆ จะไม่ค่อย commit ในเรื่องเวลา”

นายสาธิต ระบุต่อไปว่า ที่กล่าวไปเป็นกรอบเวลา แต่หากผลิตได้มากก็อาจจะส่งได้ทัน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์โควิดกับสถานการณ์วัคซีนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์ เรื่องการระบาดของโควิดแต่ละส่วน จึงมีการเปลี่ยนไปมา กรอบคือการตั้งกรอบไว้เพื่อที่จะให้กรมควบคุมโรคกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติไปจัดหา และภายใต้เงื่อนไขความเปลี่ยนแปลง เช่น บังเอิญปีหน้าไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ในอนาคตอาจจะมีวัคซีนที่ผลิตมาเพื่อให้ครอบคลุม จึงเป็นกรอบกว้างๆ

ทั้งนี้ กรณีสัญญาแอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส จะยืดการส่งมอบไป พ.ค. 2565 แล้วไทยจะจัดการปัญหาอย่างไรนั้น นายสาธิต ตอบว่า ทุกส่วนวางแผนได้ในส่วนที่มีความพยายามอย่างเต็มที่ในวัคซีนที่ได้รับทุกยี่ห้อมาจัดการฉีดให้คนไทยเร็วและทั่วถึงที่สุด โดยแอสตราเซเนกา บอกว่าจะส่งให้เรา 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ขณะนี้แจ้งมาว่ากำลังการผลิต 15 ล้านโดสต่อเดือน แต่ในอนาคตอาจจะผลิตได้มากกว่า จึงเป็นเรื่องที่ต้องเจรจาว่าในสถานการณ์ที่ไทยกำลังต้องการวัคซีนอย่างมาก เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลสูงขึ้น มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ต้องการวัคซีนมาหยุดยั้งการระบาดและกระจายไปให้ทุกคนในประเทศ

เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องนำวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ได้รับตามที่คุยกันได้ มากับวัคซีนตัวอื่นด้วย เช่น ซิโนแวค ถ้าสมมติเดินหน้าฉีดจากที่ทำการเก็บตัวอย่างแล้วในการฉีดซิโนแวค แล้วตามด้วยแอสตราเซเนกา สามารถที่จะป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้ประมาณ 60-70% ก็เอาส่วนนี้มาบริหาร

ส่วนเรื่องการปรับสูตรฉีดวัคซีนที่ดูแล้วต้องใช้แอสตราเซเนกาเพิ่มขึ้น จะหาจากไหนมาเพื่อรองรับในจุดนี้หากแอสตราเซเนกาขอขยายการส่งมอบนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบว่า ต้องเจรจาให้เข้าใจถึงสถานการณ์ในประเทศไทย อยากได้ตามเป้า 10 ล้านโดสต่อเดือน และขณะนี้คนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ยังไม่มีนโยบายบูสต์เข็มที่ 3 จะให้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าเท่านั้น เพื่อให้วัคซีนทั่วถึงคนไทยทุกคนก่อน

นอกจากนี้ นายสาธิต ยังตอบคำถามเรื่องร่างประกาศกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศ ว่า ยังเป็นการเสนอมา แต่ก็มีการมอบหมายสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรคเจรจากับแอสตราเซเนกาอย่างถึงที่สุด เน้นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงในสถานการณ์ที่ประเทศอื่นมีวัคซีนที่ยังไม่ต้องการจะสามารถสลับมาให้ไทยได้ก่อนหรือไม่ ทำเต็มที่เพื่อให้ได้ตามเป้า แต่การใช้อำนาจบางครั้งก็ได้ผล บางครั้งก็ไม่ได้ผล ต้องใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม สำหรับสังคมไทยส่วนตัวมองว่าความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด ทั้งการให้ข้อมูลที่โปร่งใสและเป็นจริง.

15 ก.ค. 2564
ไทยรัฐออนไลน์
...................................................
“สาธิต” ยันพูดความจริง แอสตราเซเนกา แจ้งจัดส่งวัคซีนให้ไม่ได้ตามไทม์ไลน์

“สาธิต” ยัน พูดความจริงให้ประชาชนทราบ “แอสตราเซเนกา” แจ้งไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้ตามไทม์ไลน์ แต่รัฐไม่นิ่งนอนใจ จัดหาวัคซีนอื่นเพิ่มเติมเต็มที่

เมื่อเวลา 20.13 น. วันที่ 15 ก.ค. 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก กรณีให้สัมภาษณ์ว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา ขอขยายการส่งมอบออกไปถึง พ.ค. 2565 ว่า ยังคงที่จะพูดความจริงให้ประชาชนรับทราบ เคยกล่าวไว้แล้วในการประชุมสภาว่า เราทำแผนฉีดวัคซีนตามศักยภาพในการฉีดส่งให้แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เพื่อให้จัดส่งวัคซีนให้ ซึ่งทางแอสตราเซเนกายอมรับโดยไม่ปฏิเสธ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะจัดหาวัคซีนอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างเต็มที่

“แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป แอสตราเซเนกา แจ้งว่าไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้เราได้ตามไทม์ไลน์ที่เราได้แจ้งไว้ รัฐบาลก็เพิ่มความเข้มข้นในการจัดหาวัคซีน โดยไม่ได้หวังพึ่งแอสตราเซเนการายเดียว ซึ่งเป็นไปตามที่มีผู้ให้คำแนะนำมาโดยตลอดว่าไม่ให้หวังพึ่งวัคซีนจากเพียงรายเดียว และเรากำลังดำเนินการอยู่อย่างเร่งด่วน”

พร้อมยืนยันว่าได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ในส่วนของเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในการส่งออก และการเปิดเผยสัญญา นายสาธิต ระบุว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องระมัดระวังตามที่เคยกล่าวไว้ .

15 ก.ค. 2564
ไทยรัฐออนไลน์